หลังจากเว่ยต้าฉีจากไปแล้ว เสิ่นหรงเจียก็ต้องการลงไปพบนายหญิงน้อยสกุลมู่
แต่พอคิดอีกที เธอก็คิดว่าจะลดตัวลงไปทำไม ก็แค่ผู้หญิงราคาถูกคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ ?
ปล่อยให้รอจนแห้งตายไปเองเถอะ
เมื่อนึกได้เช่นนั้น เสิ่นหรงเจียก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ยกนิ้วขึ้นจิ้มแป้นโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว
“ฉีเหยียนเอ๋อ เดาสิว่าใครมาที่สำนักงานของฉัน”
“ใครล่ะ ?”
“คู่หมั้นของสุดที่รักเธอไง !”
“นังบ้านั่นไปหาเธอทำไม ?”
“ดูเหมือนว่าจะมาที่นี่ เพื่อขอข้อมูลบางอย่าง ฉันจะจัดการแม่นั่นให้เธอเอง !”
“เธอนี่ช่างเป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ ขอบคุณล่วงหน้าเลย ฉันยังไม่ได้บอกเธอใช่ไหมว่า ? พี่เฉินฮ่าวส่งคนมารับฉัน”
บริเวณชั้นล่างเซี่ยฉิงกงมองขึ้นไปบนอาคารสำนักงานชั้นบน ไม่มีเสียงใด ๆ จากทางเดินที่สว่างไสวนั่นเลย
คนที่อยู่ชั้นบนคงไม่คิดที่จะลงมาแน่ ๆ ใช่มั้ย ?
“นายหญิงน้อย ฉันเดาว่า เสิ่นหรงเจียคงแกล้งสร้างปัญหาให้คุณยุ่งยากแล้วล่ะ ฉันเคยมาที่นี่กับนายน้อยเพื่อขอข้อมูล และฉันจะบอกให้รู้ว่า มันไม่ได้ลำบากขนาดนี้เลย”
หมั่นโถวมองขึ้นไปชั้นบน ขณะพูดกับเซี่ยฉิงกง
“ถ้าอย่างนั้น ก็คงยากแล้วล่ะ”
เซี่ยฉิงกงพยักหน้าพลางครุ่นคิด เธอพยายามใช้เซลล์สมองของเธอคำนวณวิธีการอย่างรวดเร็วว่าควรทำอย่างไรจึงจะได้รับข้อมูลนี้อย่างราบรื่น ?
เธอไม่อยากไปขอร้องมู่เฉินฮ่าว !
หมั่นโถวมองเซี่ยฉิงกงอย่างครุ่นคิด ด้วยความรักที่เธอมีต่อเซี่ยฉิงกง ประกายเจ้าเล่ห์พลันฉายชัดในดวงตากลมโตของหมั่นโถว
เธอกระซิบข้างหูของเซี่ยฉิงกง
“นายหญิงน้อย ไม่ต้องห่วง ฉันอยู่ที่นี่ เสิ่นหรงเจีย ไม่สามารถสร้างปัญหาให้คุณลำบากใจได้ ในเมื่อวันนี้ฉันเป็นคนพาคุณมาที่นี่ ฉันย่อมแน่ใจว่าเราจะต้องได้ข้อมูลนั้นมาแน่ คุณวางใจได้”
“ว่ามาสิ ?”
“ฉันมาจากกองทัพ หากฉันคำนวณตามยศทหาร ปกติยศทหารของฉันจะสูงกว่ายศตำรวจของเสิ่นหรงเจียสองระดับ”
ครั้นเซี่ยฉิงกงได้ยินเช่นนั้น เธอก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ นัยน์ตาที่ชุ่มฉ่ำทั้งคู่พลันเต็มไปด้วยความชื่นชมในตัวหมั่นโถว
หมั่นโถวสุดยอดมากเลย ลืมไปว่าเธอก็เป็นคนของกองทัพด้วยนี่
รองผู้กำกับสำนักสันติบาลต้องมียศระดับพันตรีขึ้นไป
ยศทหารโดยทั่วไปจะลดลงหนึ่งขั้น หากจะเปลี่ยนเป็นยศตำรวจ
หากยศทหารของหมั่นโถวสูงกว่าเสิ่นหรงเจียสองขั้น เช่นนั้นอย่างน้อยหมั่นโถวก็น่าที่จะอยู่สูงกว่าระดับนายพัน
เธอไม่รู้ว่าทำไมหมั่นโถวถึงยอมอยู่กับมู่เฉินฮ่าวในฐานะคนรับใช้
ทว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะคิดถึงเรื่องนี้ ไว้เธอจะถามหมั่นโถวเมื่อถึงเวลาที่พร้อมกว่านี้
มู่เฉินฮ่าวเอาตัวหมั่นโถวมาช่วยรักษาความปลอดภัย ดังนั้นเขาจึงให้หมั่นโถวเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์มู่ เซี่ยฉิงกงก็ต้องช่วยให้หมั่นโถวได้รับความยุติธรรมสมฐานะ
เพราะทุกวันนี้ เซี่ยฉิงกงก็คิดเสมอว่าหมั่นโถวเป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมมากคนหนึ่ง
แต่ทั้งหมดนี้ไว้ค่อยว่ากันภายหลัง
“ไปกันเถอะ นายหญิงน้อย ในเมื่อเธอไม่ยอมลงมาข้างล่าง อย่างนั้นพวกเราก็ขึ้นไปหาเธอกันเถอะ”
หมั่นโถวจับมือเล็ก ๆ ของเซี่ยฉิงกงพาเดินขึ้นไปชั้นบน
สำนักสันติบาลมีสองชั้น ชั้นล่างคือตำรวจชั้นผู้น้อย ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องทำงานของนายตำรวจระดับหัวหน้า
บนชั้นสอง เมื่อมองผ่านกระจกหน้าต่างที่ปิดด้วยม่านมีเพียงห้องเดียวเท่านั้นที่ไฟยังเปิดอยู่
ด้วยเหตุนี้เซี่ยฉิงกงจึงสามารถหาห้องทำงานของเสิ่นหรงเจียได้อย่างง่ายดาย
ครั้นเดินมาถึงประตูห้องทำงาน เซี่ยฉิงกงก็ไม่ได้เคาะประตู หากแต่เธอกลับผลักเข้าไปเลย
ก็ในเมื่อเสิ่นหรงเจียพยายามทำเรื่องให้ยากสำหรับเธอ เธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสุภาพด้วย
ทันทีที่ประตูห้องทำงานเปิดออกอย่างกะทันหัน เสิ่นหรงเจียก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่ประตูด้วยความประหลาดใจ
หนึ่งในนั้น เธอรู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อย ดูเหมือนเธอจะเคยเห็นมาก่อน หากแต่กลับจำไม่ได้ ส่วนอีกคนน่าจะเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของมู่เฉินฮ่าวใช่หรือไม่ ?
เดิมทีเสิ่นหรงเจียเพียงต้องการทำให้ทั้งสองสาวไม่ประทับใจตั้งแต่แรกพบเท่านั้น เธอไม่คาดคิดว่าสองสาวจะบุกเข้ามาถึงที่นี่
“ใครอนุญาตให้พวกคุณเข้ามาที่นี่ ? ออกไปซะ !”
“โอ้ ! รองผู้กำกับเสิ่นช่างใหญ่โตจริง ๆ ”
***จบตอน ปล่อยให้รอจนแห้งตาย***