แล้วไง ?
มากลัวอะไรตอนนี้ ?
“หกปีก่อน เจ้าข่มขืนข้า ครั้นหกปีให้หลัง เจ้าบังคับจูบข้า ! ตอนนี้ข้าจะคิดบัญชีทั้งสองนี้กับเจ้าอย่างไรดี ?”
“ข้าบอกท่านแล้วว่าเรื่องหกปีก่อนนั้นมิใช่ข้า”
อย่างไรเสีย นางก็ไม่มีวันยอมรับความจริง นางไม่มีวันยอมรับเรื่องที่นางทำไว้เมื่อ 6 ปีก่อนเป็นแน่
“เรื่องเมื่อหกปีก่อน พักไว้ก่อน ไว้ข้าจะตรวจสอบอย่างละเอียดเอง เอาล่ะ ทีนี้มาคุยกันเรื่องเมื่อครู่นี้ดีกว่า !“
ตี้คังยื่นมือออกไปคว้าตัวไป๋หยานที่อยู่ข้างหน้า จากนั้นก็บังคับกดร่างนางลงบนเตียง
ไป๋หยานมิอาจเคลื่อนไหวใด ๆ ได้เลย ขาทั้งสองของนางถูกน้ำหนักตัวของเขากดทับ
“ตี้คัง ท่าน… อึ้มมมม…”
ไป๋หยานโกรธ นางพยายามประท้วง ทว่าก่อนที่จะทันพูดจบ ริมฝีปากของนางก็ถูกริมฝีปากแดง ๆ ของเขาครอบครอง
จูบของเขาหยาบคาย ทั้งดูเหมือนจะไม่ประสากับการจูบ
ริมฝีปากบอบบางของไป๋หยานไม่คุ้นเคยกับการจูบที่รุนแรงต่อเนื่องเช่นนี้ จูบของเขาบดขยี้ กระทั่งริมฝีปากของนางแตก กลิ่นเลือดกระจายคลุ้งในปาก คนทั้งสองลิ้มรสเลือดที่แผ่ซ่านทั่วลิ้น
ตี้คังเลื่อนมือลงไปลูบไล้ขาอ่อนของไป๋หยานอย่างเผลอไผล ปลายนิ้วเย็น ๆ ของเขาทำให้ไป๋หยานตัวสั่น นัยน์ตาของนางฉายแววโกรธเคือง
รสชาติของหญิงสาวที่อยู่ภายใต้ร่างของเขาช่างดีเหลือเกิน ดีเสียจนตี้คังไม่อาจผละออกมาได้โดยง่าย
เดิมที เขาขยะแขยงสตรีทุกคน ทว่าเมื่อครู่ จูบของไป๋หยานกลับนุ่มนวลอ่อนหวาน จนเขาไม่รู้สึกสะอิดสะเอียนเช่นเคย หากแต่กลับอยากสำรวจให้ลึกไปกว่าเดิม
ไป๋หยานพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากบุรุษผู้นี้ ทว่าแรงกดของเขากลับหนักหน่วงมาก นางจึงทำได้เพียงนอนนิ่ง ๆ ไม่อาจเคลื่อนไหวใด ๆ
โชคดี… หลังจากที่นางพยายามดิ้นรนอีกครั้ง ขาข้างหนึ่งก็หลุดพ้นจากพันธนาการ
นัยน์ตาของนางฉายแววแห่งความสุข นางยกเท้าข้างนั้นเตะเขาทันที !
หากเป็นครั้งก่อน ๆ ตี้คังคงจะสามารถคว้าขาข้างนั้นได้อย่างง่ายดาย แต่นี่เขากำลังเพลิดเพลินกับรสจูบ ทำให้เขาไม่รู้ตัวว่าขาข้างหนึ่งของนางหลุดรอดจากพันธนาการของเขาแล้ว
เช่นนั้น …
เปรี้ยง เท้าของไป๋หยานเตะเข้าที่จุดยุทธศาสตร์ของบุรุษ นั่นก็คือเป้ากางเกงของเขา
เตะนี้เป็นดั่งน้ำเย็นดับไฟปรารถนาที่พลุ่งพล่านลุกโชนของเขาเมื่อครู่ได้ทันที
ใบหน้าของตี้คังเขียวคล้ำ นัยน์ตาหงส์ที่กระหายเลือดของเขาเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยว “ไป๋หยาน ! เจ้าไม่ต้องการขาของเจ้าอีกแล้วใช่หรือไม่ ?”
ไป๋หยานรีบจัดผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง อีกทั้งเสื้อผ้าที่หลุดรุ่ยของนาง จากนั้นก็รีบก้าวลงจากเตียง
“ตี้คัง ! อย่าคิดว่าจะรังแกข้าได้ ! หากท่านมิได้พยายามบังคับขืนใจข้า ไม่ให้เกียรติข้า ข้าก็คงจะไม่เตะท่าน !“
“อย่าลืมสิว่า เป็นเจ้าที่ยั่วยวนข้าก่อน !” ความเจ็บปวดรวดร้าวที่บริเวณเป้า ทำให้ใบหน้าของตี้คังแลดูน่าเกลียดยิ่งขึ้น
เขาอยากจะเดินเข้าไปบีบคอผู้หญิงน่าเกลียดนั่นให้ตายคามือเสียจริง ๆ !
ทันใดนั้นเอง ตี้คังก็ยิ้ม ยิ้มของเขาแลดูโหดร้ายน่ากลัว นัยน์ตาของเขาเปล่งประกายแห่งความแค้นเคืองมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ไป๋หยาน ! เจ้าควรภาวนาว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหกปีก่อนมิใช่เจ้าที่เป็นผู้กระทำ หาไม่แล้ว ความเกลียดชังทั้งเก่า และใหม่จะต้อง…“
ไป๋หยานถามกลับ “แล้วท่านจะทำอย่างไรล่ะ ?”
“ข้าจะกักตัวเจ้าไว้ให้อยู่บนเตียงกับข้าทั้งวันทั้งคืน ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน” ตี้คังก้าวไปข้างหน้าสองก้าว จากนั้นก็ใช้นิ้วเรียวยาวบีบคางไป๋หยาน “และเมื่อถึงเวลานั้น ต่อให้เจ้าร้องขอความเมตตาก็ไร้ประโยชน์ !“
ทันใดนั้นเอง สายตาของเขาก็พลันสังเกตเห็นเลือดไหลออกจากริมฝีปากของไป๋หยาน ตี้คังขมวดคิ้ว หน้าผากของเขาย่นเล็กน้อย “เจ้าเจ็บหรือ ?”
ไป๋หยานปัดมือตี้คังออก พร้อมกับหันไปจ้องเขา ถามอะไรโง่ ๆ ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าท่านเป็นคนทำ ไยจะต้องถามอีก ?
อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดให้ดี ๆ แล้ว นางก็รู้สึกผิดเพราะตนเองเป็นผู้เริ่มก่อน
อย่างที่ชายผู้นั้นว่า … เริ่มแรกนางเองเป็นผู้ยั่วยุเขา เพียงแต่นางไม่คิดว่าตี้คังจะระเบิดอารมณ์ราวสัตว์ป่าเช่นนี้ …
***จบบท ใครยั่วใคร***