แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 81 นับถอยหลัง

เสิ่นหรงเจียโกรธมากริมฝีปากของเธอสั่นระริก

 

เธอเหยียดนิ้วออกไปชี้หน้าเซี่ยฉิงกง พลางข่มขู่ว่า

 

“อย่าให้มากเกินไปนะ ที่นี่คือสำนักสันติบาล และฉันเป็นรองผู้กำกับสำนักสันติบาลแห่งนี้ อย่าอวดดีนัก !หากคุณทำร้ายเจ้าพนักงาน คุณจะต้องติดคุกนะ”

 

“คุณมากเกินไปหรือฉันมากเกินไปกันแน่ ? คุณเสิ่น..อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้อีกต่อไปเลย ที่คุณพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องยากสำหรับฉันก็เพื่อเพื่อนสนิทของคุณไม่ใช่หรือ ? คุณนั่นแหละต้องการอะไร ?”

 

เซี่ยฉิงกงขมวดคิ้ว พลางมองเสิ่นหรงเจียที่นั่งอยู่กับพื้นอย่างหมดความอดทน

 

ครั้นเห็นว่า เซี่ยฉิงกงรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉีเหยียนเอ๋อ เสิ่นหรงเจียก็ตวาดออกมาอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้

 

“อย่าคิดนะว่าคุณจะสามารถแต่งงานกับมู่เฉินฮ่าวได้จริง ๆ คุณคิดว่าตัวเองจะได้เป็นนายหญิงน้อยตระกูลมู่จริง ๆ งั้นหรือ ? คุณคิดเหรอว่าคนอย่างนายน้อยมู่จะชอบคุณจริง ๆ ? เลิกหยุดฝันเฟื่องได้แล้ว ! เขาเป็นของฉีเหยียนเอ๋อ”

 

“มีเศษผักติดอยู่บนฟันของคุณน่ะ”

 

จู่ ๆ เซี่ยฉิงกงก็จ้องริมฝีปากของเสิ่นหรงเจีย ราวกับว่าเธอได้ค้นพบโลกใบใหม่

 

เสิ่นหรงเจียใส่ใจกับภาพลักษณ์ตัวเองมาก ดังนั้นเธอจึงรีบยกมือขึ้นเช็ดโดยไม่รู้ตัว แต่ครั้นเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเซี่ยฉิงกง เธอก็รู้ทันทีว่าเธอถูกหลอกเข้าให้แล้ว !

 

เสิ่นหรงเจียก่นด่าสาปแช่งผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าในใจซ้ำ ๆ  ผู้หญิงคนนี้กล้าตบหน้าเธอ ทั้งยังกล้าหลอกเธออีก !

 

นับแต่เล็กจนโต เธอไม่เคยเสียหน้า ไม่เคยต้องเจ็บตัวขนาดนี้มาก่อนเลย

 

เธอเท่านั้นที่สามารถตบคนอื่น สามารถหยอกเล่นแรง ๆ กับคนอื่นได้ ทว่าไม่มีใครกล้าตบเธอ

 

ดังนั้นแน่นอนว่าคนอย่างเสิ่นหรงเจียต้องตบกลับ

 

เธอลุกจากพื้น แข้งขายังคงสั่น รู้สึกเสียใจที่วันนี้เธอใส่รองเท้าส้นสูงมาทำงาน หากแต่สิ่งนี้ไม่เป็นอุปสรรคในการตบเซี่ยฉิงกงกลับ

 

ขณะที่เสิ่นหรงเจียเงื้อมือขึ้น หมั่นโถวก็ตบเสิ่นหรงเจียหนึ่งฉาดอย่างรวดเร็ว เห็นหมั่นโถวตัวผอม ๆ อย่างนี้ ทว่าพลังของเธอมากมายกว่าเซี่ยฉิงกงนัก หลังจากตบไปหนึ่งฉาด ปากของเสิ่นหรงเจียก็มีเลือดไหลซึมออกมา ใบหน้าของเสิ่นหรงเจียพลันบวมไปครึ่งหน้า

 

“พูดจากันดี ๆ ไม่ได้รึไง ? เอะอะก็ลงไม้ลงมือ”

 

เซี่ยฉิงกงเงยหน้าขึ้น ทำไมผู้หญิงคน ๆ นี้ถึงได้ชอบใช้ความรุนแรงนักนะ ?

 

วันนี้เธอเพียงอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีของเฉินเหวินกัง และกลับไปตรวจสอบเท่านั้น ทำไมมันถึงได้ยากลำบากขนาดนี้ ?

 

“แกกล้าตบฉัน แกเป็นแค่คนใช้ กล้าดียังไงมาตบฉัน ?”

 

หลังจากถูกหมั่นโถวตบ เห็นได้ชัดว่า เสิ่นหรงเจียโกรธมาก เธอกุมใบหน้าของเธอด้วยไม่อยากจะเชื่อว่าเธอถูกคนสองคนตบเธอถึงสองครั้ง

 

บ้าไปแล้ว ?

 

เธอเป็นถึงรองผู้กำกับสำนักสันติบาลของเทศบาลเมือง ทั้งยังเป็นหลานสาวของอดีตผู้กำกับของสำนักสันติบาลนี้ !

 

ทำไมเธอต้องมาเจอเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ด้วย !

 

เซี่ยฉิงกงก้าวช้า ๆ ไปยืนข้างกายเสิ่นหรงเจีย พลางมองจ้องเธอ

 

“นี่ ขอถามหน่อย วันนี้มีใครอยู่ในสำนักงานของคุณ นอกจากตำรวจชั้นผู้น้อยคนนั้นบ้างมั้ย ?”

 

“คุณต้องการจะทำอะไร ?”

 

จู่ ๆ เสิ่นหรงเจียก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอย่างแรง

 

“ท่าทางแบบนี้ คงไม่มีใครแล้วสินะ เอาล่ะ งั้นคุณจะยอมมอบข้อมูลของคนที่ฉันต้องการออกมาเองภายในห้านาที หรือจะให้ฉันตบคุณอีก เลือกมาสักทางสิ”

 

เซี่ยฉิงกงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม ทว่าเสิ่นหรงเจียกลับรู้สึกเย็นยะเยือก

 

เสิ่นหรงเจียก้าวถอยหลังอย่างช้าๆ  พร้อมกับกรีดเสียงด้วยความหวาดกลัว

 

“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ ไม่รู้เหรอว่าการทำร้ายเจ้าพนักงาน เป็นเรื่องผิดกฎหมาย ! และฉันก็เป็นถึงรองผู้กำกับสำนักสันติบาล หากคุณทำร้ายฉันก็ต้องติดคุกอย่างน้อยสิบปี !”

 

เซี่ยฉิงกงไม่สนใจ เธอเหยียดนิ้วออก เริ่มนับถอยหลัง

“5”

“4” …

 

หมั่นโถวเริ่มกำหมัดแน่น มีเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดระหว่างข้อกระดูก ซึ่งแทบทำให้เส้นผมบนหัวเสิ่นหรงเจียตั้งชัน

 

“นายหญิงน้อย ชกที่จมูกเธอก่อนจะดีมั้ย ? ดูเหมือนเธอจะทำดั้งมาด้วยฮิฮิ”

 

***จบตอน นับถอยหลัง***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset