บทที่ 273 จบการศึกษาก่อนกำหนด

บทที่ 273 จบการศึกษาก่อนกำหนด
โดย
EnjoyBook
บทที่ 273 จบการศึกษาก่อนกำหนด

 

ชีวิตในมหาวิทยาลัยช่างจำเจและเคร่งเครียด

 

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงเป็นสถานศึกษาอันทรงเกียรติ บรรยากาศการเรียนการสอนช่างแตกต่างจากที่อื่น ๆ นัก หากคน ๆ นั้นไม่ขยันเรียนอย่างหนักที่นี่ พวกเขาก็ไม่สามารถอยู่ร่วมกับบรรยากาศแบบนี้ได้

 

หลินชิงเหอไม่ว่างเลยสักขณะเดียว ด้วยผลการเรียนอันยอดเยี่ยม อาจารย์ของเธอจึงให้เธอเป็นผู้สอนแทนอาจารย์ภาษาอังกฤษคนหนึ่งที่งานยุ่งมากในช่วงนี้

 

แม้หลินชิงเหอจะรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง แต่เธอก็รับงานนี้ นี่เป็นโอกาสอันดีที่เธอจะได้ฝึกฝน จะพลาดได้อย่างไรล่ะ?

 

เธอจึงเดินไปที่เวทีและเริ่มการเรียนการสอน

 

อาจารย์ของเธอทำเพียงยืนสังเกตอยู่ด้านหลัง หากเป็นคนอื่นก็จะรู้สึกกดดันไม่น้อย แต่หลินชิงเหอไม่รู้สึกกดดันเลยสักนิด

 

สิ่งที่ต้องพูดล้วนได้รับการอธิบาย หากมีคนไม่เข้าใจ พวกเขาก็จะนำมาซักถาม หลินชิงเหอก็จะอ่านผ่าน ๆ ทีละคำถาม ขณะเดียวกันเธอเองก็ได้รับความรู้อย่างอื่นไปด้วย

 

เธอแนะนำหนังสือที่ไว้อ่านเกี่ยวกับไวยากรณ์และวลีต่าง ๆ ให้นักศึกษาเนื่องจากเวลามีอยู่จำกัด และยังบอกให้พวกเขาไปหาอ่านเอาในห้องสมุด

 

หลังจบการสอน หลินชิงเหอก็ถูกอาจารย์เรียกเข้าไปในห้องพักอาจารย์

 

“เธอจะสอนภาษาอังกฤษแทนให้กับชั้นเรียนอื่น ๆ ได้ไหม?” อาจารย์ของเธอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

 

“ได้ค่ะ” หลินชิงเหอพยักหน้า

 

ดังนั้นนับจากวันนี้เป็นต้นไป หลินชิงเหอก็จะมีการสอนหนังสือเป็นครั้งคราว

 

ช่วยไม่ได้นี่นะ อาจารย์ภาษาอังกฤษเป็นหญิงวัยกลางคนแล้ว หล่อนมีอายุครบ 35 ในปีนี้และในที่สุดก็ตั้งครรภ์หลังจากไม่มีบุตรมาหลายปี หล่อนจะไม่รู้สึกยินดีกับเรื่องนี้ได้อย่างไรล่ะ?

 

และด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตก่อนหน้านี้ ร่างกายของหล่อนจึงทรุดโทรมอย่างมาก ตอนนี้เด็กคนนี้จึงเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งสำหรับหล่อน

 

เป็นเช่นนี้แล้ว หลินชิงเหอจึงกลายเป็นอาจารย์สอนชั้นเรียนเหล่านี้แทน แต่สอนมาระยะหนึ่งเธอก็ไม่ได้รับการอนุมัติให้เป็นอาจารย์ เธอจึงไม่ได้รับเงินค่าจ้าง

 

เห็นชัดว่าทางมหาวิทยาลัยกำลังทดสอบเธออยู่ หลินชิงเหอจึงรู้สึกเหมือนเธอจบการศึกษาก่อนกำหนดการที่เธอคาดหวังไว้เสียอีก

 

หวังลี่อิจฉาอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นหล่อนก็ยอมรับได้อย่างรวดเร็ว “เธอแน่ใจเหรอว่าจะไม่เรียนต่อหลังจบการศึกษาหรืออะไรพวกนั้น?”

 

ข้อเสนอแนะนี้เป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่ง การมีผลการเรียนดีเช่นนี้ หลายคนจึงเลือกที่จะเรียนต่อ

 

หลินชิงเหอไม่มีแผนที่จะทำแบบนั้น เธอยังคงนั่งอ่านหนังสือ และตอบไปขณะที่ไม่เงยหน้าขึ้น “ฉันอยากทำงานเร็ว ๆ แล้วเพื่อจะได้ขออนุญาตพาสามีกับลูก ๆ มาอยู่ด้วย เธออยากให้ฉันเรียนต่อเหรอ?”

 

“แค่เสียดายน่ะ” หวังลี่เอ่ยตรง ๆ

 

เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เธอไม่เรียนต่อ แม้แต่อาจารย์ของเธอยังมีความคิดแบบเดียวกัน

 

แต่ก็ยังเป็นคำกล่าวนั้นที่ว่าการมีวุติการศึกษาเพียงพอก็ถือว่าพอแล้ว หลินชิงเหอไม่มีความทะเยอทะยานสูงขนาดนั้นหรอก

 

ชีวิตที่เธอใฝ่ฝันก็คือการได้อยู่กับชิงไป๋และซื้อบ้านอีกสักหน่อย เด็ก ๆ ก็จะได้กันคนละหลัง ส่วนพวกเขาสองคนก็เก็บไว้อยู่เอง หลังจากนั้นหากพวกเขาไม่มีเงินแล้วก็อาศัยขายบ้านสักหลัง จากนั้นก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ที่เหลือก็แค่เก็บค่าเช่าบ้าน

 

ความทะเยอทะยานของเธอมีแค่นี้ การเรียนต่อหลังจบปริญญาตรีหรือหลังปริญญาเอกเป็นเรื่องนอกเหนือจากแผนของเธอ

 

“สามีของเธอช่างโชคดีจริง ๆ” หวังลี่ยิ้มเมื่อเห็นว่าเธอไม่หวั่นไหวจากหน้าที่การงานอันมั่นคง

 

“สามีของเธอก็โชคดีเหมือนกัน” หลินชิงเหอยิ้มตอบ

 

เมื่อเห็นว่าไม่มีคนอื่นอยู่ในหอพักแล้ว หวังลี่ก็กระซิบ “หน้าร้อนนี้ฉันได้กลับไปบอกเรื่องนี้กับสามีด้วยล่ะ เขาเห็นด้วยที่จะย้ายเข้าไปอยู่ในเทศบาลในภายภาคหน้า”

 

“แน่นอนว่าเขาต้องเห็นด้วย มีเมียอย่างเธอ เขาจะไม่หวงได้ยังไงล่ะ?” หลินชิงเหอบอก

 

หวังลี่ยิ้มและเอ่ยต่อ “ฉันบอกเขาเกี่ยวกับการทำธุรกิจในอนาคตแล้วล่ะ เขาไม่เห็นด้วย เพราะกลัวว่าจะทำให้ฉันขายหน้าน่ะ”

 

พูดดังนี้แล้ว หลินชิงเหอก็ยิ้มกว้างกว่าเดิม “แม่สามีฉันอยากให้สามีของฉันมาเป็นยามเฝ้าประตูมหาวิทยาลัยล่ะ”

 

“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?” หวังลี่หัวเราะขำ “งั้นลุงหวังก็มีคู่แข่งเสียแล้วสิ”

 

“ฉันไม่แย่งชามข้าวลุงคนนั้นหรอกน่า” หลินชิงเหอโบกมือ จากนั้นก็กลับเข้าประเด็น “สามีเธอคิดยังไงกันนะ? ตอนนี้ไม่มีข้อห้ามอะไรแล้วนี่ ถ้าไม่ทำก็ต้องคิดที่จะก้าวหน้า ครั้งหน้าถ้าเธอกลับไป บอกเขาเลยนะว่าสามีฉันลาออกจากกองทัพแถมยังเข้มงวดกว่าเขาอีก เขายังมีแผนมาอยู่กับฉันเปิดร้านขายของเป็นเถ้าแก่เลย”

 

“เขาจะมาเมื่อไหร่เหรอ? ถ้าถึงเวลาแล้วฉันจะได้พาเขามาเรียนรู้อะไรบางอย่างบ้าง” หวังลี่เอ่ยหลังได้ยินดังนี้

 

“ฉันไม่รู้สิ ถ้าทางมหาวิทยาลัยยอมให้ฉันจบการศึกษาก่อนกำหนดในปีนี้ได้ ฉันก็จะพาเขามาที่นี่ตั้งแต่ต้นปีหน้าเลย” หลินชิงเหอบอก

 

“ฉันไม่คิดว่าอาจารย์หม่าอิงจะตั้งครรภ์ได้ราบรื่นน่ะสิ กลัวว่าหล่อนจะต้องพักนานขึ้น ตอนนี้หล่อนยังท้องอ่อนอยู่ แต่ถ้าหล่อนท้องแก่แล้วหล่อนจะทำงานหนักไม่ได้” หวังลี่บอก

 

ในยุคนี้ขาดแคลนครูอาจารย์อย่างมาก ครูภาษาอังกฤษก็ขาดแคลนมากเช่นกัน พวกเขาต้องสอนนักศึกษาหลายชั้นเรียนและต้องยืนตลอดทั้งวัน ซึ่งคนท้องจะรู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าเดิม พวกหล่อนจะทนไหวหรือ?

 

หวังลี่พูดถูก อาจารย์หม่าอิงขอลาพักในตอนกลางภาคเรียน สามีของหล่อนเป็นคนมาขอลาพักกับทางมหาวิทยาลัย เพราะหล่อนเริ่มรู้สึกกระสับกระส่ายเมื่อคืนนี้ แต่โชคดีที่ไม่มีอะไรฉุกเฉิน

 

สามีของหล่อนไม่ปล่อยให้หล่อนมาที่นี่ หล่อนต้องรอจนกว่าจะคลอดบุตรถึงจะมาได้

 

ผลก็คือทางมหาวิทยาลัยจึงมีข้อยกเว้นให้หลินชิงเหอผู้เป็นอาจารย์สอนแทนได้จบการศึกษาก่อนกำหนด และแน่นอนว่าเธอต้องทำข้อสอบ

 

โชคดีที่หลินชิงเหอทบทวนบทเรียนเสร็จนานแล้ว แม้เธอจะไม่ได้คะแนนสอบเต็มร้อย แต่ก็เกือบเต็ม

 

ยิ่งกว่านั้นผลการเรียนของเธอยังเป็นที่รู้จักกันดี โดยเฉพาะจากการที่เธออ่านหนังสือในปริมาณมาก ทำให้เธอสามารถประมวลประโยคจากหนังสือหลายเล่มได้อย่างง่ายดาย ความจำของเธอช่างแข็งแกร่งนัก

 

ต่อให้เธอต้องสอนคนเหล่านั้นที่เคยอยู่ในระดับเดียวกับเธอ ก็ไม่มีใครในชั้นเรียนคัดค้านใด ๆ

 

เป็นเช่นนี้แล้ว หลินชิงเหอจึงจบการศึกษาก่อนกำหนดครึ่งปีและกลายมาเป็นอาจารย์ภาษาอังกฤษให้กับนักศึกษาที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยปักกิ่งได้เป็นชุดแรก

 

โจวข่ายมาหาแม่ของเขาหลังรู้เรื่องนี้ เขารู้สึกชื่นชมนับถือเธออย่างลึกซึ้ง

 

“แม่ ถ้าแม่อ่อนกว่าตอนนี้สัก 5 หรือ 10 ปี ผมจะไล่จีบแม่แน่!” โจวข่ายบอก

 

“ลูกไปบอกเรื่องนี้กับพ่อเถอะ” หลินชิงเหอยกยิ้ม

 

โจวข่ายรีบพูดรัวเร็ว “แม่ เมื่อไหร่แม่จะย้ายบ้านล่ะครับ? ไม่ใช่ว่าถึงเวลาพาพ่อกับคนอื่น ๆ มาอยู่ด้วยแล้วเหรอ?”

 

“บ้านน่ะยังไงก็ต้องย้ายอยู่แล้ว ส่วนพ่อของลูกจะมาในปีหน้า เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วค่อยคุยเรื่องนี้เถอะ เขาจะได้ไม่ต้องวิ่งวุ่นไปไหนต่อไหนทันทีที่มาถึงที่นี่แล้ว” หลินชิงเหอบอก

 

“ชิ แม่ก็ยังคิดถึงแต่พ่อคนเดียวอยู่นั่นแหละ ผมยังมีน้องอีกสองคนอยู่ที่บ้านนะ” โจวข่ายเอ่ยพลางส่ายหน้า

 

“ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็จะได้มาด้วยกันแน่” หลินชิงเหอโบกมือ สามีของเธออยู่ห่างแค่ก้าวเดียวเท่านั้น ส่วนลูกชายน่ะเหรอยังไงก็รอได้ ทำไมต้องรีบด้วย?

 

จากนั้นหลินชิงเหอก็รับไข่ต้ม 2 ฟองจากลูกชายและกินพวกมันไปด้วยขณะเดินกลับหอพัก

 

ตอนนี้เธอยังอาศัยในหอพักของมหาวิทยาลัย ส่วนบ้านพักอาจารย์จะถูกจัดสรรให้เธอแน่นอน แต่ตอนนี้ไม่มีที่ไหนว่างเลย แต่ถ้ามีเมื่อไหร่ พวกเขาจะจัดหาให้เธอหลังหนึ่ง

 

หลินชิงเหอคิดว่าการจัดสรรที่อยู่อาศัยคงจะใช้เวลา แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเมื่อมาที่ห้องสมุดกับหวังลี่ในวันต่อมา บรรณารักษ์ชราก็ได้เอ่ยทัก “ทางมหาวิทยาลัยยังไม่จัดสรรบ้านพักให้คุณอีกเหรอครับ?”

 

“ยังเลยค่ะ ที่อยู่อาศัยตอนนี้เต็มหมด ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้มาง่าย ๆ เลย” หลินชิงเหอบอก

 

“ผมมีอพาร์ตเมนต์อยู่ และตั้งใจว่าจะถ่ายโอนมาให้กับมหาวิทยาลัย คุณพาครอบครัวคุณไปอยู่ที่นั่นได้นะ” บรรณารักษ์ชราเอ่ย

 

หลินชิงเหอได้ฟังแล้วก็อึ้งไป “คุณลุงคะ ฉันอยู่ได้ใช่ไหม?”

 

เธอรู้สึกได้ว่าบรรณารักษ์ชราคนนี้กำลังช่วยเหลือเธออยู่

 

“ไม่เป็นไรหรอก ลูกชายคุณน่ะส่งไข่ต้มให้ผมกินทุกวันเลย” บรรณารักษ์ชราโบกมือ เขาหยุดคุยกับหลินชิงเหอและหันไปจัดหนังสือต่อ

………………………………………………………………………………………………………………………

 

สารจากผู้แปล

 

แม่เรียนจบแล้ว แถมยังมีคนหาที่อยู่ให้ด้วย สบายแม่ล่ะค่ะ

 

เจ้าใหญ่แอบช่วยแม่เหรอคะ

 

ไหหม่า (海馬)

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

*นิยายเรื่องนี้อยู่ในยุค 1960 เทียบกับ พ.ศ. คือ 2503 เป็นยุคที่ประเทศจีนอยู่ในช่วงปฏิรูปการปกครองโดยมีพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นผู้นำ ดังนั้นสรรพนาม ฉากเรื่อง ตัวละคร จะไม่เหมือนกับภาพในนิยายจอมยุทธ์กำลังภายใน จู่ ๆ ก็ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสามในยุคปฏิรูปการปกครองปี 60 … ใครจะไปคิดว่าชีวิตธรรมดาของ หลินชิงเหอ ผู้จัดการฝ่ายขายสาวจะเผชิญกับความไม่ธรรมดา หลังทะลุมิติเข้าไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่เธออ่าน ซึ่งต้องเผชิญกับความยากลำบากของสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น ไม่มีอะไรจะกินและไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าจะสวมใส่ แต่โชคยังดีที่เธอได้พื้นที่มิติส่วนตัวไว้เก็บของ ทำให้เธอรอดตายไปได้ชั่วคราว แต่สิ่งที่น่ากังวลมากกว่านั้นก็คือ บุตรชายทั้งสามของเธอดันเป็นตัวร้ายในอนาคตของนิยายเรื่องนี้น่ะสิ แถมสามีในมิตินี้ของเธอยังต้องพบกับจุดจบน่าอนาถอีกด้วย ตัวประกอบแม่ลูกสามอย่างเธอจะเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องและเอาตัวให้รอดอย่างไรดีเนี่ย…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset