แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 70 ให้ปลอบก็ต้องปลอบรึไง ?

หลังจากที่มู่เฉินฮ่าวเดินผ่านประตูเข้ามา เขาก็เห็นแต่ไกลว่าฉีเหยียนเอ๋อยืนอยู่ในสวน

 

ฉีเหยียนเอ๋อจับจ้องมองประตูตลอดเวลา เธอเฝ้ารอให้มู่เฉินฮ่าวกลับมา

 

ครั้นเห็นมู่เฉินฮ่าวกลับมา เธอก็โบกไม้โบกมือ พลางร้องตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นว่า

 

“พี่เฉินฮ่าว ฉันอยู่ที่นี่”

 

สวนของคฤหาสน์หลังนี้อยู่สุดทางเดินที่ปูด้วยหินกรวดลาดยาวกว่าหนึ่งร้อยเมตรจากทางด้านซ้ายของประตูทางเข้า ดังนั้นมู่เฉินฮ่าวจึงสามาถเดินตรงไปตามถนนสายหลักเข้าไปในบ้านโดยไม่ต้องผ่านทางเส้นนั้น และเขาก็ไม่สนใจฉีเหยียนเอ๋อเลยแม้แต่น้อย

 

ครั้นเห็นมู่เฉินฮ่าวเดินไปข้างหน้าโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองมา ฉีเหยียนเอ๋อก็รู้สึกเป็นกังวล เธอรีบวิ่งไล่ตามเขาไป

 

น่าเสียดายที่เธอสวมรองเท้าส้นสูง กานวิ่งบนทางเดินภายในคฤหาสน์ที่ปูด้วยหินกรวดจึงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะสะดุด และเกือบล้มหลายหน

 

หลังจากที่เดินตามก้นมู่เฉินฮ่าวเข้าไปในบ้าน ที่สุดเธอก็สะดุดล้มลงกับพื้น

 

อาเจิ้งเห็นเข้าพอดี จึงพยายามเข้าไปช่วยเธอ ทว่าฉีเหยียนเอ๋อกลับผลักเขาออก

 

ฉีเหยียนเอ๋อมองมู่เฉินฮ่าวน้ำตาคลอ

 

“พี่เฉินฮ่าว ฉันเจ็บ พี่ช่วยพยุงฉันหน่อยได้มั้ย ?”

 

“ผมเจ็บแขน ยังไม่สามารถยกอะไรได้ อาเจิ้งช่วยคุณหนูฉีหน่อย”

 

เสียงทุ้มไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ แต่กลับดึงดูดใจฉีเหยียนเอ๋อเป็นอย่างมาก

 

ฉีเหยียนเอ๋อไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยอมให้อาเจิ้งช่วยเธอ

 

แม้ว่าฉีเหยียนเอ๋อจะล้ม หากแต่เธอก็ยังประคับประคองกระติกในมือของเธอเป็นอย่างดี ในกระติกคือน้ำซุปที่ช่วยบำรุงเลือดให้มู่เฉินฮ่าว อย่างไรเสียก็ยอมให้หกไม่ได้

 

ภายในห้อง เซี่ยฉิงกงกำลังตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับมารดาผู้ให้กำเนิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน

 

“นายหญิงน้อย นายน้อยกลับมาแล้วค่ะ”

 

เซี่ยฉิงกงพยักหน้า เธอวางข้อมูลของมารดาผู้ให้กำเนิดลง พลางขยี้ตา

 

“อืม งั้นก็เอาซุปอุ่น ๆ ไปเสริ์ฟให้นายน้อยของเธอสิ”

 

หมั่นโถวไปอุ่นซุป จากนั้นก็เดินตามเซี่ยฉิงกงไปที่ห้องนั่งเล่น

 

ทันทีที่เซี่ยฉิงกงก้าวเข้าไปในห้องนั่งเล่น เธอก็ได้ยินเสียงฉีเหยียนเอ๋อที่จงใจเสแสร้งทำน้ำเสียงอ่อนโยน

 

“พี่เฉินฮ่าว ฉันทำซุปบำรุงโลหิตมาให้พี่ พี่ควรรีบดื่มนะ ฉันใช้เวลาเคี่ยวตั้งเจ็ด-แปดชั่วโมงแน่ะ”

 

บ้าจริง คาดไม่ถึงว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลฉีคนนี้จะทำน้ำซุปมาด้วย ? เซี่ยฉิงกงรู้สึกเซ็ง

 

หมั่นโถวเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับซุป และเมื่อเธอเห็นมู่เฉินฮ่าว เธอก็นำซุปไปวางหน้ามู่เฉินฮ่าว

 

“นายน้อย คุณกลับมาแล้ว นี่คือน้ำซุปบำรุงโลหิตฝีมือนายหญิงน้อยค่ะ”

 

มู่เฉินฮ่าวย่นคิ้ว เขาเหลือบไปมองเซี่ยฉิงกง พลันริมฝีปากของเขาก็ยกยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ไม่มีใครเข้าใจ

 

ผู้หญิงคนนี้กำลังพยายามเอาใจเขาแข่งกับฉีเหยียนเอ๋องั้นหรือ ? อืม…น่าสนใจดี

 

หัวใจของฉีเหยียนเอ๋อยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้หญิงคนนี้ตั้งใจจะคัดง้างกับเธอในทุก ๆ เรื่องเลยใช่มั้ย ? เธอนำซุปมาให้มู่เฉินฮ่าว ก็เอาซุปมาแข่งด้วยงั้นรึ ?

 

“โอ้ ? ซุปอะไรน่ะ ?”

 

มู่เฉินฮ่าวถามเซี่ยฉิงกงพร้อมชายตามอง

 

“ซุปแอปเปิ้ลพุทรา และวอลนัท”

 

เซี่ยฉิงกงตอบตามความเป็นจริง

 

“เซี่ยฉิงกง ซุปอะไรของเธอกัน แอปเปิ้ล พุทรา วอลนัท ? ของพวกนี้พี่เฉินฮ่าวจะกินลงได้ไง ?”

 

เซี่ยฉิงกงเหลือบมองฉีเหยียนเอ๋อ

 

“เขาจะกินหรือไม่ แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณ ?”

 

“เธอ! เธอหยาบคายมาก ! เธอมันก็แค่หญิงสาวที่ถูกฉุดขึ้นมาจากครอบครัวสามัญชน เธอมันพวกไร้การศึกษา”

 

“ฉันไร้การศึกษาหรือไม่ แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณ ?”

 

“พี่เฉินฮ่าว !”

 

ครั้นเห็นว่าเถียงสู้เซี่ยฉิงกงไม่ได้ ฉีเหยียนเอ๋อก็หันไปขอความช่วยเหลือจากมู่เฉินฮ่าวทันที นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยหยาดใสที่กำลังจะร่วงหล่น ยามนี้นัยน์ตาของเธอพร่าเลือน

 

มู่เฉินฮ่าวยังคงนั่งสงบนิ่งบนที่นั่งของตน

 

เซี่ยฉิงกงเหลือบไปมองฉีเหยียนเอ๋อที่โกรธจนน้ำตาแทบร่วง เธอสะกิดมู่เฉินฮ่าว

 

“เทพธิดาของคุณ ดูเหมือนใกล้จะทำนบแตกแล้วนะ คุณไม่คิดจะปลอบเธอหน่อยหรือ ?”

 

“คุณให้ผมปลอบ ผมก็ต้องปลอบงั้นรึ ? เสียหน้าตายเลย ?”

 

มู่เฉินฮ่าวเลิกคิ้วขณะพูด

 

***จบตอน ให้ปลอบก็ต้องปลอบรึไง ?***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset