แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 45 นายน้อยเอาใจใส่ผู้หญิง

การสวมแหวนที่นิ้วนางมักหมายถึงการหมั้นหมายหรือแต่งงาน

 

เซี่ยฉิงกงก้มลงมองแหวนหัวมังกรในมือของเธอ ด้วยท่าทางเหมือนอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

 

“มู่เฉินฮ่าว คนเฮงซวย ทำแบบนี้กับฉันได้ไง ผู้หญิงธรรมดา ๆ ที่แต่งงานแล้ว พวกเธอก็ต้องสวมแหวนเพชร แต่ดูที่คุณสวมให้ฉันสิ !”

 

ยิ่งมองแหวนหัวมังกรดำเมี่ยมวงนี้ เซี่ยฉิงกงก็ยิ่งไม่ชอบใจ

 

มู่เฉินฮ่าวคิ้วสั่น การแสดงออกบนใบหน้าของเขากระตุกเล็กน้อย ราวกับว่าเขาต้องการที่จะหัวเราะ หากแต่เขาก็พยายามสะกดกลั้นไว้

 

“สิ่งนี้สามารถช่วยชีวิตคุณได้ในช่วงเวลาวิกฤติ คุณสวมมันไว้ก่อนเถอะ  สิ่งที่ผู้หญิงธรรมดามีได้ ผมไม่มอบให้คุณหรอก ผมจะมอบแต่ของที่ผู้หญิงธรรมดาไม่มีวันมี แบบนั้นแหละผมจึงจะมอบให้คุณ”

 

เซี่ยฉิงกงเม้มปากเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเลือดฝาดของเธอ พลางมองแหวนบนนิ้ว ในเมื่อมู่เฉินฮ่าวพูดเช่นนี้ เธอจะยังพูดอะไรได้อีก เธอจึงได้แต่พยักหน้า

 

“อืม ! อย่างไรก็ตาม ฉันเองก็กำลังจะแต่งงานเป็นครั้งแรก และแหวนวงนี้ก็เป็นของชิ้นแรกที่คุณมอบให้ คุณคงจะไม่ให้ของไม่ดีกับฉันหรอกน่า”

 

อีกากลุ่มหนึ่งบินผ่านศีรษะของ มู่เฉินฮ่าว

 

“เอาล่ะ นี่ก็สายแล้ว เมียจ๋า เราไปกันเถอะ ผมจะพาคุณไปชมการแสดงฉากใหญ่กัน” มู่เฉินฮ่าวยิ้มอย่างชั่วร้าย

 

การแสดงฉากใหญ่อะไรกัน เซี่ยฉิงกงได้แต่งงงวย หากแต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไร เพราะเธอรู้ว่าถามไปมู่เฉินฮ่าวก็ไม่บอก

 

เซี่ยฉิงกงลุกขึ้นจากเก้าอี้ และตอนนี้เธอก็เหยียบบนส้นสูงคริสตัล 10 ซม.

 

มันเดินยากไปหน่อยนะ

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มู่เฉินฮ่าวฝึกเธอบนทางด่วน ความสามารถของเซี่ยฉิงกงในการย่างก้าวบนรองเท้าส้นสูงนั้นก็ดีกว่าเมื่อก่อนมาก

 

ทั้งหมดนี้ต้องยกความดีความชอบให้มู่เฉินฮ่าว เมื่อหวนคิดถึงเรื่องนี้ เซี่ยฉิงกงก็กัดฟันเล็กน้อย เธออยากจะกัดมู่เฉินฮ่าวให้เต็มเขี้ยว

 

ทว่าแค่เพียงก้าวออกไปสองสามก้าว เซี่ยฉิงกงก็สะดุดชายกระโปรง

 

เธอไม่อาจทรงตัวอยู่ได้ และกำลังจะหน้าคว่ำจูบพื้น

 

โชคดีที่มู่เฉินฮ่าวประสาทสัมผัสไว เขารีบคว้าเอวของเซี่ยฉิงกง รั้งเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขนของเขาได้ทันท่วงที

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกได้ถึงแผงอกของชายหนุ่มที่แนบชิดติดกับเรือนร่างของเธอ พร้อมกันนั้นใบหน้าหล่อเหลาก็ขยายใหญ่ขึ้นในสายตา อุณหภูมิในกายที่แผดเผาออกมาจากฮอร์โมนเพศชายพลันหลั่งออกมารดทั่วร่างของเธอเริ่มทำให้เธอรู้สึกร้อนระอุ และนั่นก็ทำให้เซี่ยฉิงกงหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย …

 

นัยน์ตาของคนทั้งสองสบกัน เซี่ยฉิงกงเห็นร่องรอยของอารมณ์บางอย่างที่ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนจากนัยน์ตาของชายหนุ่ม

 

ทันทีที่เซี่ยฉิงกงดึงสติกลับมาได้ เธอก็พูดอย่างตะกุกตะกักว่า

 

“ขอบคุณ !”

 

หลังจากที่มู่เฉินฮ่าวประคองให้เซี่ยฉิงกงยืนได้อย่างมั่นคง เขาก็ปล่อยตัวเซี่ยฉิงกง จากนั้นก็ยกแขนขึ้นเป็นทีให้เซี่ยฉิงกงคล้องแขนของเขา

 

เซี่ยฉิงกงลังเลใจ เดิมทีเธออยากจะปฏิเสธ

 

หากแต่เมื่อพิจารณาแล้วว่า เธอสวมรองเท้าส้นสูงมากหากเดินเองคงจะลำบากมาก แต่ถ้าได้เดินกอดแขนมู่เฉินฮ่าว เธอก็จะสบายกว่านี้มาก

 

เวลานี้ แขนของมู่เฉินฮ่าวก็ยังคงยกค้างอยู่

 

มู่เฉินฮ่าวส่ายศีรษะพลางเลิกคิ้ว

 

“นี่ ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมถึงต้องมาเจอคู่หมั้นที่งี่เง่าอย่างคุณด้วยนะ ?”

 

ทันทีที่เซี่ยฉิงกงได้ยินประโยคนี้ หัวใจของเธอก็เต้นผิดจังหวะ หลังจากที่นิ่งเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีไปครู่หนึ่ง เธอก็คล้องแขนของมู่เฉินฮ่าวอย่างว่าง่าย พลางเดินไปที่รถ

 

หมั่นโถวและอาเจิ้งมองด้านหลังของคนทั้งสอง จากนั้นก็ก้าวตามไปโดยอดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบแก่กันว่า

 

“พูดก็พูดเถอะ นายหญิงน้อยกับนายน้อยช่างเหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยกจริง ๆ !”

 

“ใช่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นนายน้อยเอาใจใส่ผู้หญิงขนาดนี้”

 

หลังจากขึ้นรถแล้ว เซี่ยฉิงกงก็รู้สึกแปลก ๆ แม้ว่ารถคันนี้จะยังคงเป็น เอส 600  เหมือนเดิมก็ตามที

 

แต่คราวนี้ไม่ใช่ คนขับรถไม่ใช่อาเจิ้ง หากแต่เป็นคนขับที่เธอไม่คุ้นเคย อาเจิ้งและหมั่นโถวขึ้นรถอีกคันขับตามหลังพวกเขามา

 

***จบตอน นายน้อยเอาใจใส่ผู้หญิง***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset