แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 54 ขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ

มู่เฉินฮ่าวเข้าใจเธอดี

 

เขาโบกมือให้อาเจิ้ง

 

อาเจิ้งโทรศัพท์ให้ปิดหน้าจอ LED ในห้องรับรองของโรงแรม

 

“อืม” เซี่ยฉิงกงพยักหน้าอย่างแรง

 

“ไปกันเถอะ ลงไปข้างล่างกัน”

มู่เฉินฮ่าวจับมือเล็ก ๆ ของเซี่ยฉิงกงพาเดินออกจากห้อง

 

ทันทีที่พวกเขาลงไปถึงชั้นล่าง ประตูลิฟต์ก็เปิดออก เจินเมี่ยวหยู และเซี่ยเจิ้งหัวพลันปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา นอกจากนี้ยังมีผู้คนจำนวนมากอยู่เบื้องหลังพวกเขาเฝ้าติดตามรอดูด้วยความตื่นเต้น มู่เฉินฮ่าวจงใจให้พวกเขารู้ว่าในขณะนี้เซี่ยชิงฉวน อยู่ในห้อง 1702 บนชั้น 17

 

ดวงตาของเจินเมี่ยวหยูทั้งคู่เปลี่ยนเป็นสีแดง หน้ากากแห่งความเมตตากรุณาที่มักจะฉาบบนใบหน้าของเธอมลายหายไปนานแล้ว

 

เธอกล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง

 

“แกช่างร้ายกาจนัก แกทำแบบนี้กับชิงฉวนได้ยังไง.. หา !”

 

ทว่าเซี่ยฉิงกงยังคงยิ้มพลางคิดในใจว่า แผนการของเจินเมี่ยวหยูครั้งนี้อาจเรียกได้ว่า ‘ขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ’ (ฉวยโอกาสไม่สำเร็จยังขาดทุนอีกต่างหาก) เมื่อคิดได้เช่นนั้น ความโมโหในใจของเธอก็จางหายไป

 

หมั่นโถวพูดถูก การมีน้ำใจต่อศัตรูถือเป็นการทำร้ายตัวเราเอง

 

“คุณป้า ฉันทำอะไรชิงฉวนงั้นหรือ ?”

 

เซี่ยฉิงกงเหลือบมองผู้คนที่อยู่รายล้อมรอบตัวเธอพลางหาว

 

เจินเมี่ยวหยูอยากจะพูดต่อ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร

 

เธอจะพูดออกมาได้อย่างไรว่า เรื่องต่ำทรามในครั้งนี้ควรจะเป็นเซี่ยฉิงกงที่นอนอยู่ที่นั่น และถูกปู้ยี่ปู้ยำ ?

 

และทั้งหมดเป็นแผนการของแม่เลี้ยงคนนี้นี่เอง …

 

เธอยังไม่สามารถแบกรับอาชญากรรมในครั้งนี้ได้ นอกจากนี้มันจะทำลายภาพพจน์ของเธอในฐานะภรรยาที่แสนดีในดวงใจของเซี่ยเจิ้งหัว

 

“คุณลุงเซี่ย นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ฉิงกงดื่มไวน์แล้วรู้สึกวิงเวียนและง่วงนอน ดังนั้นผมจึงพาเธอขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องชั้นบน”

 

มู่เฉินฮ่าวเอ่ยถามพร้อมกับอ้าปากเล็กน้อยอย่างพิศวง เขายกแขนขึ้นโอบไหล่เซี่ยฉิงกง

 

เรื่องเสื่อมเสียของครอบครัวไม่สามารถเผยแพร่สู่สาธารณะได้ เซี่ยเจิ้งหัวจึงไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ? อย่างไรเสีย ผู้คนต่างก็ต้องการรักษาหน้า และภาพพจน์ของตนไว้ให้ดีที่สุด เซี่ยเจิ้งหัวก็แค่คนแก่ ๆ หัวโบราณคนหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงคิดว่า ในเมื่อนายน้อยมู่ไม่รู้ ก็แค่เก็บไว้เป็นความลับต่อไปจะดีกว่า

 

“ไม่มีอะไรหรอก นายน้อยมู่ช่วยพาฉิงกงกลับไปก่อนเถอะ มีบางอย่างที่ผมต้องจัดการหน่อย”

 

สีหน้าของเซี่ยเจิ้งหัวไม่ค่อยดีนัก เขาโบกมือสั่นเทาไปมา

 

งานเลี้ยงวันเกิดที่กำลังไปได้สวยกลับกลายเป็นละครตลกให้ผู้คนขบขัน

 

“อย่างนั้น เรากลับกันก่อนเถอะค่ะ ฉันยังรู้สึกปวดหัวนิด ๆ อยู่เลย”

 

เซี่ยฉิงกงพูดพร้อมกับกะพริบตาใสแจ๋วราวน้ำในทะเลสาบ

 

ณ บริเวณทางเข้าโรงแรม อาเจิ้งได้สตาร์ทรถ s600 ไว้แล้ว รอเพียงเซี่ยฉิงกงและมู่เฉินฮ่าวก้าวขึ้นรถ เมื่อทั้งสองขึ้นมานั่งด้านหลัง หมั่นโถวก็ก้าวเข้ามานั่งเบาะหน้าคู่กับคนขับ

 

รถเริ่มออกตัวอย่างช้า ๆ และแล่นไปในทิศทางของบ้านสกุลมู่

 

ระหว่างทางเซี่ยฉิงกงไม่ได้พูดอะไรมาก เธอได้แต่มองทิวทัศน์นอกหน้าต่างไปเรื่อย ๆ

 

“อะไรกัน นี่คุณยังนั่งเห็นใจน้องสาวของคุณอยู่อีกงั้นหรือ ?”

 

หลังจากนั้นเป็นเวลานาน น้ำเสียงที่อ่อนหวานนุ่มนวลของมู่เฉินฮ่าวก็แทรกเข้ามาในหูของเซี่ยฉิงกง

 

เซี่ยฉิงกงหันหน้าไปทางมู่เฉินฮ่าว เธอเหลือบมองตาเขาพลางส่ายหน้าพร้อมกับพูดว่า

 

“ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น ฉันรู้ว่าเธอสมควรได้รับสิ่งนั้น แต่ฉันไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ในงานวันเกิดคุณพ่อของเรา”

 

“การกลับมาของคุณย่อมเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขาย่อมจะต้องพยายามกำจัดคุณ นั่นคือสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในตระกูลใหญ่ และซับซ้อนแบบนี้”

 

“แต่หากไม่มีฉัน เซี่ยชิงฉวนลูกสาวแท้ ๆ ของเธอก็อาจจะได้แต่งงานกับคุณ”

 

เมื่อหวนนึกถึงเรื่องนี้ ในใจของเซี่ยฉิงกงก็ยังคงรู้สึกขมขื่น หากมิใช่เป็นเพราะเธอเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของน่าหลานเซวี่ย ซึ่งต้องแต่งงานตามสัญญาแต่งงานครั้งนี้ ตระกูลเซี่ยก็คงจะไม่ตามตัวเธอกลับมา

 

มือของชายหนุ่มโอบเอวเธออีกครั้ง เซี่ยฉิงกงหันหน้าไปมองตาเขา พลางขมวดคิ้ว

 

สายตาที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้คู่นั้นดูเหมือนว่าจะมีอารมณ์ที่แตกต่างจากปกติ ราวกับว่าเขาสามารถรับรู้ทุกสิ่งในใจเธอได้ เขาเลิกคิ้ว

 

“ต่อให้ไม่มีคุณ เซี่ยชิงฉวนก็จะไม่มีวันได้แต่งงานกับผม”

 

***จบตอน ขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset