AtW ตอนที่ 57 น้ำยาเสริมพลัง
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย
อาเบลได้กล่าวอำลาไวเคานต์ดิ้กเคนในขณะที่เขากำลังขึ้นรถม้าก่อนที่จะสั่งคนขับรถม้าต่อไป “ช่วยไปส่งผมที่ร้านเอ็ดมันทีครับ”
ที่จริงนั้นคนขับรถม้าไม่รู้ว่าอาเบลเป็นใครกันแน่ แต่เด็กคนนี้ก็เต็มไปด้วยความน่าเคารพนับถือ ตอนนี้เด็กหนุ่มที่เป็นเหมือนกับชนชั้นสูงนั้นได้ออกมาจากพระราชวังแล้ว การที่จะเข้าออกพระราชวังที่นี้ได้แน่นอนว่าจะต้องเป็นคนมีชื่อเสียงอย่างแน่นอน ดังนั้นแล้วคนขับรถม้าจึงรีบวางที่ปีนขึ้นรถม้าให้กับอาเบลในทันที
แม้ว่าอาเบลจะสามารถกระโดดขึ้นรถม้าโดยไม่ต้องใช้ที่ปีนเลยก็ตามแต่เพื่อตอบแทนความหวังดีของคนขับรถม้าแล้วอาเบลจึงได้ใช้ที่ปีนของเขานั่นเอง ตอนนี้คนขับรถม้าคนนั้นยังไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของอาเบล ดังนั้นแล้วเขาจึงพยายามปฏิบัติตัวเองให้ดีที่สุดต่อหน้าอาเบล
รถม้าที่อาเบลได้ใช้เดินทางในครั้งนี้ได้ออกเดินทางอย่างนุ่มนวล หลังจากลงจากรถม้าแล้วอาเบลก็ได้ให้เหรียญเงินทั้งหมด 2 เหรียญด้วยกันเป็นค่าตอบแทนสำหรับบริการรถม้าในครั้งนี้
นับตั้งแต่ที่อาเบลได้เปิดเผยแขนเสื้อของตระกูลแฮรี่ต่อหน้าร้านเอ็ดมันก็ทำให้ทุกคนในร้านเอ็ดมันนั้นจำอาเบลได้ดีในฐานะที่เป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กที่มาจากตระกูลขุนนาง ดังนั้นเมื่ออาเบลก้าวเท้าออกมาจากรถม้า อาเบลก็ได้รับการต้อนรับที่แสนจะอบอุ่นในทันทีในฐานะที่เป็นแขกวีไอพี แน่นอนว่าทางร้านเอ็ดมันนั้นยังต้อนรับอาเบลด้วยกาแฟชั้นดีอีกเช่นเคย
“ท่านลอร์ดปรมาจารย์อาเบล ยินดีต้อนรับเข้าสู่ร้านเอ็ดมันของเรา!” วีเว็ตต์ที่เห็นอาเบลได้มาที่ร้านของเธอ เธอก็กล่าวทักทายอาเบลทันทีพร้อมกับโค้งคำนับอาเบลด้วยรอยยิ้มอันเป็นมิตร
“นี่คุณวีเว็ตต์รู้ข่าวได้รวดเร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน? ดูเหมือนว่าคุณวีเว็ตต์จะรู้เรื่องนี้ก่อนผมอีกนะ” อาเบลพูดไปหัวเราะไป
“ตอนนี้คุณเป็นแขกคนสำคัญสำหรับร้านเอ็ดมันของเราไปแล้ว และหัวหน้าสาขาเองก็กำลังสนใจในตัวคุณเป็นอย่างมากอีกด้วย” วีเว็ตต์พูดก่อนที่จะให้คนรับใช้ที่ประจำการอยู่ในร้านไปหยิบถาดสีเงินถาดหนึ่งมาให้อาเบล
บนถาดสีเงินนั้นมีถุงใส่เงินอยู่ถุงหนึ่ง วีเว็ตต์ได้ชี้ไปที่ถุงเงินถุงนั้นก่อนจะพูดขึ้นว่า “ครั้งล่าสุดที่คุณให้ทางร้านของเราจัดประมูลขายอาวุธของคุณให้ได้เงินมาทั้งหมด 22,000 เหรียญทอง และทางสำนักงานใหญ่ของร้านเราเองก็ได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับการจัดการประมูลครั้งนี้อีกด้วย ดูเหมือนว่าอาวุธที่คุณสร้างนั้นจะเป็นที่นิยมกันเป็นอย่างมากที่เมืองเบกอง ราคาอาวุธที่มีมากถึงขนาดนี้ทางร้านของเราเองก็ไม่เคยขายได้มาก่อนในรอบหลายปีมานี้”
หลังจากที่ได้รับถุงเงินถุงใหญ่จากร้านเอ็ดมันแล้วอาเบลก็พบว่าถุงที่ใส่เงินนี้ดูเล็กและเบากว่าที่เขาคิดไว้มาก มันดูไม่เหมือนถุงที่ใส่เงินเอาไว้ถึง 20,000 เหรียญด้วยกัน แม้ว่าในใจของอาเบลจะรู้ดีว่าร้านเอ็ดมันที่ทำการค้าขายมานานจะไม่กล้าทำอะไรผิดพลาดแบบนี้อย่างแน่นอนแต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของตัวอาเบลเองทำให้ขาเปิดถุงเงินออกด้วยความอยากรู้อยากเห็นในทันที ภายในถุงเงินมรการ์ดสีดำทองการ์ดหนึ่งที่มีการออกแบบและตกแต่งด้วยลวดลายสีทองสุดหรูหรา ตรงใจกลางของการ์ดเองมีตัวเลข 22,000 อยู่ นอกเหนือจากตัวเลขตรงกลางนั้นก็ไม่มีสัญลักษณ์ใดๆ ปรากฎอยู่เลย
อาเบลเงินหน้าขึ้นมามองวีเว็ตต์ก่อนที่จะถามอย่างสงสัยว่า “การ์ดใบนี้คืออะไรหรอครับ?”
เมื่อวีเว็ตต์ได้ยินคำถามของอาเบลเธอจึงเริ่มอธิบายในทันที “นี่เป็นการ์ดเวทย์มตร์ทองคำ มันเป็นการ์ดที่จะทำให้ผู้ถือนั้นสามารถใช้เงินจำนวนในการ์ดซื้อหรือถอนเงินจากทางร้านค้าใหญ่ทั่วทั้งทวีปนี้ได้ และเพื่อเป็นการยืนยันตัวตนนั้นการ์ดใบนี้จะต้องการเลือดของคุณด้วยค่ะ คนที่จะใช้การ์ดใบนี้ได้จึงมีแต่คุณเท่านั้น”
การ์ดใบนี้เหมือนกับบัตรเครดิตจากธนาคารเป็นอย่างมาก แต่การที่จะปลดล็อคการใช้การ์ดใบนี้ได้จะต้องใช้เลือดของอาเบลเพียงเท่านั้น ดูเหมือนว่านวัตกรรมในการใช้เงินของโลกใบนี้นั้นยังคงไม่ล้าหลังไปซะทีเดียว สิ่งสิ่งนี้ที่เรียกว่าการ์ดเวทย์มตร์ทองคำนั้นเหมือนไม่ใช่ของเวทย์มนตร์แต่อย่างใด คงมีแต่พวกชนชั้นสูงและขุนนางเท่านั้นที่จะสามารถใช้อะไรแบบนี้ได้
หลังจากที่ฟังคำอธิบายเสร็จอาเบลก็ได้รับเข็มมาจากวีเว็ตต์ ตอนนี้อาเบลได้ใช้เข็มเล่มนั้นเจาะไปที่นิ้วของตัวเองเพื่อที่จะหยดเลือดของอาเบลนั้นลงไปที่การ์ดใบนี้ การเวทย์มนตร์ทองคำนั้นได้ฉายแสงสีดำประกายทองออกมา ตอนนี้อาเบลได้กลายเป็นเจ้าของการ์ดใบนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อาเบลได้เก็บการ์ดใบนี้ไปพร้อมกับโค้งคำนับให้กับวีเว็ตต์ “คุณวีเว็ตต์ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างในการประมูลครั้งนี้ด้วยนะครับ ผมเชื่อว่ามิตรภาพระหว่าผมกับร้านเอ็ดมันจะต้องดำเนินไปในทางที่ดีต่อไปอย่างแน่นอน”
รอยยิ้มบนใบหน้าของวีเว็ตต์นั้นได้ขยายใหญ่ขึ้นหลังจากที่ได้ยินอาเบลพูดถึงมิตรภาพ เป็นเวลากว่าหลายปีแล้วที่การประมูลของร้านเอ็ดมันนั้นจะต้องคอยติดต่อสื้อสารกับช่างตีเหล็กมากมายจากทั่วทั้งทวีป อย่างน้อยที่สุดในโลกมนุษย์ตอนนี้ได้มีคนที่สามารถทำดาบเวทย์ได้อย่างอาเบลกำเนิดขึ้นมาแล้ว ถึงแม้ว่าในอดีตนั้นการจะหาดาบเวทย์จากคนแคระใช้งานนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแต่ในตอนนี้ในดินแดนของโลกมนุษย์นั้นได้มีความหวังใหม่มาแล้วนั่นเอง
“คุณวีเว็ตต์ครับ ที่โรงประมูลมีการประมูลอาหารเสริมสำหรับอัศวินอย่างเป็นทางการด้วยไหมครับ?”
อาเบลกำลังคิดถึงสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้ อาเบลจะต้องเข้าร่วมทำการทดสอบของจอมเวทย์ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับอาเบลนั่นก็คือการพัฒนาขีดความสามารถของตัวเองต่อไป ในใจลึกๆ ของอาเบลหวังไว้ว่าจะมีน้ำยาพิเศษอะไรที่สามารถช่วยทำให้ตัวเขานั้นสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างรวดเร็วต่อไป
“สำหรับอาหารเสริมสำหรับเหล่าอัศวินอย่างเป็นทางการแล้วมีด้วยกันอยู่ 3 ชนิดนั่นเอง: น้ำยาแห่งโลหิต, น้ำยาแห่งการเติมพลัง และน้ำยาแห่งการควบแน่น” วีเว็ตต์ได้นำคำอธิบายที่อยู่ในรูปแบบของกระดาษแผ่นหนึ่งยื่นให้กับอาเบลไป “นี่คือคำแนะนำสำหรับการใช้น้ำยาพิเศษทั้ง 3 แบบนี้ คุณอาเบลสนใจอันไหนเป็นพิเศษไหมคะ?”
อาเบลหยิบกระดาษที่เต็มไปด้วยคำอธิบายของน้ำยาทั้งสามชนิดขึ้นมา
น้ำยาแห่งโลหิตนั้นเป็นน้ำยาที่ใช้สำหรับการฝึกฝนของเหล่าอัศวินอย่างเป็นทางการ มันสามารถเปลี่ยนเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายนั้นให้เป็นพลังลมปราณสำหรับต่อสู้และเก็บพลังนั้นไว้ภายในร่างกายของผู้ใช้ ด้วยการเปลี่ยนเลือดที่มีอยู่นั้นให้กลายเป็นพลังลมปราณสำหรับต่อสู้จะทำให้ร่างกายนั้นสามารถฟื้นฟูและเรียกใช้พลังลมปราณได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง แต่ทุกครั้งที่ใช้แน่นอนว่าผู้ใช้นั้นจะต้องสุญเสียเลือดของตัวเองไป
ส่วนน้ำยาชนิดที่สองก็คือน้ำยาแห่งการเติมพลัง แต่เมื่อใช้ร่วมกับน้ำยาแห่งโลหิตแล้วจะทำให้น้ำยาแห่งการเติมพลังนี้สามารถคืนเลือดให้กับผู้ใชน้ำยาแห่งโลหิตได้ แต่น้ำยาชนิดนี้ก็มีข้อจำกัดการใช้อยู๋เหมือนกัน การที่จะใช้น้ำยาแห่งการเติมพลังนี้จะต้องใช้หลังจากที่ใช้น้ำยาแห่งโลหิตจนต่อเนื่องไปถึง 10 วัน และจะต้องใช้เวลาพักผ่อนอีก 5 วัน ก่อนที่จะใช้น้ำยาแห่งโลหิตได้อีกครั้งหนึ่ง
ถ้าจะพูดในอีกแง้หนึ่งการจะใช้น้ำยาแห่งโลหิตได้อีกครั้งจะต้องใช้เวลากว่าอีกครึ่งเดือนนั่นเอง และการใช้งานน้ำยาแห่งการเติมพลังนั้นจะสามารถทดแทนเลือดที่เสียไปจากการใช้น้ำยาแห่งโลหิตได้
สำหรับน้ำยาพิเศษชนิดที่สาม น้ำยาแห่งการควบแน่นนั้นจะสามารถช่วยบีบอัดพลัมลมปราณของผู้กินได้ กระบวนการบีบอัดลมปราณนั้นสามารถเกิดขึ้นได้อยู่แล้วในการฝึกฝนนั่นเอง แต่น้ำยาอันนี้จะช่วยเร่งเวลากระบวนการนั้น หลังจากที่กินน้ำยาแห่งการควบแน่นแล้วน้ำยานี้จะช่วยในการควบแน่นพลังลมปราณนั่นเอง การใช้น้ำยาแห่งการควบแน่นนั้นจะสามารถเร่งความเร็วในการควบแน่นพลังลมปราณจากระยะเวลาปกติถึง 30 วันให้เหลือเพียง 5 วันได้
อาเบลไม่แน่ใจว่าน้ำยาแห่งการควบแน่นั้นจะได้ผลกับลมปราณสีทองของอาเบลเอง อาเบลสงสัยว่าถ้าหากอาเบลใช้น้ำยาเดินลมปราณระดับสุดยอดอีกครั้งจะสามารถพัฒนาลมปราณของตัวเขาเองได้อีกไหม แม้ว่าพลังลมปราณในการต่อสู้ของอาเบลนั้นจะอยู่ในระดับที่เรียกได้ว่าระดับของเทพเจ้า แต่ความจริงแล้วพลังลมปราณของอาเบลก็ยังไม่ได้แข็งแกร่งอะไรถึงขนาดนั้น
วีเว็ตต์ที่กำลังยืนมองอาเบลอยู่นั้นเห็นได้ชัดเจนว่าตอนนี้อาเบลกำลังกังวลอะไรบางอย่างเกี่ยวกับน้ำยาแห่งการควบแน่นนี้ “เคยมีตำนานเกี่ยวกับน้ำยาเดินลมปราณอยู่ค่ะ ถ้าหากคุณดื่มน้ำยาแห่งการควบแน่นไปถึง 1 ล้านขวดแล้วละก็เมื่อนั้นพลังลมปราณของผู้กินนั้นจะสามารถพัฒนาไปถึงระดับของเทพเจ้าได้”
วีเว็ตต์หัวเราะเบาๆ หลังจากที่พูดเสร็จ ความจริงแล้วไม่มีใครเคยกินน้ำยาแห่งการควบแน่นถึง 1 ล้านขวดมาก่อน เพราะการที่จะทำแบบนั้นได้จะเป็นอะไรที่สิ้นเปลืองเงินเป็นอย่างมาก และแม้ว่าถ้าหากใครที่ต้องการกินถึง 1 ล้านขวด (ต้องเป็นคนที่กล้าและโง่ๆ พอๆ กัน) ค่าใช้จ่ายสำหรับน้ำยาแห่งการควบแน่นถึง 1 ล้านขวดนั้นอาจจะทำให้ผู้ที่ต้องการกินนั้นถึงตายก็เป็นได้ เวลาที่ต้องใช้ในการกินให้ถึง 1 ล้านขวดเองก็ต้องใช้เวลานานเช่นเดียวกัน อาเบลไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าจะต้องใช้เวลากี่ปีกว่าจะกินน้ำยาแห่งการควบแน่นถึง 1 ล้านขวดได้
“งั้นผมขอซื้อน้ำยาทั้ง 3 แบบเลยครับ” อาเบลตัดสินใจที่จะซื้อน้ำยาแต่ละชนิดเพื่ีอกลับไปลองใช้ดูก่อน อาเบลอยากจะรู้ว่าน้ำยาแต่ละชนิดนั้นส่งผลอะไรต่อตัวอาเบลเอง
“น้ำยาที่ทางร้านมีทั้ง 3 ชนิดเป็นน้ำยาที่มีคุณภาพต่ำนะคะ เนื่องจากวัตถุดิบในการทำหายากมากการที่จะทำน้ำยาระดับกลางได้จึงเป็นอะไรที่บากมาก”
วีเว็ตต์ได้อธิบายทุกอย่างให้อาเบลฟังโดยที่ไม่ปิดบังอะไรเลย วีเว็ตต์กลัวอาเบลจะเข้าใจผิดนั่นเอง
วีเว็ตต์ได้พูดต่อไปว่า “50 เหรียญทองสำหรับน้ำยาแห่งโลหิต, 10 เหรียญทองสำหรับน้ำยาแห่งการเติมพลัง และ 100 เหรียญทองสำหรับน้ำยาแห่งการควบแน่น”
อาเบลแทบจะไม่เชื่อในราคาเลย น้ำยาสำหรับอัศวินอย่างเป็นทางการนั้นแพงกว่าน้ำยาแห่บงการเดินลมปราณของอัศวินฝึกหัดหลายเท่ามาก ดูเหมือนว่าการจะฝึกฝนไปจนถึงอัศวินชั้นสูงได้โดยการพึ่งพาน้ำยาพิเศษเหล่านี้คงจะไม่เหมาะสมสำหรับอัศวินธรรมดาเลย
“งั้นผมขอน้ำยาแห่งโลหิต 27 ขวด น้ำยาแห่งการเติมพลังอีก 270 ขวด และน้ำยาแห่งการควบแน่นอีก 162 ขวด” อาเบลกำลังจะซื้อน้ำยาพิเศษทั้งหมดที่ต้องใช้ภายใน 1 เดือน
“น้ำยาแห่งโลหิต 27 ขวดมีราคา 1,350 เหรียญทอง น้ำยาแห่งการเติมพลัง 270 มีราคา 2,700 เหรียญทอง และน้ำยาแห่งการควบแน่น 162 ขวดจะต้องใช้เงินทั้งหมด 16,200 เหรียญทอง ค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อน้ำยาทั้ง 3 ชนิดคือ 20,250 เหรียญทอง” วีเว็ตต์คิดราคาทุกอย่างอย่างรวดเร็วใจใจก่อนที่จะบอกราคากับอาเบลไป
อาเบลไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะต้องใช้เหรียญทองเกือบทั้งหมดในการ์ดในการซื้อน้ำยาเหล่านี้ อาเบลหยิบการ์ดเวทย์มนตร์ทองคำขึ้นมาก่อนที่จะส่งให้วีเว็ตต์ไป
วีเว็ตต์หยิบการ์ดจากมืออาเบลไปก่อนที่จะเชื่อมต่อกับการ์ดของร้านเอ็ดมันทันที ทันใดนั้นเองอาเบลก็รู้สึกถึงคำถามจากการ์ดได้ “คุณยินดีที่จะจ่ายเงินทั้ง 20,250 เหรียญทองไหม”
“อาเบลตอบกลับภายในใจไป “ผมยินยอม”
ตอนนี้เลขในการ์ดของอาเบลได้เปลี่ยนจาก 22,000 เป็น 1,750 ไปในที่สุด อาเบลเก็บการ์ดใบนี้ใส่ไปในกระเป๋าของตัวเองทันที ตอนนี้การ์ดของอาเบลนั้นสูญเสียเงินไปจนเกือบหมดแล้ว
หลังจากเสร็จสิ้นการชำระเงินวีเว็ตต์ก็ได้เตรียมกล่องใบใหญ่ถึง 2 กล่องด้วยกันให้กับอาเบล กล่องทั้งสองกล่องนี้ถูกเรียงไปด้วยน้ำยาพิเศษทั้ง 3 ชนิดด้วยกัน โดยวีเว็ตต์นั้นใช้ผ้าไหมเป็นเหมือนกับที่กันแรงกระแทกนั่นเอง