ในฐานะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างเฉิงโหรวโหรวเมื่อได้ยินบทสนทนานี้ ก็มีใบหน้าที่ซีดเซียว ร่างกายสั่นเทิ้ม!
ตั้งแต่เธอมาถึงที่องค์กรโกสต์ซิตี้ ก็ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับหัวหน้าน้อยมามากมาย รู้ว่าหัวหน้าน้อยนั้นหน้าตาหล่อเหลา แต่เรื่องที่ทำนั้นล้วนโหดเหี้ยมและเด็ดขาด ทำให้ผู้คนต่างก็ยำเกรงและหวาดกลัว
หัวหน้าน้อยคนนี้ไม่มีแม้แต่ความเมตตา และยิ่งไม่รู้จักคำว่าสุภาพบุรุษอะไรทำนองนั้น ดังนั้นเฉิงโหรวโหรวรู้ดีว่าหัวหน้าน้อยคนนี้ไม่มีทางเมตตาปรานีกับเธอแน่
เมื่อครู่ผู้ดูแลจ้งได้ประกาศว่าเธอไม่ใช่เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ตัวจริง การประกาศของผู้ดูแลจ้งนั้นได้พรากทุกอย่างที่เธอมีในตอนนี้ไปจนหมดทุกสิ่งอย่าง เฉิงโหรวโหรวเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่า ต่อไปเธอคงไม่มีชีวิตที่สวยหรูแบบนี้อีกแล้ว เธอจะกลายเป็นคนที่ไม่มีอะไร และจะต้องกลับไปใช้ชีวิตที่ยากเข็ญแบบเมื่อก่อนอีก
แค่นี้ยังไม่พอเหรอ?
หัวหน้าน้อยยังต้องการอะไรจากเธออีก ?
ไม่รู้ว่าคุณย่าเย่กับคุณปู่เย่หนีกันไปตอนไหน รู้ว่าเฉิงโหรวโหรวไม่ใช่เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ตัวจริง แต่เป็นผู้ที่แอบอ้างมา คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่คงแทบทนรอไม่ไหวที่จะตีตัวออกห่างกับเฉิงโหรวโหรวให้ไกล ดังนั้นก็จึงโกยแนบหนีหายว่องไวปานลิงลม
และในสายตาของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ เรื่องของเฉิงโหรวโหรวนี้เป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้าสำหรับพวกเขา!!
ในตอนนี้นักข่าวที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างก็อยากรู้ว่าหัวหน้าน้อยที่เพิ่งจะมาถึงอยากที่จะชี้แจงอะไร และต้องการจะทำยังไง ดังนั้นก็จึงไม่ได้รีบถามคำถามอะไรกับเฉิงโหรวโหรว แต่ก็ยังคงโอบล้อมเฉิงโหรวโหรวเอาไว้ ไม่ยอมให้เฉิงโหรวโหรวหนีไปไหนได้
ในงานแถลงข่าว หัวหน้าน้อยยืนอยู่ต่อหน้านักข่าว เขาไม่ได้มีใบหน้าที่ไร้อารมณ์เหมือนผู้ดูแลจ้ง ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มจางๆเล็กน้อย
เดิมทีหน้าตาของเขาก็ดูดีอยู่แล้ว และในเวลานี้ก็ประดับไปด้วยรอยยิ้ม ดูสง่างามและชวนหลงใหล
หญิงสาวที่เห็นต่างก็พากันนิ่งอึ้ง ตาค้าง พวกผู้ชายเองต่างก็อดไม่ได้ที่จะก่นด่า หน้าตาดีขนาดนี้ ยังใช่มนุษย์เดินดินอยู่หรือเปล่า?!
“เกี่ยวกับเรื่องของเจ้าหญิงตัวปลอม ผมจะขอชี้แจงเพิ่มเติมอีกสองประเด็น ” ริมฝีปากของหัวหน้าน้อยขยับเล็กน้อย อ้าปากพูดขึ้นอย่างช้าๆ น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยแรงดึงดูด ช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก
หญิงสาวหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ต้องมนต์เสน่ห์และถูกครอบงำจนเป็นลมล้มพับตามๆกัน
โชคยังดี ที่นักข่าวในที่นี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย และพวกเขาบอกกับตัวเองว่าให้สนใจแต่กับสิ่งที่หัวหน้าน้อยจะพูดเท่านั้น อย่าสนใจเรื่องอื่น
“หัวหน้าน้อยต้องการจะชี้แจงเพิ่มเติมประเด็นไหนครับ?”ยังดีที่ยังพอมีคนที่ยังมีสติอยู่บ้าง ถามออกไปอย่างคนมีสติครบถ้วน
“เรื่องแรกเฉิงโหรวโหรวสมรู้ร่วมคิดกับบุคคลระดับสูงขององค์กรโกสต์ซิตี้แอบอ้างตัวเป็นเจ้าหญิง เรื่องนี้องค์กรโกสต์ซิตี้ของเราจะจัดการลงโทษตามกฎระเบียบภายในของเราเอง”
น้ำเสียงของหัวหน้าน้อยยังคงไพเราะเสนาะหู และฟังดูอ่อนโยนมาก แต่ถ้อยคำที่พูดออกมานั้นเย็นเยือกดั่งน้ำแข็ง ทำให้รู้สึกหนาวเหน็บไปจนถึงก้นบึ้งของหัวใจ
ที่หัวหน้าน้อยพูดไม่ได้หมายถึงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่เป็นการจัดการตามกฎระเบียบภายในขององค์กรโกสต์ซิตี้
และกฎระเบียบภายในขององค์กรโกสต์ซิตี้นั้นคืออะไร คนภายนอกย่อมไม่อาจรู้ได้ แต่ดูจากท่าทีของหัวหน้าน้อยในตอนนี้ กฎระเบียบภายในขององค์กรโกสต์ซิตี้คงไม่ได้มีความเมตตาปรานีอะไร
เจิ้งฉงในฐานะผู้ดูแลรับผิดชอบองค์กรโกสต์ซิตี้ในเมืองA เขาก็พอรู้กฎภายในบางอย่างขององค์กรโกสต์ซิตี้ และเขาก็เคยได้ยินถึงวิธีการจัดการที่โหดร้ายและน่ากลัวเหล่านั้นมาบ้าง
ทำไมถึงพูดว่าเคยได้ยิน ? เพราะจนถึงตอนนี้ เขายังไม่เคยได้เห็นมันกับตาตัวเองมาก่อน เพราะในองค์กรโกสต์ซิตี้วิธีการลงโทษคนแบบนี้นับว่าน้อยครั้งนักที่จะได้ใช้มันมาลงโทษใคร
ว่ากันว่าเคยเกิดขึ้นเมื่อยี่สิบปีก่อน เหมือนว่าคนคนนั้นจะทรยศหัวหน้า ทำให้หัวหน้าได้รับบาดเจ็บสาหัส และตอนนั้นผู้ดูแลจ้งเป็นคนลงมือจัดการเอง
เจิ้งฉงได้ยินเพียงว่าในเวลานั้นมันเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก ขนาดนักฆ่าเลือดเย็นบางคนที่ได้รับการฝึกฝนในองค์กรโกสต์ซิตี้เห็นมันแล้วยังต้องสั่นสะท้าน และได้ยินว่าคนที่ขวัญอ่อนพอได้เห็น ก็ถึงกับเป็นล้มหมดสติไปเลย
แน่นอนว่าเจิ้งฉงก็แค่ได้ยินมา ไม่เคยเห็นมันกับตา และไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วมันเป็นยังไงกันแน่ แต่คนที่ทรยศหัวหน้าคนนั้นจุดจบไม่สวยแน่ วิธีการลงโทษคนขององค์กรโกสต์ซิตี้นั้นไม่เหมือนกัน ย่อมต้องพิจารณาจากความผิดที่ก่อขึ้นแล้วเลือกวิธีการมาลงโทษ แต่ถึงขนาดให้หัวหน้าน้อยเป็นคนเอ่ยปากพูดขึ้นมาเองได้ จุดจบย่อมไม่สวยแน่นอน
ผู้ดูแลจ้งเงยหน้าขึ้น แล้วเหลือบมองไปยังหัวหน้าน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร และไม่คิดที่จะห้ามปราม
ไม่ว่าตอนนี้หัวหน้าน้อยคิดจะพูดอะไร จะทำอะไร เขามีแต่จะสนับสนุนเท่านั้น
แต่ไม่ว่าจะยังไง การกระทำของหัวหน้าน้อยในเรื่องนี้ก็ถือว่าจัดการได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่เมื่อครู่หัวหน้าน้อยบอกว่ามีสองเรื่องที่จะชี้แจง แล้วอีกเรื่องล่ะมันคืออะไร ?
“ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ฉันถูกหลอกใช้ พวกคุณจะมาใส่ร้ายฉันแบบนี้ไม่ได้”เฉิงโหรวโหรวไม่รู้ว่าบทลงโทษขององค์กรโกสต์ซิตี้นั้นเป็นยังไง แต่เฉิงโหรวโหรวดูจากท่าทีของหัวหน้าน้อยในตอนนี้ ก็พอรู้ว่าบทสรุปของเรื่องนี้ต้องน่ากลัวมากแน่ๆ
แต่เธอถูกใส่ร้าย เธอไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน นี่ไม่ใช่แผนการที่เธอคิดวางเอาไว้
ตอนนี้เฉิงโหรวโหรวหวาดกลัวมาก เธอกรีดร้องประท้วงเสียงดัง
แต่ในงานแถลงข่าว หัวหน้าน้อยไม่ได้ยินเสียงเธอ หรือต่อให้หัวหน้าน้อยได้ยินก็คงไม่คิดที่จะสนใจ
หัวหน้าน้อยเป็นคนที่คิดอยากทำอะไรก็ทำอย่างนั้น เฉิงโหรวโหรวจะรู้อยู่ก่อนหรือไม่นั้นไม่ได้สำคัญเลย ที่สำคัญคือเรื่องนี้มีผลที่ตามมา และยังมีเรื่องที่เฉิงโหรวโหรวหาเรื่องใส่ตัวนั้นอีก
นัยน์ตาคู่คมของหัวหน้าน้อยจ้องมองไปยังนักข่าวที่อยู่เบื้องหน้า เอ่ยพูดขึ้นอีกครั้งว่า“เรื่องที่สอง คนที่สมคบคิดกับเฉิงโหรวโหรว คิดการวางแผนจะทำอะไรกับองค์กรโกสต์ซิตี้ของเรา องค์กรโกสต์ซิตี้ของเราไม่ปล่อยเอาไว้แน่”
ทันทีที่หัวหน้าน้อยพูดออกมา ทั่วทั้งบริเวณต่างก็เงียบไปชั่วขณะ จากนั้นทุกคนก็ถึงได้สติ แม้ว่าหัวหน้าน้อยจะไม่ได้พูดเจาะจงถึงใคร แต่ทุกคนต่างก็รู้ว่าหัวหน้าน้อยนั้นหมายถึงใคร ?
เพราะตอนนี้คนที่ไปมาหาสู่กับเฉิงโหรวโหรวมากที่สุดก็คือตระกูลเย่ และระยะนี้เฉิงโหรวโหรวก็ไปพักอาศัยอยู่ที่ตระกูลเย่ และไปเฝ้าเย่โป๋เหวินด้วย คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก็แสดงออกชัดเจนว่าต้องการให้คุณชายสามเย่แต่งงานกับเฉิงโหรวโหรวอีกด้วย
ดังนั้น คำพูดของหัวหน้าน้อยก็ชี้ชัดว่ามุ่งเป้าไปที่คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ หัวหน้าน้อยคนนี้ช่างหยิ่งทะนงจริงๆ และคำพูดนี้ก็ตรงไปตรงมามากพอ
สำหรับหัวหน้าน้อยแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้แล้วคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่ได้สลักสําคัญอะไรกับเขาเลย และหัวหน้าน้อยเองก็ไม่ได้เกรงกลัวอะไรด้วย
คิ้วของผู้ดูแลจ้งเลิกขึ้นเล็กน้อย มุมปากก็มีรอยยิ้มยกหยักขึ้น ที่หัวหน้าน้อยทำแบบนี้ไม่ใช่แค่จะเล่นงานเฉิงโหรวโหรว แต่เห็นชัดว่าหัวหน้าน้อยกำลังโกรธแทนคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอยู่
ก่อนหน้านั้นอะเหลียงเคยพูดว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังน่าจะเป็นลูกสาวของหัวหน้า ตอนนั้นเขาก็ยังแอบสงสัย แต่เห็นชัดว่าหัวหน้าน้อยนั้นเชื่อสนิทใจไปแล้ว
ผู้ดูแลจ้งจำได้ว่าครั้งล่าสุดตอนที่หัวหน้าทำการตรวจดีเอ็นเอนั้น หัวหน้าน้อยเคยพูดว่า หากหัวหน้ายอมรับในตัวลูกสาวคนนี้ เขาก็จะแต่งงานกับเธอ
เขาเฝ้ามองหัวหน้าน้อยเจริญเติบโตมาตั้งแต่เด็ก นิสัยใจคอของหัวหน้าน้อยเขาย่อมรู้ดีกว่าใครๆ หากเป็นผู้หญิงที่ไม่เคยพบเจอหน้ากันมาก่อน และเป็นผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จัก หัวหน้าน้อยไม่มีทางจะพูดคำว่าจะแต่งงานด้วยแน่ๆ
และเห็นชัดว่า คนที่หัวหน้าน้อยบอกว่าจะแต่งงานด้วยนั้นก็คือคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง
ตอนนี้ พวกเขาก็รู้แล้วว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็คือเวินลั่วฉิง เป็นลูกสาวของเวินจือฝางตระกูลเวิน แต่ท่าทีของหัวหน้าที่มีต่อคุณหนูใหญ่ตระกูลถังนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย และยังคงชัดเจนว่า ท่าทีของหัวหน้าน้อยที่มีต่อคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็ไม่ได้เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
หัวหน้ากับหัวหน้าน้อยต่างเป็นคนตรงๆ สิ่งที่พวกเขาทำล้วนจริงใจ หัวหน้ากับหัวหน้าน้อยต่างก็ชื่นชอบคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจริงๆ ดังนั้นคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้หรือไม่ก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลย
ในขณะนี้เองคุณปู่เย่ที่นั่งอยู่บนรถก็กำลังดูการถ่ายทอดสดอยู่ด้วยเช่นกัน และได้ยินในสิ่งที่หัวหน้าน้อยพูด
“นี่เขาหมายความว่าอย่างไร?เขาต้องการจะทำอะไรอย่างนั้นเหรอ?”สีหน้าของคุณปู่เย่เปลี่ยนไปทันที น้ำเสียงก็สูงขึ้นเล็กน้อยด้วยเช่นกัน
ช่วงนี้คุณปู่เย่ให้คนไปสืบเรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้มาไม่น้อย ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าอำนาจและอิทธิพลขององค์กรโกสต์ซิตี้นั้นมีมากแค่ไหน อย่าว่าแต่ตระกูลเย่เลย ต่อให้มีอีกสิบตระกูลเย่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ขององค์กรโกสต์ซิตี้
หากองค์กรโกสต์ซิตี้คิดจะจัดการกับพวกเขา พวกเขาย่อมรับมือไม่ได้แน่ มีแต่รอความตายเท่านั้น
“ความหมายของหัวหน้าน้อยคือจะเล่นงานเราใช่ไหม?” คุณย่าเย่เองในตอนนี้ก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาด้วยเช่นกัน และเธอก็รู้ถึงผลที่จะตามมาอีกด้วย
“เราก็ไม่รู้มาก่อนว่าเฉิงโหรวโหรวจะเป็นเจ้าหญิงตัวปลอม เราก็ถูกหลอกเหมือนกัน และเรื่องของเรากับเฉิงโหรวโหรวก็ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรกับองค์กรโกสต์ซิตี้ ทำไมหัวหน้าน้อยถึงคิดจะเล่นงานพวกเราด้วย แล้วมันจะมีผลดีอะไรกับองค์กรโกสต์ซิตี้ ? แม้ว่าตระกูลเย่ของเราจะสู้อะไรองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้ แต่ถ้าสองตระกูลคิดจะห้ำหั่นกัน ก็ย่อมต้องสร้างความเสียหายให้กับองค์กรโกสต์ซิตี้อยู่ไม่น้อย เพราะตอนนี้หัวหน้าน้อยเป็นผู้นำขององค์กรโกสต์ซิตี้ คงไม่คิดอะไรบุ่มบ่ามหรอกมั้ง?” ในใจของคุณย่าเย่ยังเปี่ยมไปด้วยความหวังอยู่เล็กน้อย!!