แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 27 พบมารดามู่เฉินฮ่าว

แน่นอนว่า มู่จื่อหมิง ก็คือ บิดาของมู่เฉินฮ่าว

 

เมื่อรู้สึกถึงความกดดันในรถ คนขับจึงเอ่ยตอบอย่างระมัดระวังว่า

 

“ครับ เมื่ออาทิตย์ก่อนมีข่าวจากตระกูลเซี่ยว่า พวกเขาหาลูกสาวคนโตพบ และพาเธอกลับมาแล้ว”

 

“โทรหาเขา ถามเขาสิว่า เขาจะกลับมาเมื่อไหร่ ฉันก็อยากเห็นหน้าลูกสาวของตระกูลเซี่ยที่เพิ่งถูกพบตัวคนนั้นด้วย !”

 

เมื่อได้ยินข่าวนี้ ซิงเหวินจิ้งก็ยิ่งอารมณ์ไม่ดี ใบหน้าของเธอเย็นชา และนั่นทำให้คนขับรถเหงื่อแตกท่วมตัว

 

หลังจากโทรถามแล้ว คนขับก็ตอบว่า

 

“คุณผู้หญิง ตอนนี้นายน้อยอยู่ที่โรงพยาบาลมู่บนถนน XW”

 

“เขาไปโรงพยาบาลทำไม ?”

 

“สถานการณ์ยังไม่ชัดเจนนักครับ แต่คนที่โรงพยาบาลบอกว่า ตอนที่เห็นนายน้อยเข้าโรงพยาบาลมา นายน้อยกำลังอุ้มคุณหนูตระกูลเซี่ยที่เต็มไปด้วยเลือด … “

 

“ว่าไงนะ !”

 

ซิงเหวินจิ้งตกตะลึงมีเลือดออกด้วย ประโยคนี้ทำให้ซิงเหวินจิ้งหวาดกลัว ลูกสาวตระกูลเซี่ยคนนี้เป็นดาวอับโชคหรือไง ? ทำไมลูกชายของฉันถึงต้องไปโรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่รับตัวเธอมา

 

“กลับรถไปที่โรงพยาบาลเลย !”

 

“ครับ คุณผู้หญิง”

 

คนขับรถปาดเหงื่อ เขารีบกลับรถมุ่งตรงไปโรงพยาบาล

 

หลังจากที่ซิงเหวินจิ้งมาถึงโรงพยาบาลอย่างร้อนรน เธอก็รีบตรงไปที่ห้องพยาบาลโดยที่เธอเองก็ยังไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น

 

เวลานี้ เซี่ยฉิงกงกำลังนั่งคุยกับหมอซู หลังจากพันผ้าพันแผลเรียบร้อยแล้ว ซูเฟยก็ไปหาเสื้อคลุมยาวมาให้เซี่ยฉิงกงใส่

 

หากแต่เสื้อคลุมนั่นก็สั้นจนปิดได้แค่บริเวณบั้นท้ายของเซี่ยฉิงกง และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงรู้สึกเขินอายเล็กน้อย ทว่าเธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น

 

เพราะชุดสวยแสนแพงนั่นก็ขาดจนใส่ไม่ได้อีกต่อไป

 

“ฉิงกง.. กลับไปแล้วอย่าให้แขนโดนน้ำนะ ไม่งั้นมันจะอักเสบง่าย และ … ให้นายน้อยเปลี่ยนผ้าพันแผลตามเวลาด้วย …”

 

ก่อนที่ซูเฟยจะพูดอะไรต่อ ประตูห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ก็เปิดออกพร้อมเสียงดังโครมคราม

 

ซูเฟยหันไปมองผู้หญิงที่ก้าวเข้ามา เธอคือมารดาของมู่เฉินฮ่าว คุณผู้หญิงของตระกูลมู่นี่นา ?

 

“คุณผู้หญิง ทำไมถึงมาที่นี่ได้” ซูเฟยลุกขึ้นและยิ้ม

 

ซิงเหวินจิ้งไม่สนใจคำพูดของซูเฟย เธอเอ่ยถามตรง ๆ ว่า

 

“ลูกชายของฉันอยู่ไหน ?!”

 

ในสายตาของเธอ  ซูเฟยเป็นเพียงหนึ่งในนักเรียนยากจนหลายพันคนที่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลมู่ของเธอเท่านั้น

 

ไม่ควรค่าที่เธอจะชายตามอง และผู้หญิงคนนี้ก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะคุยกับเธอด้วยซ้ำ

 

ซูเฟยคุ้นเคยกับทัศนคติของซิงเหวินจิ้งมานานแล้ว เธอจึงเพียงแค่ตอบไปว่า มู่เฉินฮ่าวกำลังไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเท่านั้น

 

ก่อนที่ซูเฟยจะพูดอะไรต่อ สายตาของซิงเหวินจิ้งก็กวาดมองไปทั่วห้องอย่างเงียบ ๆ กระทั่งที่สุดก็หยุดลงที่เสื้อเชิ้ตซึ่งถูกโยนทิ้งอยู่บนพื้น เสื้อเชิ้ตที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด

 

เธอจำได้ว่า นี่คือเสื้อของมู่เฉินฮ่าว

 

ซิงเหวินจิ้งยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า เพราะผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ทำให้ลูกชายของเธอได้รับบาดเจ็บจนเสื้อตัวนี้เต็มไปด้วยรอยเลือด

 

“เธอเป็นลูกสาวที่ตระกูลเซี่ยตามจนพบ แล้วพากลับมาใช่มั้ย ? นี่ลูกชายฉันเป็นอะไรมากรึเปล่า ? เธอนี่เยี่ยมจริง ๆ เลยนะ ! ทำให้ลูกชายของฉันเลือดตกยางออกตั้งแต่ยังไม่เข้าประตูบ้านเลยงั้นหรือ ?”

 

ซิงเหวินจิ้งกวาดสายตาไปทั่วร่างเซี่ยฉิงกงอย่างเย็นชา เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ

 

ทันทีที่เซี่ยฉิงกงได้ยินคำพูดของผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้ทันทีว่าใครกันมาอาละวาดที่นี่ ปรากฏว่าที่คุณผู้หญิงอุตส่าห์มาถึงโรงพยาบาลก็เพื่อต่อว่าต่อขานเธอสินะ ?

 

แต่ลูกชายของคุณดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยไม่ใช่รึ ?

 

เป็นแขนเธอต่างหากที่ถูกแทง ทว่าเธอก็ไม่อาจอธิบายอะไรได้ น้ำตาที่เจ็บปวดของเธอใกล้จะร่วงหล่นลงมาเต็มที

 

“เสื้อของนายน้อยสกปรก นายน้อยเลยไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องอื่น เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร นายหญิงน้อยต่างหากที่ได้รับบาดเจ็บ”

 

ซูเฟยรีบอธิบายเมื่อเห็นซิงเหวินจิ้งเข้าใจผิด

 

***จบตอน พบมารดามู่เฉินฮ่าว***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset