แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 56 ความอบอุ่น

“วันนี้ฉันอารมณ์ดี ฉันยอมทำตามคำขอนี้ของคุณก็ได้”

 

เซี่ยฉิงกงเงยใบหน้าเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ของเธอขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

 

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถก็ขับเข้าไปในลานบ้านสกุลมู่อย่างช้า ๆ

 

ภายในห้องครัวของบ้านสกุลมู่มีวัตถุดิบทุกอย่างเพียบพร้อม

 

หลังจากที่เซี่ยฉิงกงลงจากรถ เธอก็เปลี่ยนชุดที่แสนหรูหรามาสวมกระโปรงผ้าไหมที่ใส่สบาย จากนั้นก็พันผ้ากันเปื้อนแล้วเริ่มทำสปาเก็ตตี้

 

ที่เธอรีบทำไม่ได้เป็นเพราะมู่เฉินฮ่าว

 

หากแต่เป็นเพราะ ! เธอเองก็หิวเหมือนกัน !

 

เส้นสปาเก็ตตี้เป็นอาหารเหมาะสำหรับคนขี้เกียจจึงไม่ยุ่งยากในการปรุง

 

มู่เฉินฮ่าวก็อยู่ในครัวอย่างสนอกสนใจ นัยน์ตาสีเข้มและแวววาวของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ขณะเฝ้าดูการปรุงอาหารของเซี่ยฉิงกง

 

จู่ ๆ เขาก็ค้นพบว่าการดูผู้หญิงตรงหน้าทำอาหารก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจเช่นกัน

 

เธอก้มหน้าก้มตา ปรุงสปาเก็ตตี้ให้สวยงามน่ารับประทาน

 

หลังจากเติมน้ำร้อนเล็กน้อยลงในหม้อ เซี่ยฉิงกงก็ใส่เกลือเล็กน้อย ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ และเริ่มต้ม หลังจากต้มเส้นแล้ว เธอก็นำน้ำมันมะกอกมาคลุกเล็กน้อยคนให้เข้ากันเบา ๆ จากนั้นก็หันไปสับกระเทียม หัวหอม และหั่นมะเขือเทศ

 

เธอเติมน้ำมันลงกระทะ ตามด้วยกระเทียม และหัวหอมผัดให้เข้ากันเบา ๆ จากนั้นจึงใส่เนื้อสับลงไปเพื่อให้รสชาติของมะเขือเทศเข้มข้นขึ้น

 

ห้องครัวกรุ่นไปด้วยกลิ่นหอม และเพราะกลิ่นหอมของเนื้อสับผัด มู่เฉินฮ่าวก็เริ่มรู้สึกว่าท้องร้อง

 

มู่เฉินฮ่าวรู้สึกขอบคุณมากที่เซี่ยฉิงกงไม่ได้ยินเสียงนี้ มิฉะนั้นเขาคงไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปวางไว้ที่ไหน

 

หลังจากรอเพียงครู่ เซี่ยฉิงกงก็ใส่ซอสมะเขือเทศ ตามด้วยเกลือ และน้ำตาลลงไป ผัดให้เข้ากัน

 

หลังจากผัดเสร็จแล้วก็นำมาใส่ในหม้อพักไว้

 

เธอหันไปจัดจานโดยวางสปาเก็ตตี้หอม ๆ จากนั้นก็ราดซอสมะเขือเทศด้านบนให้สวยงาม

 

ในขณะที่เซี่ยฉิงกงกำลังจะจัดวางจานนั้น เธอพลันรู้สึกว่ามีคนโอบกอดเธอจากด้านหลัง

 

สิ่งที่เซี่ยฉิงกงเห็นเมื่อหันหน้ากลับไปมอง ก็คือใบหน้าหล่อเหลาที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

 

มู่เฉินฮ่าวใช้นิ้วเรียว ค่อย ๆ รั้งศีรษะของเซี่ยฉิงกงเบา ๆ

 

“ปล่อยฉัน คุณไม่อยากกินสปาเก็ตตี้เหรอ ? คุณจะทำอะไรน่ะ !”

 

เซี่ยฉิงกง รู้สึกถึงลมหายใจที่อันตรายอวลในอากาศ

 

จู่ ๆ มู่เฉินฮ่าวก็ผลักเซี่ยฉิงกงไปชิดติดกำแพง พลันมือใหญ่ก็โอบเอวเธอเบา ๆ พร้อมกับกดร่างของเธอลง

 

มืออีกข้างประคองใบหน้าของเธออย่างนุ่มนวล

 

มู่เฉินฮ่าวขยับเข้าใกล้เซี่ยฉิงกงอย่างช้า ๆ แววตาของเขาชัดเจน อีกทั้งอ่อนโยน หากแต่ก็เป็นประกายวาววับ

 

“ปล่อยฉัน เชื่อมั้ย ฉันจะเสียบคุณด้วยตะเกียบนี่ …”

 

เซี่ยฉิงกงโบกตะเกียบที่เธอกำลังใช้เสิร์ฟเมื่อครู่

 

ก่อนที่เธอจะทันพูดจบ ริมฝีปากของเธอก็ถูกปิดกั้น การเคลื่อนไหวของมู่เฉินฮ่าวอ่อนโยนมาก ราวกับว่าเขากำลังทะนุถนอมสมบัติที่หายากยิ่ง

 

ชั่วขณะนั้น เซี่ยฉิงกงพลันรู้สึกสมองว่างเปล่า มือของเธอไม่สามารถใช้การอะไรได้ ตะเกียบพลัดตกลงบนพื้น

 

ภายในห้องเงียบสงบ ดูเหมือนว่าโลกทั้งใบจะเหลือเพียงกันและกัน

 

นัยน์ตาของเธอมืดลง ชายหนุ่มสอดมือใหญ่รองรับศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเรือนผมยาวสลวย เพื่อป้องกันไม่ให้ศีรษะของเธอปะทะเข้ากับผนังเย็น ๆ

 

สิ่งที่เขาทำก็เพียงแค่จูบอย่างอ้อยอิ่ง ซึ่งนั่นทำให้เขาชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับความรู้สึกในหัวใจตน

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกอึดอัดมาก หากแต่ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาโต้กลับใด ๆ

 

“มู่เฉินฮ่าว ! คนบ้า อย่าทำอะไรฉันนะ ! ไม่งั้นฉันจะกรี๊ดแล้วนะ”

 

***จบตอน ความอบอุ่น***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset