Gate of God – ตอนที่ 417

ลมยังคงพัดใส่ใบหน้าของผู้ที่ยืนอยู่บนหน้าผาอย่างต่อเนื่อง  ฟาง เจิ้งจือ นั้นยืนอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของพายุต้นเหตุแห่งความวุ่นวาย

ความเย็นยะเยือกแผ่กระจายไปทั่ว

ไม่มีใครอยากเข้าไปใกล้ ฟาง เจิ้งจือ แม้แต่น้อย  แต่ หยุน ชิงวู ก้าวเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง

นางราวกับเป็นเรือลำน้อยในพายุ

อยู่เพียงลำพังอย่างโดดเดี่ยว  ไม่ว่าลมจะแรงแค่ไหนเรือก็ดูไม่สั่นไหวเลยแม้แต่น้อย

” ฟาง เจิ้งจือ ถ้าเจ้าจะฆ่า หยุน ชิงวู ต้องข้ามศพข้า ซี่ โปหนาน!ทันใดนั้นเองอีกเสียงก็ดังขึ้น  มันไม่ได้ดังมาก แต่ทุกคนได้ยินชัดเจน

จากนั้นร่างนั้นก็พยายามยืนขึ้นเพื่อขวาง หยุน ชิงวู เอาไว้

บนหน้าผานั้นมีแค่สามคน

ผู้ที่ขวางเอาไว้เป็นเพียงรอหัวหน้าดินแดน

อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ เขาพูดชื่อ หยุน ชิงวู ออกมาตรงๆ

ถึงอย่างนั้น หยุน ชิงวู ก็ไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย

หรือแม้แต่ ไป่ ซิง และเหล่าปีศาจชั้นสูงก็ไม่มีผู้ใดตกใจแม้แต่น้อย

เป็นเพราะว่า…

ชื่อของเขาคือ ซี่ โปหนาน!

“ซี่ โปหนาน?ปีศาจนั่น… มาจากตระกูลซี่!

“ไม่จริง

“ถ้านั่นเป็นชื่อของเขาจริงๆ มันก็ต้องเป็นตระกูลนั้นแน่นอน  มีเพียงตระกูลเดียวในเหล่าปีศาจ!  มีเพียงตระกูลเดียวเท่านั้นที่กล้าใช้นามสกุลนี้!

เมื่อเหล่าผู้เข้าสอบได้ยินชื่อของปีศาจตนนั้น ดวงตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจและความหวาดกลัว

โลกปีศาจนั้นต่างจากโลกมนุษย์

มนุษย์สร้างอาณาจักรและส่งต่อบัลลังก์ให้ลูกชาย  สำหรับปีศาจดินแดนของพวกเขานั้น

มันเป็นเรื่องที่ยากเมื่อพูดถึงให้การให้กำเนิดทายาท ไม่มีใครสามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่าเจ้าปีศาจคนปัจจุบันจะมีทายาท

แม้ว่าพวกเขาจะมี พวกเขาก็ไม่สามารถมีทายาทได้มากเท่าไรนัก อย่างมากก็แค่ 1 หรือ 2 ตน นอกจากนี้ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าทายาทเหล่านั้นจะสามารถสานต่อและเป็นผู้นำคนต่อไปได้

เพราะแบบนั้น…

เผ่าพันธ์ุปีศาจจึงต้องจัดตั้งพันธมิตรผู้ปกครองจาก 3 ตระกูล

หากทายาทของตระกูลหนึ่งไม่สามารถเป็นได้ พวกเขาก็จะคัดเลือกจากอีกสองตระกูล เป็นการเลือกจากทั้งระดับการฝึกฝน จิตสังหาร และประโยชน์ที่ทำได้

เพราะงั้นหลังจากที่เจ้าปีศาจตายลง ผู้ที่ขึ้นบัลลังก์ต่อไปจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นทายาทของพวกเขา

ทั้งสามตระกูลดังกล่าวคือ ตระกูลหยุน ตระกูลซี่ และตระกูลยู่

ซี่ …

ตระกูลเดียวกับจักรพรรดิปีศาจ ซี่ คง

ว่ากันว่าตอนที่ ซี่ คง เรืองอำนาจอยู่นั้น เขาเป็นปีศาจที่มีพลังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขา  กองทัพปีศาจเคลื่อนทัพไปได้ถึงประตูเมือง เหยียน จิง และเกือบจะทำลายเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปจนหมดสิ้น

การต่อสู้ที่ประตู เหยียน จิง ครั้งนั้นทำให้แม่น้ำทั้งสายเต็มไปด้วยเลือด

ในท้ายที่สุดเจ้าปีศาจ ซี่ คง ก็ถูกฆ่าตายในเมืองเงาเลือด  เขาถูกฆ่าตายโดยเทพเซียนสงคราม เมิ่ง เทียน

และตอนนี้…

ดาบเล่มนั้นกำลังส่องแสงอยู่ในมือของ ฟาง เจิ้งจือปลายดาบจ่อที่ลำคอของ ซี่ โปหนานเลือดของ ซี่ โปหนาน ยังคงเปรอะเปื้อนอยู่ที่ปลายดาบ

“ตูม!

สายฟ้าสีม่วงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและผ่าลงที่หน้าของ ซี่ โปหนานใบหน้าของเขาซีดขาวและไร้เรี่ยวแรง แต่เขายังคงยืนหยัด

“ฟาง เจิ้งจือ ข้ารู้ว่าปีศาจและมนุษย์ต่างไม่ถูกกันเท่าไรนัก ข้าจะไม่หวาดกลัวต่อการโจมตีของเจ้า  เพราะพวกข้าคือเผ่าพันธุ์ที่อยู่เหนือกว่า!“ดาบของ ซี่ โปหนาน ยังคงสั่นไหวในขณะที่เขาชูดาบขึ้น การลุกขึ้นของเขาได้ดึงพลังที่ร่างกายมีออกไปทั้งหมด

อย่างไรก็ตามเขายังคงยืนขึ้น ปล่อยให้ฝนไหลท่วมไปทั่วร่างกายของเขา

“ซี่ โปหนาน

“ซี่…”

“ตาย!

“…”

ฟาง เจิ้งจือ พึมพำกับตัวเองดาบของเขายกค้างอยู่กลางอากาศ ขณะที่ดาบในดวงตาของเขาหมุนวนไปมา

มันอาจจะเป็นภาพหลอน แต่แสงดาบยังคงหมุนต่อเนื่อง ก่อนที่จะระเบิดพลังออกมา

จิตสังหารพวยพุ่งออกมาล้อมรอบกายเขาอีกครั้ง

“ตูม!

เสียงฟ้าร้องดังก้องไปทั่วท้องฟ้า

ดาบไร้ร่องรอยในมือของ ฟาง เจิ้งจือ เริ่มสั่นไหว เสียงร้องครวญครางเริ่มดังขึ้นในขณะที่แสงสีม่วงก็เริ่มกระพริบ

รู้สึกเหมือนมันกำลังดิ้นรน …

“มีบางอย่างผิดปกติกับ ฟาง เจิ้งจือทำไมเขาถึงไม่โจมตี? นี่เป็นโอกาสที่ดีมาก! เขาสามารถเอาชนะ ซี่ โปหนาน ได้ง่ายๆ!

“จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาอาจจะกลัวตระกูลซี่มาตามล้างแค้นให้กับ ซี ่โปหนานข้าเริ่มสงสัย? ถ้าเขาจะกลัว เขาควรต้องกลัวคนตระกูลหยุนเสียมากกว่า!

“เป็นไปได้ไหมที่เขาต้องการปล่อย หยุน ชิงวู ไป?ไม่น่าจะเป็นไปได้ …ถ้าเขาต้องการปล่อย หยุน ชิงวู ไปจริงๆ ทำไมเขาต้องเข้าไปหยุดนางไว้ด้วย?ใครบังคับให้เขาขึ้นไปที่ยอดผานั่น?

“ไม่ไม่ …ฟาง เจิ้งจือ ดูผิดปกติ

“เขาดูแปลกไปจากเดิม?

“ไม่ใช่ …นั่น ดูกลิ่นอายที่แผ่ขยายออกมารอบตัวเขาเรื่อยๆสิ มันให้ความรู้สึกเหมือนเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้”

“เป็นไปได้ไหมที่เขาไม่สามารถควบคุมมันได้เพราะเขาใช้พลังมากเกินไป?

ผู้เข้าสอบทุกคนต่างมองไปที่แสงสีม่วงบนยอดผาร่างของ ฟาง เจิ้งจือ ยังคงปล่อยจิตสังหารออกมา

ซิง ฉิงซุย ,ซิง หยวนกัว ,หนานกง เฮา ,ไป่ ซิง และ วู่ ยี่ เขาทั้งหมดต่างสับสนกับสิ่งที่เห็นผู้คนของอาณาจักรเซี่ยต่างก็วิตกกังวล

พวกปีศาจเองก็ตกใจกับเหตุการณ์นี้

เหล่าปีศาจถูกปกครองโดยสามตระกูล หยุน ชิงวู ไม่ใช่เด็กที่แข็งแกร่งที่สุด แต่นางเป็นคนที่ได้รับความเคารพนับถือที่สุด

ไม่มีใครบังอาจแม้จะใกล้เธอ

ถ้าหากผู้นำปีศาจคนปัจจุบันเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด หยุน ชิงวู ก็คงเป็นคนที่มีเสน่ห์และเฉลียวฉลาดที่สุด นอกจากนั้นไม่มีใครกล้าท้าทายนาง

ในความเป็นจริงแล้ว หยุน ชิงวู เกิดมาในตระกูลที่แข็งแกร่ง แต่ผู้คนไม่คาดหวังกับนางนักอย่างแรกก็คือเรื่องเพศ

เหตุผลที่สองคือเรื่องระดับพลังของนาง

มันธรรมดาๆ

ปกติธรรมดามาก แม้ว่านางจะไม่ได้ต่ำต้อยมากนัก แต่ในหมู่ปีศาจและโดยเฉพาะพวกสามตระกูลหลัก หยุน ชิงวู ก็ไม่ได้รับความสนใจแม้แต่น้อย

ไม่สำคัญว่าพ่อของนางจะเป็นเจ้าปีศาจคนปัจจุบันหรือไม่!

ไม่มีใครคิดว่า หยุน ชิงวู ผู้ไม่มีพรสวรรค์ในเรื่องการบ่มเพาะพลัง จะสามารถนั่งบนบรรลังก์ได้

แม้แต่พ่อของนางก็คิดแบบเดียวกัน

ปีศาจต่างจากมนุษย์

ปีศาจไม่ได้สนใจเรื่องทายาทหรือสายเลือด  พ่อของนางเริ่มสนใจทายาทผู้อื่นๆในตระกูลหยุน มากยิ่งขึ้น

เขาต้องการให้ตระกูลหยุน ยังครองอำนาจอยู่

หยุน ชิงวู ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก การที่เกิดมาในตระกูลนี้อย่างน้อยก็หมายความว่านางมีศักดิ์เป็นเจ้าหญิง

วันหนึ่งนางเห็นพ่อของตัวเองอยู่ในห้องสมุด  เขาดูหดหู่ สูญเสีย และ ไม่มีทางเลือก

ในฐานะเจ้าปีศาจ…

หยุน ชิงวู เคารพพ่อของนางเป็นอย่างมาก พ่อของนางเป็นเจ้าปีศาจ ผู้ที่ปกครองดินแดนปีศาจและทุกคนต่างหวาดกลัว

เขาควรจะแข็งแกร่ง มีความสุข

แต่ทำไม

ทำไมพ่อของนาง…

ถึงหดหู่?

หยุน ชิงวู ไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตาม วันถัดมานางได้ยินว่าหนึ่งในคนของตระกูล ยู่ สามารถเข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ได้ตอนอายุสิบสองปี

ตั้งแต่วันนั้นนางก็ไม่ได้เห็นพ่อตัวเองบ่อยนัก

เด็กจากตระกูลยู่ คนนั้นถูกส่งมาอยู่ในที่ที่นางเคยอยู่ ขณะที่นางถูกส่งออกไปอยู่ห่างจาเมืองเงาเลือดไปไกลมาก

ตอนนั้นนางอายุแค่ห้าขวบ

ห้าปีต่อมา…

หยุน ชิงวู กลับมาที่เมืองเงาเลือดอีกครั้ง เหล่าคนจากทั้งสามตระกูลใหญ่รวมถึงเด็กน้อยที่เข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ได้ตั้งแต่สิบสองขอบก็มาต้อนรับนางด้วยความเคารพด้วย

ตั้งแต่ตอนนั้น หยุน ชิงวู ไม่ค่อยได้ถูกเรียกตามชื่อธรรมดาๆเท่าไรนัก

ปีศาจทุกตนเรียกนางว่า …

นายน้อย!

ตอนนั้นนางอายุสิบขวบ

อีกห้าปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ทุกคนรู้ว่าปีศาจมีนายน้อยที่ลึกลับ แต่ไม่มีใครรู้ว่าคือ หยุน ชิงวู

หยุน ชิงวู แฝงตัวเข้ามาในโลกมนุษย์และกลายเป็นผู้เชี่ชชาญด้านศิลปะต่างๆในทันที  ชายหนุ่มทุกคนตกหลุมรักนาง

แต่ ไม่มีใครรู้ว่านางหน้าตาเป็นยังไง

ถึงจะเป็นอย่างนั้นพรสวรรค์ของนางก็พอที่จะดึงดูดคนทั่วอาณาจักรเซี่ย

นางเดินทางไปทั่วอาณาจักรเซี่ยเพื่อแสดงความสามารถของตัวเอง  ทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยโคลน

หยุน ชิงวู นั้นเป็นดอกบัวขาวที่ไม่ถูกแปดเปื้อนด้วยโคลนเลยแม้แต่น้อย

ซี่ โปหนาน เป็นอัจฉริยะที่เข้าถึงระดับอภินิหารขั้นสูงสุดได้ตังแต่อายุยี่สิบปี เขาน่าจะเป็นหนึ่งในผู้ที่มีอิทธิพลในสามตระกูลใหญ่

ซี่ โปหนาน นั้นถือเป็นหนึ่งในผู้ที่มีสิทธิ์ชิงบัลลังก์ อย่างไรก็ตามเขาเต็มใจที่จะยืนขวางหน้า หยุน ชิงวู เอาไว้

มันแสดงให้เห็นว่า…

หยุน ชิงวู นั้นทรงพลังเพีนงไหน

นางสามารถสั่งการทั้งสิบดินแดนปีศาจได้ตามใจชอบ  แม้แต่คนของทั้งสามตระกูลใหญ่ก็ยอมสละชีวิตเพื่อนาง

“ชิงวู นี่เป็นอโอกาสของเจ้าแล้ว!” ซี่ โปหนาน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ ฟาง เจิ้งจือ แต่เขารู้ว่าตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ กำลังไม่มั่นคง

มันเห็นได้ชัดเจน

โดย เฉพาะ ซี่ โปหนาน ที่อยู่ใกล้มากที่สุด

ถ้าแขนของเขายังขยับได้…

เขาคงไม่ลังเลและแทงดาบเข้าไปที่หัวใจของ ฟาง เจิ้งจือ แน่นอน อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถขยับแขนได้  แค่ถือดาบก็ดึงเอาพลังงานในร่างของเขาไปใช้ทั้งหมดแล้ว

แต่สิ่งนี้ไม่สำคัญ

เขาอาจไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ แต่หยุนชิงวูสามารถทำได้

ในระยะนี้ …

ซี่ โปหนาน มั่นใจว่า หยุน ชิงวู จะไม่พลาด

ฝนยังคงไหลริน ทั้งแขนเสื้อ บนมือและดาบ

หยุน ชิงวู อยู่ใกล้กับ ฟาง เจิ้งจือ มาก

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset