บทที่ 116 ชายที่มีค่าตัวห้าสิบล้าน
ซิ่วไจ๋ยื่นั้นในตอนนี้กําลังตกอยู่ในสภาวะตกตะลึง ในขณะที่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดที่เธอได้คิดเกี่ยวกับซูลิ้งไปก่อนหน้านี้
เมื่ออาหารได้ถูกตักเข้าปากไป ทุกคนต่างก็ได้รับรู้สึกได้รับกับว่ากําลังกินอาหารอยู่ในสรวงสวรรค์ชั้นฟ้า
เพียงไม่นาน ทุกๆคนต่างคนต่างกินโดยไม่พูดอะไรออกมาและนี่ทําให้อาหารในจานหมดเกลี้ยงราวกับลมหมุนได้พัดผ่านไป
หลังจากกินอาหารของเจียงฮ่าวไปแล้ว ทุกคนรู้สึกได้ว่าร่างกายเต็มไปด้วยพลังงานที่เปี่ยมล้น
กับเรื่องนี้ ในตอนแรกทุกคนต่างก็คิดว่าต่างคนต่างคิดไปเอง
อย่างไรก็ตาม ซิ่วไจยื่นั้นในวันนี้เธอเหนื่อยมากจริงๆ เพราะต้องยุ่งอยู่ทั้งวัน ความจริงเธอนั้นอยากจะกลับบ้านไปพักผ่อนแล้ว
แต่ด้วยการที่เธอรู้จากเซียฉินว่าวันนี้เธอจะมาหาชูทิ้งแน่นอนว่าเธอนั้นย่อมต้องตามมาด้วย
นั่นก็เพราะก่อนหน้านี้เจียงฮ่าวได้ดูถูกร้านของเธอเอาไว้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทําให้เธอนั้นต้องรู้สึกตกตะลึงยิ่งกว่ารสชาติของอาหารก็คงจะเป็นความรู้สึกเหนื่อยล้าที่หายไปอย่างปลิดทิ้ง
ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือพลังของเธอกลับมาเปี่ยมล้น
นี่ทําให้เธอจําเป็นต้องถามเซียฉินออกมา
“พี่สาวฉน พี่รู้สึกมีพลังขึ้นมาหลังกินไปแล้วรึเปล่า”
ไม่ได้ยินดังนั้น เซียฉันก็มีสีหน้าตกใจในทันที
“ไจ๋ยี่ เธอเองก็ด้วยเหรอ”
ก่อนที่ซิ่วไจยจะพูดอะไรออกมา ทั้งพ่อแม่และน้องสาวของเจียงฮ่าวและเซียนเอ๋อต่างก็พูดออกมาตามๆกัน
“ฉันด้วย”
“หนูด้วย”
“….”
หลังจากพูดจบ ทุกคนต่างก็หันไปมองหน้าเจียงฮ่าว
เจียงฮ่าวเองเมื่อตกอยู่ในสายตาทุกคนนั้นก็ยังคงทําท่าไม่ใช่เรื่องใหญ่
“ฮื้ม อะไรกัน ก็แค่เทคนิคการทําอาหารนิดๆหน่อยๆเอง”
“อาหารที่ผมทํานี้ก็แค่มีสรรพคุณปัดเป่าความเหน็ดเหนื่อย ส่งเสริมจิตวิญญาณ เสริมสร้างร่างกายเพิ่มความอยากอาหาร และยืดอายุไปได้อีกนิสสสสนึ่ง”
เจียงฮ่าวพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ แต่กับซิ่วไจ๋ยี่ เซียฉิน พ่อ แม่ และน้องสาวเจียงฮ่าว นั้น ที่นั่งอยู่ข้างเขานั้นต่างก็ตกใจจนสะดุ้งในทันที
“ห้ะ”
แค่กินอาหารก็มีผลถึงขนาดนั้น
คนที่ทําอาหารที่มีสรรพคุณแบบนั้นได้มีเพียงสุดยอดพ่อครัวเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นคือแค่จํานวนคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดพ่อครัวนั้นช่างน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย และไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าถึงแก่นนี้ได้
ในประเทศจีนเองที่พวกเขารู้จักนั้นมีเพียงสี่คนเท่านั้น
ขนาดซิ่วไจ๋ยี่เองยังมีโอกาสได้พบเจอพ่อครัวเหล่านั้นได้น้อยครั้งมาก พวกเขาจะป รากฏตัวออกมาเฉพาะงานสําคัญเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นคือ คนที่อายุน้อยที่สุดนั้นก็ปาเข้าไป 50 ปีกว่าเข้าไปแล้ว
แต่อายุของเจียงฮ่าวนั้นยังไม่ถึงยี่สิบปีด้วยซ้ำ
เมื่อคิดได้ดังนี้ สายตาของซิ่วไจยี่กลับมาร้อนแรงยิ่งกว่าเดิม
อาหารเหล่านี้เป็นอาหารที่เสริมสร้างร่างกายอย่างที่เธอคิดเอาไว้จริงๆ
ซิ่วไจ๋ยี่ได้คิดถึงบอกสิ่งและพูดออกมาอย่างไม่อิดออดในทันที
“คุณเจียง ฉันขอเสนอเงินห้าสิบล้านเพื่อเชิญคุณมาทําอาหารที่ภัตตาคารอาหารชั้นฟ้าของฉัน”
คําพูดของซิ่วไจ๋ยี่ได้ทําให้ทุกคนนั้นจ้องมองไปที่เธอด้วยความตกตะลึงในทันที
แต่ด้วยถ้าที่ที่ไม่เสแสร้งแกล้งทํานี้เป็นเพราะเธอรู้ดีว่าอาหารที่ซูจิ้งทํานั้นมีค่าขนาดไหน
เธอเองก็เคยได้กินอาหารยา(อาหารอายุวัฒนะ)จากปรมาจารย์บางคนครั้งสองคนตั้งแต่เธอได้ทําภัตตาคารสวรรค์ชั้นฟ้าแห่งนี้มา และเธอรู้สึกได้เลยว่าอาหารเหล่านั้นยังเทียบได้กับอาหารของ เจียงฮ่าวได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สายตาของเธอร้อนแรงมากเมื่อมองไปยังเจียงฮ่าว
เมื่อทุกคนได้เห็นดังนั้น พ่อของเจียงฮ่าวและคนอื่นๆต่างก็มองหน้ากันด้วยความตื่น เต้นและหันไปมองเจียงฮ่าวอย่างคาดหวังคําตอบรับ
อย่างไรก็ตาม คําพูดของซิ่วไจยไม่ได้ทําให้เจียงฮ่าวสนใจได้แต่อย่างใด
ท่าทีของเจียงฮ่าวยังคงนิ่งเฉย แน่นอนว่าเขานั้นคิดไว้แล้วว่าซิ่วไจยต้องมีท่าทีแบบนี้
ถึงแม้กับคนอื่นนั้น เงินห้าสิบล้านนี้มันมากมายก็จริง แต่สําหรับเขาแล้วมันไม่ได้ก้อนใหญ่อะไรนัก