แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 6 ไงล่ะ..สุนัขของคุณหนูรอง ?

“ก่อนที่คุณพ่อจะพบหนู และบอกให้หนูกลับมา หนูก็คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตอยู่นอกบ้าน หนูเลยรู้สึกว่าตัวหนูเองยังไม่พร้อมสักเท่าไหร่ แต่หนูก็ยังอยากตอบแทนตระกูลเซี่ยบ้าง ดังนั้นเมื่อหนูได้ยินว่า บริษัทของคุณพ่อกำลังประสบปัญหา หนูจึงอยากจะช่วยคุณพ่อในสิ่งที่พอจะทำได้ เพื่อที่หนูจะได้มีคุณสมบัติพอที่จะกลับมายังตระกูลเซี่ย … “

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกตื้นตันใจกับวาทศิลป์ของตนเองจนน้ำตาแทบร่วง ก่อนหน้านี้ ที่เธอไม่อยากกลับมาที่บ้านตระกูลเซี่ย นั่นก็เป็นเพราะบ้านหลังนี้สงบสุขดีอยู่แล้ว เธอไม่อยากกลับมาเป็นตัวปัญหา แต่หลังจากที่เจินเมี่ยวหยูส่งคนไปลอบฆ่าเธอ หวังให้เป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์

 

เธอจึงต้องการกลับมา สำหรับเธอแล้ว หากจะปล่อยให้ศัตรูหาโอกาสเข่นฆ่าอยู่ฝ่ายเดียว ก็น่าจะดีกว่าหากเราชิงลงมือก่อน !

 

เซี่ยเจิ้งหัวมองเซี่ยฉิงกงด้วยความชื่นชม เขาไม่สนใจแล้วว่าเธอจะสวมชุดอะไรอยู่ตอนนี้ เขาถอดเสื้อนอกของเขาออก จากนั้นก็สวมให้เซี่ยฉิงกงแทน

 

“งั้นที่ลูกไปผับคราวน์คลับนั่นก็เพื่อช่วยพ่อใช่ไหม ?”

 

“ใช่ค่ะ … ”

 

เซี่ยฉิงกงจงใจห่อตัว ทำให้เซี่ยเจิ้งหัวรีบสั่งให้คนไปเตรียมน้ำร้อน และพาเซี่ยฉิงกงไปที่สนามหน้าบ้าน

 

เซี่ยชิงฉวนเดินตามมาข้างหลังอย่างไม่สบอารมณ์ เธอกระทืบเท้าอย่างหงุดหงิดรำคาญใจ !

 

ทันทีที่เซี่ยฉิงกงเดินไปถึงทางเข้าห้องโถง ขณะที่ยื่นขาข้างหนึ่งออกไป เธอก็เห็นเงาสีเทาวิ่งเข้ามาหา

 

“โฮ่ง โฮ่ง !”

 

สุนัขขนสีขาวกระดิกหาง จากนั้นก็กัดขาของเซี่ยฉิงกงอย่างแรง

 

“อ๊า !”

 

เซี่ยฉิงกงผงะ เธอรีบสะบัดขาเพื่อเหวี่ยงสุนัขนั่นออกไป

 

จังหวะนั้น สุนัขก็กัดเข้าที่ถุงน่องของเซี่ยฉิงกงจนขาดเป็นรูขนาดใหญ่ เธอเหยียดปากเยาะเย้ย เธอมองเจ้าสุนัข ก่อนจะทิ้งตัวลงบนพื้น แล้วกลิ้งตัวไปพร้อมกับเจ้าสุนัขขนขาว

 

“รีบช่วยคุณหนูใหญ่ไว ๆ !”

 

เซี่ยฉิงกงมองบรรดาบอดี้การ์ดข้าง ๆ ขณะแสร้งทำทีว่ากำลังรับมือเจ้าสุนัขขนขาวนี่

 

เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านั้นต่างวิตกกังวล พวกเขากลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ  หากแต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะลงมือ

 

สุนัขขนขาวตรงหน้าแลดูเหมือนหมาบ้า ทว่าขนของมันกลับนุ่มราวกับได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ

 

ครั้นเหลือบไปเห็นเซี่ยชิงฉวนที่ยืนกอดอกดูการแสดงที่น่าสนุกนี่จากระยะไกล ๆ เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

 

ต้อนรับกันด้วยวิธีนี้เนี่ยนะ !

 

ทันทีที่เห็นว่ากลุ่มบอดี้การ์ดกำลังจะเข้ามาล้อมกรอบเธอ เซี่ยฉิงกงก็ตะโกนออกมาทันที

 

“อย่าขยับ !”

 

กลุ่มบอดี้การ์ดถอนหายใจด้วยความโล่งอก พวกเขาไม่สามารถทำร้ายสัตว์เลี้ยงของคุณหนูรองได้ แต่ก็ไม่อาจปล่อยให้สุนัขทำร้ายคุณหนูใหญ่ได้เช่นกัน

 

ครั้งนี้เป็นเซี่ยฉิงกงที่สั่งให้พวกเขาหยุดเอง และนั่นทำให้พวกเขารู้สึกกดดันน้อยลง หากแต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้สบายใจก็ได้ยิน เซี่ยฉิงกงตะโกนออกมาเพื่อเคลียร์ทางด้วยเสียงที่ฟังดูน่ากลัว

 

“นี่มันหมาบ้า อย่าเข้ามา เดี๋ยวมันจะกัดเอา !”

 

เซี่ยชิงฉวน และเจินเมี่ยวหยูยืนดูอย่างเฉยเมย นี่ถือเป็นบทเรียนสำหรับ เซี่ยฉิงกงที่สะเออะอยากเป็นคนตระกูลเซี่ย !

 

แม้ว่าเซี่ยฉิงกงจะเพิ่งตะโกนจบ ทว่าจู่ ๆ ก็ไม่รู้ว่าเธอหยิบมีดออกมาจากไหน ใบมีดที่แหลมคมส่องประกายอย่างเย็นเยียบภายใต้แสงไฟ

 

เพียงไม่ช้าใบหน้าของเซี่ยชิงฉวนก็เปลี่ยนไป หัวใจของเธอแทบกระโจนออกมานอกอก ก่อนที่เธอจะทันได้ตะโกนออกไป เธอก็ได้ยินเสียงร้อง “เอ๋ง” แข้งขาของเธอพลันอ่อนยวบ

 

เซี่ยฉิงกงเตะสุนัขขนสีขาวที่ถูกแทงจนตายออกไป จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน เธอหยิบเสื้อผ้าที่ถูกสุนัขกัดขาดขึ้นมา พร้อมกับโยนมีดในมือลงไปที่พื้น

 

เสียงดังโวยวายนี้ ทำให้เซี่ยเจิ้งหัวและคนอื่น ๆ ตื่นตัว เซี่ยเจิ้งหัวรีบวิ่งมาคว้าแขนของเซี่ยฉิงกงพลางไถ่ถาม

 

“ลูกเป็นอะไร เป็นอะไรมากไหม หมาตัวนี้กัดหนูตรงไหนบ้าง ?”

 

นัยน์ตาของเซี่ยชิงฉวนร้อนผ่าว เธอกำลังจะก้าวไปข้างหน้า เพื่อจะด่าทอฉิงกง หากแต่แม่ของเธอกลับคว้าตัวเธอไว้เสียก่อน

 

มันคือสุนัขฮังกาเรียนแชพเพริ์ดตัวโปรดของเธอ !

 

“หนูไม่เป็นไร”

 

เซี่ยเจิ้งหัวหันไปมองแม่บ้านอย่างตำหนิ “สุนัขตัวนี้มาจากไหนกัน ? ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”

 

“ดูเหมือนว่าจะเป็นของคุณหนูรองค่ะ … ” ใครบางคนที่อยู่ข้าง ๆ เธอพยายามเตือนเธอให้เงียบ ๆ

 

“สุนัขนี่เป็นของชิงฉวนงั้นเหรอ ?”

 

***จบตอน ไงล่ะ..สุนัขของคุณหนูรอง ?***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset