แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 15 แม่ตายอย่างมีเงื่อนงำ

“แต่ไม่มีทางหรอก เพราะสัญญาการแต่งงานกำหนดไว้ว่า ต้องเป็นคนของตระกูลมู่กับลูกสาวคนโตของตระกูลเซี่ยเท่านั้น หากคุณหนูรองสามารถแต่งงานแทนได้ นายท่านคงจะไม่ใช้เวลาตั้งนาน เพื่อตามหาคุณหนูใหญ่กลับมาหรอก”

 

“นั่นสิ ฉันก็ว่างั้น ไหนว่าเลิกตามหาไปตั้งนานแล้ว จู่ ๆ ก็ไปพาตัวกลับมาทั้งที่ไม่เคยสนใจไยดีมาหลายปี”

 

“ฉันได้ยินมาว่าเวลานี้ธุรกิจของตระกูลเซี่ยกำลังตกอยู่ในขั้นวิกฤติ ดังนั้นนายท่านจึงอาศัยการแต่งงานกับตระกูลมู่เพื่อช่วยพยุงฐานะ แต่ตระกูลมู่ขอรับแค่ลูกสาวคนโตเท่านั้น”

 

เซี่ยฉิงกงพยักหน้าอยู่ตรงมุมกำแพง ตอนนี้เธอเข้าใจทุกอย่างกระจ่างแจ้ง

 

หลังจากได้รับข่าวสารอันเป็นประโยชน์นี้ เซี่ยฉิงกงก็รีบกลับไปที่ห้อง เธอรีบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตอย่างรอบคอบ หลังจากผนวกเข้ากับข้อมูลที่รวบรวมได้ในโลกออนไลน์ภายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เธอก็ยิ่งเข้าใจมากขึ้น

 

หุ้นส่วนหนึ่งของตระกูลเซี่ยยังคงเป็นชื่อของเธอกับมารดาผู้ให้กำเนิด เจินเมี่ยวหยูเองก็ต้องการที่จะฮุบหุ้นในส่วนนี้มาโดยตลอด แต่เธอไม่คาดคิดว่าตระกูลเซี่ยจะประสบภาวะวิกฤติทางการเงินขั้นรุนแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

เซี่ยเจิ้งหัวหมดหวังหลังจากเจรจากับตระกูลมู่ เขาพบว่าตระกูลมู่ไม่ได้ผิดสัญญา แต่ตระกูลมู่จะยอมรับแค่บุตรสาวคนโตของตระกูลเซี่ยเท่านั้น ดังนั้นเซี่ยเจิ้งหัวจึงเริ่มออกตามหาเธอ ทั้งที่ปล่อยให้เธอต้องระหกระเหินเผชิญชีวิตอยู่ข้างนอกมาหลายปี

 

แน่นอนว่า พวกเศรษฐีไม่สนใจความรักความผูกพันในครอบครัว พวกเขามองหาแต่ผลประโยชน์

 

เซี่ยฉิงกงถอนหายใจให้กับแม่และตัวเธอเอง

 

อย่างไรเสีย ตอนนี้เราก็มาถึงจุดนี้แล้ว เราก็ต้องเดินหน้าต่อไปโดยไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น

 

คืนนี้เธอนอนหลับอย่างสบาย และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เซี่ยเจิ้งหัวก็ส่งคนไปตระเตรียมจัดงานวันครบรอบการเสียชีวิตของแม่เธอแล้ว

 

เซี่ยเจิ้งหัวพาเซี่ยฉิงกงไปที่สุสานเพื่อกราบไหว้แม่ของเธอ

 

ระหว่างทางทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันมากนัก เซี่ยเจิ้งหัวเองก็รู้สึกหนักใจอยู่ไม่น้อย ดังนั้นทั้งสองจึงเดินทางไปและกลับกันอย่างเงียบ ๆ

 

ในขณะที่เซี่ยฉิงกงกำลังคิดว่าอย่างไรเสียก็คงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว จู่ ๆ เธอก็พบว่าหลังจากเซี่ยเจิ้งหัวกลับมา เขาก็นำเอกสารเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์หลายอย่างมาให้เธอ

 

“ฉิงกง ลูกจากไปนานหลายปี พ่อเองก็ไม่มีอะไรจะชดเชยให้ลูกได้นอกจากสมบัติเหล่านี้ ถือเสียว่านี่คือของขวัญจากใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พ่อมอบให้ ทั้งหมดนี้พ่อมอบให้หนู”

 

“ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ”

 

“อีกเรื่องคือ พ่อเพิ่งรู้ว่าแม่บุญธรรมของลูกป่วยหนัก พ่อเลยส่งเธอไปโรงพยาบาลที่ดีที่สุด ที่นั่นแม่บุญธรรมของลูกจะได้รับการรักษาเป็นอย่างดี ดังนั้นลูกไม่ต้องเป็นกังวล แต่แปลกที่เธอไม่ต้องการพบพ่อ … พ่ออยากจะขอบคุณเธอที่ดูแลลูกตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้”

 

ครั้นได้ยินว่าแม่บุญธรรมของเธอได้เข้ารับการรักษาที่ดีที่สุดแล้ว เซี่ยฉิงกงก็รู้สึกโล่งใจ ส่วนเรื่องที่แม่บุญธรรมของเธอไม่เต็มใจที่จะพบกับเซี่ยเจิ้งหัวนั้น เธอไม่สนใจแม้สักนิด

 

ขณะที่เซี่ยเจิ้งหัวเดินจากไปพร้อมความเศร้านั้น นัยน์ตาของเซี่ยฉิงกงยังคงเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา ทว่าทันทีที่เขาลับสายตา เธอก็โยนเอกสารอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดลงบนโต๊ะ

 

ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว หากเธอแต่งงานกับตระกูลมู่ ด้วยอำนาจของตระกูลมู่ย่อมเพียงพอที่จะทำให้ตระกูลเซี่ยฟื้นได้อีกครั้ง และอาจเจิดจรัสยิ่งกว่าเดิมด้วย

 

หุ้นในส่วนที่เป็นชื่อของเธอกับคุณแม่ก็จะมีค่าขึ้น

 

และเธอไม่ได้ต้องการแค่เพียงสมบัติเล็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้เท่านั้น

 

อย่างไรเสีย เมื่อได้เห็นเซี่ยเจิ้งหัวยังคงรู้สึกผิด เซี่ยฉิงกงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจ

 

ดูเหมือนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นจะไม่ได้เกิดจากเซี่ยเจิ้งหัว ดังนั้นสิ่งที่เซี่ยฉิงกงต้องการสืบหาจริง ๆ ก็คือผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังการตายของมารดาผู้ให้กำเนิด การเสียชีวิตของมารดาเธอไม่น่าที่จะเป็นการตายแบบธรรมดา ๆ เสียแล้ว

 

หลังจากคืนนี้ เซี่ยฉิงกงจะต้องติดตามมู่เฉินฮ่าวกลับไปที่บ้านตระกูลมู่ ดังนั้นคืนนี้จึงเป็นคืนสุดท้ายในบ้านสกุลเซี่ยของเธอ

 

แม้ว่าฉิงกงจะไม่เคยเห็นแม่ผู้ให้กำเนิดตั้งแต่เธอยังเด็ก ทั้งไม่มีความรักความผูกพันกับแม่ผู้ให้กำเนิดเลย ทว่าสัมพันธ์ทางสายเลือดก็ทำให้ฉิงกงรู้สึกหดหู่จนกินอะไรไม่ลงเลยทั้งวัน

 

***จบตอน แม่ตายอย่างมีเงื่อนงำ***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset