แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 38 ตัวตลกของวงสังคมไฮโซ

บ่ายวันนี้ อุณหภูมิโดยรวมกำลังดี ทำให้อากาศสดชื่นมาก

 

แสงแดดสาดส่องไปทั่วทั้งลานบ้านสกุลมู่ ทั้งคฤหาสน์เต็มไปด้วยบรรยากาศสบาย ๆ เซี่ยฉิงกงนั่งอยู่ในสวน เธอดูบันทึกการโทรศัพท์ของเฉินเหวินกัง การหมุนเวียน และการฝากถอนเงินในบัญชี ตลอดถึงสถานการณ์ของภรรยาของเฉินเหวินกังในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ซึ่งอาเจิ้งลอบเอาข้อมูลมาให้ด้วยวิธีการพิเศษ

 

และที่สำคัญที่สุดก็คือวิดีโอก่อนที่เฉินเหวินกังจะฆ่าตัวตาย เซี่ยฉิงกงพยายามหาเบาะแสบางอย่างจากมัน

 

เฉิงเหวินกังสงบนิ่งมากก่อนเสียชีวิต หลังจากเข้าไปในเรือนจำที่ถูกคุมขังชั่วคราว เขาก็หย่อนกายลงนั่งที่มุมห้อง จ้องกำแพงนิ่งครู่หนึ่ง เธอมองเห็นสีหน้าของเขาได้ไม่ชัดเจนนัก ไม่นานเขาก็ล้วงขวดยานอนหลับที่แอบซุกซ่อนไว้ออกมาอย่างใจเย็น จากนั้นก็กลืนยาทั้งหมด ก่อนจะก้าวไปที่เตียง แล้วล้มตัวลงนอน

 

เห็นได้ชัดว่าเขาวางแผนการเตรียมพร้อมที่จะตายไว้นานแล้ว

 

ทำไมถึงลงมือเด็ดขาดเพียงนี้ ? ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังสั่งให้เขากระทำเช่นนี้ เขาต้องได้รับเงื่อนไขบางอย่างที่สำคัญมาก เขาถึงได้ยอมสละชีวิต

 

นี่เป็นจุดที่เธอคิดไม่ออก และอาจเป็นจุดที่สำคัญที่สุดด้วย

 

ขณะที่เซี่ยฉิงกงกำลังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่นั้น

 

“นายหญิงน้อย มีผู้หญิงมารอที่ประตู เธออ้างว่าเป็นน้องสาวของคุณ”

 

“น้องสาวเหรอ ? น้องสาวของฉันอยู่ไหน ?”

 

เซี่ยฉิงกงตื่นเต้นมาก ว่านอิง กลับมาแล้วหรือนี่ ? “

 

สาวใช้พยักหน้า “ค่ะ เธอบอกว่า เธอชื่อ.. เซี่ยชิงฉวน”

 

เซี่ยฉิงกงเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที เซี่ยฉิงกงและเซี่ยชิงฉวน แม้ว่าชื่อจะฟังดูคล้ายกันมาก หากแต่คนที่เรียกเธอว่าพี่สาวคนนี้ ก็คือ คนเดียวกับที่คิดหาวิธีกำจัดเธออยู่ตลอดเวลา

 

ว่าแต่ทำไมเธอถึงมาที่นี่ล่ะ ?

 

เซี่ยฉิงกงขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเธอเข้ากันไม่ได้เลย

 

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อชิงฉวนอุตส่าห์มาถึง ว่ากันว่าทหารมาก็ต้องใช้ขุนพลต้านรับ น้ำเข้ามาก็ใช้แผ่นดินต้าน (ไม่ว่าจะมาไม้ไหนก็รับมือได้เสมอ) สำหรับน้องสาวที่ไอคิวต่ำคนนี้ของเธอ เซี่ยฉิงกงไม่สนใจอะไรนัก

 

แค่อยากดูว่าชิงฉวนจะเล่นเล่ห์อะไรอีก ?

 

ใบหน้าเซี่ยชิงฉวนที่กำลังรออยู่ตรงประตูเปลี่ยนเป็นสีเขียวเล็กน้อย นี่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปงั้นหรือ ?

 

หากเธอไม่ได้เข้าบ้าน วันนี้เธอก็มาเสียเที่ยวสิ ก่อนจะออกจากบ้าน เจินเมี่ยวหยูแม่ของเธอยังสำทับเป็นพิเศษว่า เธอต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ดี เธอต้องสุภาพกับเซี่ยฉิงกง ห้ามโกรธ ทั้งต้องพูดคุยกับเซี่ยฉิงกงให้เหมือนญาติสนิท

 

เซี่ยชิงฉวนยังคิดในใจเลยว่า “คนทำการใหญ่ย่อมไม่ยึดติดกับเรื่องเล็กน้อย !”

 

อย่าลืมต้อง ‘สุภาพ’

 

หลังจากคิดได้เช่นนั้น ไม่นานสาวใช้ก็กลับออกมา

 

“นายหญิงน้อยเซี่ย ให้มาเชิญคุณเข้าไปข้างในค่ะ”

 

ชื่อนายหญิงน้อยเซี่ย ทำให้เซี่ยชิงฉวนรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย นอกจากเซี่ยชิงฉวนแล้ว ก็ไม่ควรมีใครได้ชื่อว่านายหญิงน้อยเซี่ยอีก ตอนนั้นเธอถึงกับนอนไม่หลับกระสับกระส่ายทั้งคืน เมื่อรู้ว่าตระกูลเซี่ยและตระกูลมู่มีสัญญาการแต่งงานกัน ในวันรุ่งขึ้นเธอยังคุยโวในวงสังคมไฮโซกับพวกเพื่อน ๆ คุณหนูของเธอว่าอีกไม่นานเธอก็จะได้แต่งงานกับมู่เฉินฮ่าว ผู้ซึ่งมีอิทธิพลกว้างขวางในนครเซี่ยงไฮ้นี้

 

พวกเพื่อน ๆ คุณหนูของเธอต่างก็อิจฉาริษยาเป็นการใหญ่

 

ไม่คาดคิดว่าบ้านตระกูลมู่กลับเจาะจงว่าจะต้องเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเซี่ยเท่านั้น

 

ตอนนี้เซี่ยชิงฉวนจึงกลายเป็นตัวตลกของวงสังคมไฮโซไปเสียแล้ว …

 

เดิมทีวงสังคมไฮโซของเซี่ยชิงฉวนนั้นเต็มไปด้วยลูกสาวของบรรดาผู้ดีมีสกุลสูงที่ชอบเปรียบเทียบแข่งขันกัน มองผิวเผินพวกเธอก็ดูเป็นมิตรกันดี แต่ลับหลังพวกเธอต่างต่อสู้แข่งขัน และเปรียบเทียบกันทุกสิ่งทุกอย่าง ต่างคนต่างก็อวดตัวเองว่า ใครจะได้แต่งงานกับคนที่ร่ำรวย และมีฐานะทางสังคมดีกว่าครอบครัวของตนมากกว่ากัน ?

 

อย่างไรก็ตาม เซี่ยชิงฉวนก็พยายามระงับอารมณ์เพื่อแสดงให้เห็นถึงมารยาทของตระกูลเซี่ยที่มีชื่อเสียง

 

“โอเค นำทางไปสิ” เซี่ยชิงฉวนปั้นยิ้ม ‘อ่อนโยน’

 

เพื่อให้สาวใช้ประทับใจว่าคุณหนูรองของตระกูลเซี่ย เป็นลูกสาวจากตระกูลมีชื่อเสียงที่ทั้งงดงาม ทั้งได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี และยังสุภาพกับบ่าวไพร่เช่นพวกเขา

 

หลังจากเดินไปตามทางได้ประมาณหนึ่งนาที ก็มาถึงสวนขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง เมื่อเซี่ยชิงฉวนมาถึง เซี่ยฉิงกงก็กำลังดูการ์ตูนตลก เธอยิ้มให้อย่างจริงใจ

 

“พี่สาว สองสามวันที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ? บ้านสกุลมู่ทำอะไรให้พี่น้อยใจรึเปล่า ?

 

***จบตอน ตัวตลกของวงสังคมไฮโซ***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset