บทที่ 222 ชีวิตสมบูรณ์แบบเพราะมีลูกชายและลูกสาว
โจวเสี่ยวเม่ยปวดท้องคลอดบุตรในตอนปลายเดือนสิงหาคม และหล่อนก็มีความสุขเป็นพิเศษที่ได้ลูกสาว
ชีวิตของหล่อนสมบูรณ์แบบแล้วอย่างแท้จริงเพราะมีทั้งลูกชายและลูกสาว
เมื่อซูต้าหลินมาบอกข่าวดี เขาก็มาบอกด้วยรอยยิ้มระบายเต็มใบหน้า
เขาพอใจมากจริง ๆ ที่มีลูกชาย 2 คนและลูกสาว 1 คน
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น คุณลุงกับคุณป้าของเขาก็มีความสุขมากด้วย
เห็นได้ชัดเจนว่าสถานะของโจวเสี่ยวเม่ยในตระกูลซูเป็นอย่างไรหลังให้กำเนิดทายาทเหล่านี้แล้ว
และกุญแจสำคัญก็คือครอบครัวฝั่งแม่ของโจวเสี่ยวเม่ยเป็นครอบครัวที่วิเศษมาก เพราะพวกเขาเต็มใจช่วยเลี้ยงดูเด็กที่เกิดมา ส่วนโจวเสี่ยวเม่ยเองก็มีงานทำและได้รับเงินเดือนทุกเดือน คนในครอบครัวฝั่งสามีอย่างคุณลุงซูกับคุณป้าซูจึงไม่กล้าดูถูกโจวเสี่ยวเม่ย
และคุณลุงกับคุณป้าของซูต้าหลินก็ไม่ใช่คนประเภทนั้นด้วย
เรื่องนี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่หลินชิงเหอนัดซื้อทองกับชายหนุ่มคนนั้นในตลาดมืด หญิงสาวจึงนำขาหมู 4 ขาไปเยี่ยมโจวเสี่ยวเม่ยในฐานะตัวแทนครอบครัวฝั่งแม่
สะใภ้ใหญ่ส่งถั่วลิสงมา 3 ชั่ง ส่วนสะใภ้รองให้ถั่วเหลืองมา 2 ชั่ง ในที่สุดหล่อนก็รู้จักนิสัยของโจวเสี่ยวเม่ยแล้ว
ตอนที่โจวเสี่ยวเม่ยแต่งงาน หล่อนไม่ได้ให้อะไรอีกฝ่ายเลย ดังนั้นในวันที่สามที่เจ้าสาวกลับมาเยี่ยมบ้านฝั่งแม่ ครอบครัวอื่นทั้งสามครอบครัวจึงได้รับของขวัญในขณะที่ครอบครัวของหล่อนไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง
ตอนนี้หล่อนเริ่มมีความคิดอ่านขึ้นมาบ้างแล้ว และรู้ว่าน้องสามีอย่างโจวเสี่ยวเม่ยไม่อยากมองหน้าหล่อน อีกฝ่ายแต่งงานมีชีวิตที่ดี ขณะที่ครอบครัวของหล่อนอาจต้องขอความช่วยเหลือจากฝั่งนั้นในวันข้างหน้า ดังนั้นหล่อนจึงให้ถั่วเหลืองไป 2 ชั่ง
สะใภ้สามให้ถั่วเหลืองมาเหมือนกันแต่เป็นจำนวน 3 ชั่ง แม้ครั้งนี้หล่อนจะไม่ได้ตั้งครรภ์พร้อมกับโจวเสี่ยวเม่ย แต่หล่อนก็ยังมีความรู้สึกรักใคร่ที่เกิดขึ้นขณะให้นมลูกชายทั้งสองของอีกฝ่ายอยู่
ของขวัญของหลินชิงเหอกับท่านแม่โจวเป็นขาหมูพวกนั้น ซึ่งขาหมู 4 ขานับว่าเป็นปริมาณมากทีเดียว
โจวเสี่ยวเม่ยรู้สึกยินดีปรีดาที่ครั้งนี้หล่อนให้กำเนิดลูกสาว ตอนนี้หล่อนมีทั้งลูกชายกับลูกสาว เท่ากับว่าหล่อนไม่ต้องคลอดลูกอีกแล้ว!
เมื่อเห็นว่าหล่อนยังคิดแบบนี้อยู่ หลินชิงเหอก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอนั่งอยู่กับหล่อนมากกว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนจะเอ่ยลา
ปกติการบำรุงร่างกายหลังคลอดของโจวเสี่ยวเม่ยจะอยู่ในความดูแลของซูต้าหลิน ซึ่งเขาก็ได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ไปแล้ว จึงไม่มีใครต้องเป็นกังวล ยิ่งกว่านั้นลูกสาวคนเล็กของเขาคือแก้วตาดวงใจของเขาด้วย
หลินชิงเหอมุ่งหน้าไปยังตลาดมืด
“พี่สาว คุณมาแล้ว” เมื่อเห็นเธอ ชายหนุ่มก็ยิ้มออก
เนื่องจากเขาต้องการถามข่าวคราวจากคนอื่น เขาจึงดูนิสัยดีขึ้นกว่าครั้งก่อน
“ฉันค่อนข้างยุ่ง ฉะนั้นอย่าพูดอะไรอ้อมค้อมเลยค่ะ คนหนึ่งจ่ายเงินอีกคนหนึ่งส่งของมาก็พอแล้ว” หลินชิงเหอไม่อยากพูดอะไรไร้สาระจึงเอ่ยออกไปตรง ๆ
“ตกลงครับ” ชายหนุ่มเองก็เป็นคนตรงไปตรงมา เขาหยิบกำไลทอง สร้อยทอง แหวนทอง ปิ่นทอง และต่างหูทองออกมามากมาย
หลินชิงเหอพิจารณาดูทีละอัน จากนั้นก็กระซิบถาม “ราคาเท่าไหร่คะ?”
“ไม่แพงหรอกครับ พี่สาวรับไปทั้งหมดในราคา 300 หยวนได้เลย” ชายหนุ่มเอ่ย
เงิน 300 หยวนแลกกับทองกองนี้นับว่าไม่แพงเกินไปนัก พวกมันล้วนเป็นทองแท้และยังเป็นของโบราณเก่าแก่อีกด้วย
หลินชิงเหอกวาดมองอย่างรวดเร็วและเริ่มต่อราคาในจำนวนตามเกณฑ์ของตลาด ซึ่งชายหนุ่มก็ลดให้ 5 หยวนจากนั้นก็คงราคาไว้แต่เพียงนั้น
หลินชิงเหอปิดการขายกับชายหนุ่มคนนี้เสร็จสมบูรณ์…
ชายหนุ่มคนขายทองนับเงินที่ได้รับก่อนเอ่ยว่า “พี่สาว ผมอยากถามอะไรบางอย่างได้ไหมครับ ส่วนแหวนทองวงนี้คือคำขอบคุณจากผม” จากนั้นเขาก็หยิบแหวนทองอีกวงหนึ่งออกมา
คน ๆ นี้ไม่ธรรมดาเลยที่สามารถจ่ายเงินจำนวนมากขนาดนี้ได้ในคราวเดียว
หลินชิงเหอเหลือบมองเขา “ถามมาได้เลยค่ะ ถ้าฉันรู้ฉันจะบอก แต่ถ้าฉันไม่รู้ก็ช่วยไม่ได้นะคะ”
“พี่สาวสะสมทองพวกนี้เพราะไปได้ยินข่าวอะไรบางอย่างมาใช่ไหมครับ?” ชายหนุ่มกระซิบ
หลินชิงเหอจะเปิดเผยความลับในเรื่องนี้ได้อย่างไรล่ะ? เธอจึงส่ายหน้าและพูดโกหกไป “แม่ฉันชอบสะสมทองน่ะค่ะ หล่อนชอบทองเป็นชีวิตจิตใจ ฉันเลยวางแผนว่าจะเอาทองทั้งหมดใส่ไปในโลงศพให้ตอนที่หล่อนเสียชีวิตในวันข้างหน้า”
เป็นเรื่องจริงที่ท่านแม่หลินชอบทอง แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะอยากให้ฝังทองไปพร้อมกับนางด้วย เรื่องนี้เธอแค่กุขึ้นมาเฉย ๆ
ชายหนุ่มคลุกคลีอยู่ในตลาดมืดจนช่ำชองแล้ว เขาจึงไม่เชื่อในคำพูดของเธอ เมื่อเห็นว่าเธอไม่พูดอะไรเขาก็เอ่ยขึ้น “ผมยังไม่พอใจในคำตอบที่คุณให้ ดังนั้นผมยังไม่ให้แหวนวงนี้นะครับ”
“ถ้าคุณไม่อยากให้ฉัน งั้นคุณบอกราคามาค่ะ” หลินชิงเหอพูด
หลังจากซื้อแหวนเป็นราคา 20 หยวนแล้ว หลินชิงเหอก็ผละจากไป เธอบอกว่าตนเองซื้อพอแล้ว และไม่จำเป็นต้องเก็บทองไว้ให้เธออีก
การกระทำของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มเริ่มเชื่อขึ้นมาเล็กน้อย หรือเธออยากจะซื้อมันกลับไปให้ผู้อาวุโสเพื่อเตรียมฝังใส่โลงศพจริง ๆ?
ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาลุงของเขาแล้วเอ่ยขึ้น “ลุงใหญ่ ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่หมูขนาดนั้นเสียแล้ว ลุงว่ายังไงครับ?”
“ไม่เป็นไร ถ้าหล่อนไม่บอกเราก็เก็บสะสมไว้เอง แล้วแกก็หาที่สักที่ฝังมันซะ” ลุงของเขาตอบ
“ตกลงครับ” ชายหนุ่มพยักหน้า
หลินชิงเหอออกจากตลาดมืดเพื่อทำความสะอาดตัวเอง เสร็จแล้วก็กลับเข้าไปในตลาดมืดอีกครั้งเพื่อซื้อข้าวของบางอย่างก่อนจะเดินทางกลับบ้าน
หญิงสาวไม่คิดจะสะสมทองเพิ่มอีกต่อไปจึงไม่ไปที่ฝั่งนั้นของตลาด เธอแน่ใจว่าตรงนั้นยังมีคนฉลาดอยู่ ทันทีที่เธอสะสมทองพวกนี้ พวกเขาก็คงจะจับอะไรบางอย่างได้
เพื่อความปลอดภัย เธอต้องทิ้งโอกาสเก็บทองตรงนั้นไป ในอนาคตเธอจะหาเวลาเข้าเมืองไปดูอีก
หญิงสาวนำแตงโมกลับไปที่บ้าน เมื่อโจวชิงไป๋กลับมาจากการทำงาน หลินชิงเหอก็ถามเขา “เมื่อไหร่คุณถึงจะเข้าไปซื้อปุ๋ยกับยาฆ่าเมลงที่เขตเทศบาลของอำเภอเหรอคะ?”
“คุณอยากไปด้วยเหรอ?” โจวชิงไป๋เลิกคิ้ว
“ฉันอยากเดินดูรอบ ๆ อำเภอน่ะค่ะ” หลินชิงเหอตอบ
โจวชิงไป๋ไม่เชื่อเรื่องนี้ เขาหันหลังกลับและล้างหน้าต่อ หลินชิงเหอจึงเอ่ยขึ้นมา “ฉันทำหมูตุ๋นไว้นะคะ มันหอมมากเลย”
“คืนนี้เราค่อยคุยเรื่องนี้กัน” โจวชิงไป๋เอ่ยอย่างสงบ
ภรรยาของเขาเล่นลูกไม้ในทุกครั้งที่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังต้านทานไม่ได้ ทว่าเมื่อดูโดยผิวเผินแล้ว เขาไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ เลย
หมูตุ๋นที่หลินชิงเหอตุ๋นเตรียมไว้ช่างมีรสโอชานัก มันอร่อยเป็นพิเศษ แค่ทานคู่กับข้าวแล้วราดน้ำซุปลงบนข้าวจนชุ่มเป็นเงาใสก็ถือว่าเพียงพอ มีหมูตุ๋นนี้อยู่ ไม่มีอะไรที่มีรสชาติสมบูรณ์แบบไปมากกว่านี้อีกแล้ว
นอกจากนี้ยังมีแตงกว่าหั่นแว่นกับซุปมะเขือเทศไว้กินตัดเลี่ยนอีกด้วย สำหรับสามพี่น้องแล้วถือว่าน่าพอใจไม่น้อย
เช่นเดียวกับโจวชิงไป๋
ท่านพ่อโจวกับท่านแม่โจวเองก็ตกอยู่ในห้วงอารมณ์หลากหลาย ชีวิตแบบนี้…มันช่างเรียกว่าขีวิตโดยแท้จริง
คืนนั้นเอง โจวชิงไป๋รอคอยให้เด็ก ๆ หลับกันหมดก่อนจะพาภรรยาไปว่ายน้ำ หลังว่ายน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็กลับบ้าน
คนทั้งคู่ขึ้นไปบนเตียงเตา โจวชิงไป๋ถามภรรยาว่าเธอจะเข้าไปที่เทศบาลอำเภอเพื่อไปทำอะไร เขาไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะแค่ไปสำรวจตัวอำเภอ
“ฉันแค่วางแผนสำรวจรอบ ๆ อำเภอเท่านั้นเองค่ะ ถ้าคุณไม่เชื่อ ฉันก็ติดตามคุณตลอดเวลาได้นะคะ” หลินชิงเหอเอ่ย ขณะที่เอ่ยดังนี้มือของเธอก็ลูบไล้ไปทั่วเอวของเขาอย่างซุกซน
ความสนใจของโจวชิงไป๋เบี่ยงเบนไป แล้วการสอบสวนภรรยาก็ได้กลายเป็นการสอบสวนทางร่างกาย
ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ชนะกับผู้แพ้ แต่เรื่องนี้ก็ผ่านไปด้วยดีในที่สุด ชายหนุ่มสัญญากับเธอว่าครั้งหน้าจะพาเธอไปที่เทศบาลอำเภอด้วย
หลังจากนั้นโจวชิงไป๋ก็พบว่าตัวเองตกหลุมพรางกลสาวงามเสียแล้ว
…………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ยินดีกับเสี่ยวเม่ยด้วยค่ะที่ได้ลูกสาว ต่อจากนี้ไปไม่ต้องคลอดลูกอีกคนหนึ่งแล้ว
ส่วนพ่อกับแม่ก็ไม่เคยแผ่วเลยค่ะ เป็นการสอบสวนที่ร้อนแรงที่สุดที่เคยเจอเลย
ไหหม่า (海馬)