แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 46 สายตาของผู้หญิงที่อยู่โดยรอบ

เซี่ยฉิงกงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

 

“หมั่นโถว และอาเจิ้งไปกับพวกเราด้วยงั้นหรือ ?”

 

มู่เฉินฮ่าวพยักหน้า

 

“อืม..หมั่นโถวมีหน้าที่ปกป้องความปลอดภัยให้คุณ ส่วนอาเจิ้งก็ต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของผม”

 

ครั้นได้ยินเช่นนี้เซี่ยฉิงกงก็ยิ้ม

 

“หมั่นโถว แขนขาเล็กกว่าฉันซะอีก เธอจะปกป้องฉันได้อย่างไร ? น่าที่จะเป็นฉันให้การปกป้องเธอซะมากกว่า”

 

มู่เฉินฮ่าวมองเซี่ยฉิงกงโดยไม่อธิบายอะไร หมั่นโถวได้รับการฝึกฝนในหน่วยรบพิเศษของกองทัพเป็นเวลา 7 ปี และเพิ่งได้ปลดประจำการด้วยผลประเมินอันยอดเยี่ยมสูงสุด

 

ศัตรูที่ประเมินหมั่นโถวต่ำ ทุกคนย่อมต้องเจอดีไปทุกราย

 

หากมีหมั่นโถวอยู่เคียงข้างเซี่ยฉิงกง มู่เฉินฮ่าวก็สามารถมั่นใจได้ว่าเซี่ยฉิงกงจะไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด

 

นอกจากนี้ ในคืนนี้ยังมีละครฉากใหญ่รอพวกเขาอยู่

 

ถือเสียว่าเป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเขาที่มอบให้เซี่ยฉิงกง

 

มู่เฉินฮ่าวดูเหมือนจะยุ่งมาก ๆ พอขึ้นรถเขาก็ยังไม่หยุดพักเขาเคาะนิ้วเรียวยาวของเขาบนโน้ตบุ๊ก โดยที่ไม่ได้พยายามปกปิด หรือหลีกเลี่ยงไม่ให้เซี่ยฉิงกงเห็นหน้าจอโน้ตบุ๊ค เซี่ยฉิงกงเองก็เหลือบมองเนื้อหาในโน้ตบุ๊ค ทั้งหมดเป็นเรื่องการเงิน และหุ้นซึ่งเธอไม่อาจเข้าใจได้เลย

 

งานเลี้ยงวันเกิดของเซี่ยเจิ้งหัวครั้งนี้ จัดขึ้นในโรงแรมระดับห้าดาวในตัวเมือง

 

ในวันที่สอง หลังจากที่เซี่ยฉิงกงเข้าไปอยู่ในบ้านสกุลมู่พร้อมกับมู่เฉินฮ่าว เงินจำนวนมหาศาลจากบ้านตระกูลมู่ก็โอนเข้าบัญชีของบ้านสกุลเซี่ยแล้ว เพื่อบรรเทาวิกฤติทางธุรกิจของตระกูลเซี่ย และตอนนี้ตระกูลเซี่ยก็ฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ

 

ดังนั้นงานเลี้ยงวันเกิดของเจ้าบ้านสกุลเซี่ยในปีนี้ จึงได้เชิญผู้มีอิทธิพลทางอุตสาหกรรมของนครเซี่ยงไฮ้มาเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงหัวหน้า และผู้นำจากทุกสาขาอาชีพที่ได้รับเชิญกันทั้งครอบครัว นอกจากนี้เหล่าเจ้าหน้าที่รัฐที่สำคัญของนครเซี่ยงไฮ้บางคนก็ได้รับเชิญเข้าร่วมงานด้วย

 

ตระกูลเซี่ยหมายมาดว่าจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดนี้ เพื่อส่งเสริมให้ตระกูลเซี่ยพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่สวยงามต่อไป

 

รถแล่นไปอย่างราบรื่นเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ก่อนจะมาถึงโรงแรมห้าดาว

 

“นายน้อย นายหญิงน้อย ถึงแล้วขอรับ”

 

คนขับรถหันกลับมากล่าวด้วยทีท่านอบน้อม

 

มู่เฉินฮ่าวส่งเสียงรับ พลางยับยั้งคนขับไม่ให้เปิดประตูให้เซี่ยฉิงกง

 

“ฉันจัดการเอง”

 

ทันทีที่ผลักประตู ก้าวลงจากรถ มู่เฉินฮ่าวก็ดึงดูดความสนใจของทุกผู้คนรอบตัวเขาได้ในทันที เวลานี้ผู้คนต่างก็ทยอยกันมา พวกเขาพากันเดินตรงไปที่ประตูโรงแรมระดับห้าดาวแห่งนี้ ครอบครัวและเจ้าหน้าที่รัฐที่มีชื่อเสียงหลายคนในนครเซี่ยงไฮ้ต่างก็มารวมตัวกันที่นี่

 

แม้ว่าจะไม่ใช่เพื่อตระกูลเซี่ย หากก็เพื่อเห็นแก่หน้าตระกูลมู่

 

ใครบ้างจะไม่รู้ว่าลูกชายคนโตของตระกูลมู่ และคุณหนูใหญ่ของตระกูลเซี่ยมีสัญญาจะแต่งงานกัน

 

หลายคนยังซุบซิบกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเซี่ยหายตัวไปตั้งแต่ยังเด็ก และเพิ่งถูกพบตัวในครอบครัวของ ‘ชาวบ้าน’ ธรรมดา ๆ

 

ในอดีต มู่เฉินฮ่าว คือผู้มีอำนาจที่แท้จริงของตระกูลมู่ และไม่เคยเห็นเขามีผู้หญิงคนไหนอยู่ข้างกายเลย นั่นก็เห็นได้ว่ามาตรฐานของเขาเกี่ยวกับผู้หญิงนั้นสูงส่งเพียงใด …

 

มีผู้หญิงกี่คนที่พยายามปีนขึ้นเตียงเขา หากแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ …

 

ไม่ต้องพูดถึง ‘สาวชาวบ้าน’ แบบลูกสาวคนโตของตระกูลเซี่ยที่ถูกพาตัวกลับมา

 

หลายคนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นมู่เฉินฮ่าวที่นี่ หากแต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเข้ามาสนทนาด้วย

 

หลังก้าวลงจากรถ มู่เฉินฮ่าวก็เดินไปที่อีกด้านหนึ่งของรถเขาเปิดประตูพลางยื่นมือออกรับ ทั้งนัยน์ตา ทั้งคำพูดของเขาแลดูอ่อนโยนเป็นที่สุด

 

“ฉิงกง ลงมาเถอะ”

 

เซี่ยฉิงกงรู้ทันทีว่าเขากำลังเล่นละคร และเธอก็รู้สึกได้ถึงแววตาอันน่ากลัวของเหล่าคนดัง และลูกสาวของบรรดาเศรษฐีที่รายล้อมอยู่รอบตัวเธอ

 

“ระวังอย่าล้มอีกล่ะ”

 

น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวยังคงอ่อนโยน เขาช่วยประคับประคองเซี่ยฉิงกงออกจากรถอย่างทะนุถนอม ราวกับว่าเขากำลังดูแลสมบัติล้ำค่า

 

จากนั้นเขาก็เหยียดแขนที่มั่นคงออกให้เธอคล้อง

 

“นี่..มู่เฉินฮ่าว คุณกลัวว่าฉันจะไม่ตายไวหรือไงหา..? ดูสายตาของพวกสาว ๆ รอบ ๆ ตัวคุณสิ พวกเธอแทบจะรอขย้ำฉันไม่ไหวแล้ว”

 

เซี่ยฉิงกงกอดแขนของมู่เฉินฮ่าว พลางกระซิบข้างหูของเขา

 

การแสดงความรักของมู่เฉินฮ่าวผลักเธอไปสู่จุดสูงสุดของพายุลูกโตทันที

 

***จบตอน สายตาของผู้หญิงที่อยู่โดยรอบ***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset