แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 28 ผู้หญิงจากตระกูลฉี !

แม้ว่าตอนเด็กเซี่ยฉิงกงจะไม่ได้อาศัยอยู่ในตระกูลเซี่ยที่มีชื่อเสียง และเธอก็ไม่ได้รับการศึกษาจากผู้ดีมีตระกูลใด ๆ แต่เธอก็ได้รับการศึกษาอบรมมาเป็นอย่างดี นอกจากนี้แม่บุญธรรมของเธอก็ยังสอนหลักการดำเนินชีวิตหลายอย่างให้กับเธอด้วย

 

ไม่ว่าจะเจอคนอ่อนน้อมกับเรา หรือหมายจะข่มเรา เราก็ไม่ควรแสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาบนสีหน้า

 

ดังนั้นแม้ว่าจะเสียใจแค่ไหน ต่อท่าทีดูหมิ่นของมารดามู่เฉินฮ่าว ฉิงกงก็ยังคงยิ้มและไม่พูดอะไรออกมา

 

ประการแรกผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอ คือ ว่าที่แม่สามี หากเธอหลุดการกระทำที่ไม่ดีออกไป ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการสืบสวนเรื่องราวต่าง ๆ ของเธอในวันหน้า

 

ประการที่สอง เซี่ยฉิงกงเหนื่อยล้า อีกทั้งแขนของเธอก็ยังเจ็บอยู่ เธอจะมีเรี่ยวแรงไปทะเลาะกับคนอื่นได้อย่างไร ?

 

“นายหญิงน้อยอะไรกัน ? ฉันยังไม่ยอมรับว่าเธอเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลมู่ของฉันสักหน่อย เธอนี่มันยังไงกัน ? ทำไมแค่เสี่ยวเฉินไปรับเธอจากบ้านก็ต้องมาโรงพยาบาลแล้ว ?”

 

ครั้นรู้ว่าลูกชายของเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ ซิงเหวินจิ้งก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย ทว่าเธอก็ยังแสดงทีท่าดุดัน คิ้วของเธอขมวดแน่น ใบหน้าของเธอเย็นชา และฉิงกงก็เห็นร่องรอยของการดูถูกอย่างชัดเจนในแววตาของเธอ

 

“ระหว่างเดินทาง ฉันเจอคนลักพาตัว”

 

ภายใต้สายตาอันคมกริบของซิงเหวินจิ้ง เซี่ยฉิงกงเอ่ยตอบอย่างสงบนิ่งไม่ถ่อมตัว หรือพยายามเอาอกเอาใจแต่อย่างใด

 

คุณผู้หญิงไม่ยอมรับฉันเป็นสะใภ้ตระกูลมู่งั้นเหรอ ? เยี่ยมไปเลย !

 

ฉัน..เซี่ยฉิงกงก็ไม่ต้องการหมั้นกับมู่เฉินฮ่าวตั้งแต่แรกแล้ว

 

“ลักพาตัว ? เธอถูกลักพาตัวได้ยังไง ? เธอเติบโตในบ้านคนธรรมดา มีอะไรให้ต้องลักพาตัว ?”

 

ใบหน้าที่ตกแต่งอย่างประณีตนั้นแสดงให้เห็นชัดว่าไม่พอใจเซี่ยฉิงกง ก็ลูกสาวตระกูลเซี่ยคนนี้หายตัวไปตั้งแต่เด็กไม่ใช่รึ ?

 

ไม่มีเหตุผลที่จะเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวเพราะเรื่องธุรกิจ

 

นี่ย่อมไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน

 

ความประทับใจของซิงเหวินจิ้งที่มีต่อเซี่ยฉิงกงยิ่งลดลงไปอีก

 

“คุณแม่ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ ?”

 

ก่อนที่เซี่ยฉิงกงจะพูดอะไร เสียงของมู่เฉินฮ่าวก็ดังมาจากบริเวณประตู

 

“คุณแม่มาที่นี่ทำไม ?”

 

มู่เฉินฮ่าวสวมเสื้อผ้าตัวใหม่ที่สะอาดเรียบร้อย ดูเหมือนเขาจะอาบน้ำมาแล้วด้วย เส้นผมของเขาก็ยังไม่แห้งดีเลย

 

โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นสมบัติของตระกูลมู่ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่มู่เฉินฮ่าวจะสามารถอาบน้ำที่นี่ได้

 

“เสี่ยวเฉิน ตอนที่แม่ลงจากเครื่อง แม่ก็ได้ยินว่าลูกมาที่โรงพยาบาล แล้วตัวลูกก็เต็มไปด้วยเลือด แม่ตกใจมาก แม่คิดว่าต้องเป็นเพราะผู้หญิงจากตระกูลเซี่ยดวงไม่สมพงษ์กับลูกเป็นแน่ หาไม่ ทำไมเจอกันครั้งแรกก็ถึงกับเลือดตกยางออกแล้วล่ะ ?”

 

แม้ว่าซูเฟยจะบอกซิงเหวินจิ้งไปแล้วว่า ไม่ใช่มู่เฉินฮ่าวที่ได้รับบาดเจ็บ ทว่าซิงเหวินจิ้งก็ยังคงมองสำรวจร่างมู่เฉินฮ่าวขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นเวลานาน

 

“ผมเปื้อนเลือดไปทั้งตัวจริง ๆ”

 

หลังจากที่มู่เฉินฮ่าวพยักหน้า บทสนทนาของเขาก็เปลี่ยนไป

 

“แต่ … ไม่ใช่เลือดของผม แขนฉิงกงถูกแทงเพราะเธอพยายามช่วยผม”

 

“ยังไงก็เป็นลางไม่ดี ไม่ว่าจะช่วยลูกหรือไม่ก็เถอะ แม่ต้องกลับไปบอกคุณพ่อของลูกแล้วว่าจะขอยกเลิกสัญญาการแต่งงานนี้ซะ จะเอาเรื่องที่พูดเล่นกันเมื่อสิบกว่าปีก่อนมาเป็นจริงเป็นจังได้อย่างไร ? นี่หยานเอ๋อก็กำลังจะกลับประเทศจีนแล้ว ลูกควรจะไปทำความสนิทสนมกับหยานเอ๋อดีกว่า เธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลผู้ดี ทั้งยังมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง… ลุงของเธอก็อยู่ในแวดวงการเมือง …”

 

ก่อนที่ซิงเหวินจิ้งจะพูดจบ มู่เฉินฮ่าวก็เดินผ่านหน้าซิงเหวินจิ้ง แล้วไปนั่งยอง ๆ  ลงตรงหน้าเซี่ยฉิงกง ดวงตาที่แลดูขี้เล่นคู่นั้นอ่อนโยนลงมากจนทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัด

 

“ที่รักยังเจ็บอยู่มั้ย ? ผมขอโทษนะ เป็นความผิดของผมเอง ที่ทำให้คุณได้รับบาดเจ็บ กลับกันเถอะ ผมจะดูแลคุณเอง”

 

“เสี่ยวเฉิน ! นี่ลูกชอบผู้หญิงคนนี้จริง ๆ เหรอ ?”

 

ซิงเหวินจิ้งที่ถูกลูกชายของเธอเพิกเฉยใส่ รู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างฉับพลัน

 

“คุณแม่ ผมไม่สนใจผู้หญิงคนอื่น โดยเฉพาะผู้หญิงจากตระกูลฉีนั่น !”

 

***จบตอน ผู้หญิงจากตระกูลฉี !***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset