แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 72 ช่วย…ดับร้อนให้ผมหน่อยได้มั้ย ?

ครั้นหมั่นโถวได้รับคำสั่ง เธอก็แย้มยิ้มด้วยความดีใจ

 

เธอเดินกลับไปหาฉีเหยียนเอ๋ออีกครั้งพร้อมกับยิ้ม

 

“คุณหนูฉี อย่าโกรธกันเลยนะ”

 

“นั่นแกคิดจะทำอะไร ?”

 

จู่ ๆ ฉีเหยียนเอ๋อ ก็รู้สึกถึงลางร้าย

 

ฉากต่อไป ทำให้เซี่ยฉิงกงถึงกับตกตะลึง เธออ้าปากเล็ก ๆ ค้างกว้างจนแทบจะยัดไข่ต้มเข้าไปได้ทั้งใบ

 

หมั่นโถวก้มลงแบกฉีเหยียนเอ๋อขึ้นบนไหล่ของเธอ จากนั้นก็เดินเทิ่ง ๆ ออกไปจากห้อง

 

ฉีเหยียนเอ๋อนอนคว่ำอยู่บนไหล่ของหมั่นโถว เธอพยายามดิ้นรนขัดขืนตลอดเวลา หากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะหมั่นโถวรับมือได้ทุกท่า

 

ฉีเหยียนเอ๋อสะบัดแขนขาไปมา กระทั่งรองเท้าส้นสูงลอยกระเด็น

 

“แกปล่อยฉันลงนะ … ปล่อยนะ … ปล่อยฉันลง …”

 

เสียงของฉีเหยียนเอ๋อ ดังห่างออกไปเรื่อย ๆ

 

หมั่นโถวพาเธอไปที่ประตูหน้า จากนั้นก็ส่งกุญแจรถให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่ง

 

“ส่งคุณหนูฉีกลับบ้าน ส่งไปที่บ้านสุกลฉีนะ ไม่ใช่บ้านสกุลมู่”

 

ภายในห้องนั่งเล่น…

 

มู่เฉินฮ่าวยังคงก้มหน้าก้มตาดื่มซุปที่เซี่ยฉิงกงต้มให้เขาทีละคำ ๆ เขาดื่มมันจนหมด นอกจากนี้ก็ยังกินวอลนัท แอปเปิ้ลและพุทราจีนในนั้นด้วย

 

“อร่อยมากมั้ย ?”

 

เซี่ยฉิงกงถามพร้อมกับริมฝีปากที่ยกโค้ง

 

เท่าที่เธอจำได้ รสชาติของน้ำซุปนั้นหวานจาง ๆ จากส่วนผสมทั้งสาม

 

“อืม คุณช่วยต้มให้ผมกินทุกวันจนกว่าแผลของผมจะหายได้มั้ย ?”

 

“คุณนี่คนเห็นคนสวย ๆ อย่างฉันเป็นหม้อหุงข้าวงั้นเหรอ”

 

เซี่ยฉิงกงพูดอย่างโกรธ ๆ

 

มู่เฉินฮ่าวหยิบทิชชู่เช็ดปากอย่างสง่างาม จากนั้นก็ดึงเซี่ยฉิงกงเข้าไปในห้อง

 

“มาเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ผมหน่อย”

 

ครั้นเซี่ยฉิงกงเข้าไปในห้อง มู่เฉินฮ่าวก็ถอดเสื้อสูทออก จากนั้นก็คลายเน็คไท

 

ในเมื่อเธอตกลงใจที่จะแต่งงานกับมู่เฉินฮ่าวแล้ว แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตามที เซี่ยฉิงกงก็ควรต้องทำหน้าที่ดูแลเขาในฐานะภรรยา

 

รวมถึงการเปลี่ยนผ้าพันแผลของมู่เฉินฮ่าวด้วย

 

ทว่าหลังจากที่เห็นมู่เฉินฮ่าวคลายเน็คไท และถอดเสื้อต่อหน้าต่อตา ใบหน้าเล็ก ๆ ที่น่ารักของเซี่ยฉิงกงก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ

 

หากจะพูดถึงรูปร่างของมู่เฉินฮ่าวแล้ว เรียกได้ว่ารูปร่างของเขาดูดีมาก ผิวอมชมพูอย่างคนสุขภาพดี มู่เฉินฮ่าวมีไหล่ที่กำยำ และกว้างชนิดที่ทำให้ผู้หญิงเห็นแล้วหน้าแดง หัวใจเต้นระส่ำ

 

อธิบายเป็นประโยคเดียวคือประเภท ‘หล่อซ่อนรูป’

 

หลังจากรับประทานยาที่หมอซูเตรียมไว้ให้แล้ว เซี่ยฉิงกงก็หย่อนกายลงนั่งข้าง ๆ มู่เฉินฮ่าว ทำตัวราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“ใบหน้าของคุณแดงจัง คุณอายงั้นหรือ ?”

 

มู่เฉินฮ่าวเอ่ยปากอย่างสบาย ๆ

 

เซี่ยฉิงกงเหลือบมองมู่เฉินฮ่าว เธอยกมือขึ้นแตะแก้มตนเองโดยไม่รู้ตัว จึงพบว่ามันร้อนมาก

 

เธอเลยแกล้งพูดติดตลกว่า

 

“คุณกำลังพูดเรื่องอะไร ? หน้าฉันมีเลือดฝาด คุณไม่รู้จักเลือดฝาดเหรอ ?”

 

“โอ้ ! เลือดฝาด ว่าแต่ทำไมหูถึงต้องแดงด้วยล่ะ ?”

 

มู่เฉินฮ่าวแตะใบหูของเซี่ยฉิงกง

 

“อืม ร้อนมากด้วยสิ”

 

“เป็นเพราะ…”

 

ชั่วขณะนั้นเซี่ยฉิงกงพลันนึกขึ้นได้ว่า เธอพูดบางอย่างผิดไป … เพราะต่อให้เป็นเลือดฝาด เพราะหลอดเลือดไปคั่งที่หู …

 

แต่ทำไมเลือดถึงไหลไปคั่งที่ใบหูเป็นจำนวนมาก …

 

นั่นก็เป็นเพราะเซี่ยฉิงกง … เขิน …

 

แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้เห็นเนื้อหนังมังสาของชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ทว่าเซี่ยฉิงกงก็ยังคงหน้าแดง และใจเต้นอย่างช่วยไม่ได้

 

เธอไม่กล้าสบตามู่เฉินฮ่าว จึงเสก้มหน้าลงมองยา

 

ชั่วขณะนั้นมู่เฉินฮ่าวก็คว้ามือเล็ก ๆ ของเซี่ยฉิงกงที่กำลังเตรียมยา เขาใช้มืออีกข้างรวบเอวคอดของเธอ จากนั้นก็รั้งเข้าสู่อ้อมกอดของตนอย่างช้า ๆ

 

“ช่วย…ดับร้อนให้ผมหน่อยได้มั้ย”

 

***จบตอน ช่วย…ดับร้อนให้ผมหน่อยได้มั้ย ?***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset