แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 96 กำลังจะหมั้น

ณ ห้องนั่งเล่นของบ้านสกุลมู่หลังเดิม

 

มู่จื่อหมิงกำลังตั้งคำถาม

 

และเป้าหมายที่เขาต้องการให้ตอบก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากหมั่นโถว และอาเจิ้ง

 

เจ้าบ้านมู่ยังคงห่วงใยลูกชายของเขาเป็นอย่างมาก เขาเป็นกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างลูกชายกับลูกสะใภ้มากยิ่งขึ้นไปอีก

 

ครั้นเซี่ยฉิงกง และมู่เฉินฮ่าวปรากฏตัวขึ้นในห้องนั่งเล่น คนในตระกูลมู่ต่างก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม

 

ว่าที่นายหญิงน้อยของตระกูลมู่คนนี้ช่างงดงามยิ่งนัก

 

เซี่ยฉิงกงรู้ว่าตนกำลังตกเป็นเป้าสายตา เธอทำตัวว่าง่ายราวกับลูกแมว เธอยืนอิงแขนของมู่เฉินฮ่าว ขณะที่มู่เฉินฮ่าวก็โอบเอวคอดของเธอไว้ในวงแขน ทั้งสองยืนนิ่งอยู่กับที่ ช่างเป็นคู่ที่สวยงามราวฟ้าอุ้มสม

 

“ฮึ ทำเหมือนอะไรก็ไม่รู้ ?”

 

เพราะมีมู่จื่อหมิงอยู่ที่นั่นด้วย ซิงเหวินจิ้งจึงไม่กล้าที่จะพูดรุนแรงเกินไป หากแต่เธอก็อดไม่ได้ที่พึมพำเบา ๆ อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่เห็นเซี่ยฉิงกงอยู่ตรงหน้า เธอก็จะรู้สึกขัดหูขัดตามากขึ้นเรื่อย ๆ

 

ทว่าเรื่องบ้า ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก็ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างเธอกับฉีเหยียนเอ๋อ และจางหยูหลานสองแม่ลูกนั่น

 

สองคนนั่นถึงกับกล้าวางยาลูกชายของเธอเลยงั้นรึ ? ทั้งยังเป็นยาที่ออกฤทธิ์รุนแรงมาก กระทั่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายของมู่เฉินฮ่าวได้เลยทีเดียว

 

“คุณลุงมู่ คุณป้ามู่”

 

เซี่ยฉิงกงเรียกขานอย่างชาญฉลาด

 

“คุณพ่อ คุณแม่ หากไม่มีอะไรแล้ว ฉิงกงกับผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ” มู่เฉินฮ่าวพูดเบา ๆ

 

พวกเขาทั้งสี่ ต่างก็เข้าใจกันดี ต่างไม่พูดถึงบ้านสกุลฉีโดยปริยาย

 

“เอาล่ะ ในเมื่อลูกทั้งสองต่างก็ได้เรียนรู้กันมาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งก็ดูเหมือนว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันด้วย เช่นนั้นพ่อก็เห็นว่าควรถึงเวลาที่จะต้องจัดพิธีหมั้น เพื่อให้ใครบางคนยอมรับความจริง และไม่สร้างปัญหาใด ๆ ขึ้นอีก”

 

ครั้นพูดจบมู่จื่อหมิงก็เหลือบไปมองซิงเหวินจิ้ง

 

แม้ว่าสีหน้าของมู่จื่อหมิงจะยังคงเรียบเฉย ทว่าหัวใจของซิงเหวินจิ้งก็รู้สึกหวั่น ๆ

 

ปกติแล้วมู่จื่อหมิงเป็นคนอารมณ์ดี ทั้งในช่วงหลายสิบปีนับตั้งแต่แต่งงานกัน เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เขามักจะยอมเธอเสมอ หากแต่เมื่อใดที่สีหน้าของเขาเรียบเฉย นั่นก็หมายความว่าเขาโกรธแล้ว

 

แม้ว่าซิงเหวินจิ้งจะไม่พอใจ หากแต่เธอก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรมากนัก

 

“ครับ เรื่องวันหมั้นนั้น คุณพ่อตัดสินใจได้เลยครับ” มู่เฉินฮ่าวกล่าว

 

“ดี พ่อดูฤกษ์มาแล้ววันที่ 17 เดือนนี้เป็นวันมงคลเหมาะสำหรับการหมั้นหมาย เช่นนั้นวันพรุ่งนี้เราจะไปที่บ้านสกุลเซี่ยด้วยกัน เพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้เรียบร้อย”

 

“ครับ”

 

นับแต่ต้นจนจบการสนทนา เซี่ยฉิงกงเพียงยิ้มน้อย ๆ เธอไม่พูดไม่จาอะไร ทั้งหมดนี้ปล่อยให้มู่เฉินฮ่าวเป็นคนกล่าวเอง

 

ฝ่ามือของเธอถูกมือใหญ่ ๆ ของมู่เฉินฮ่าวเกาะกุมไว้แน่น กระทั่งรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิระหว่างนิ้วมือของเขา เซี่ยฉิงกงไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกของเธออย่างไรดี ?

 

เธอกำลังจะหมั้น

 

ระหว่างทางกลับบ้าน

 

“นายน้อย คงไม่ทราบว่า ตอนที่พี่เจิ้งโทรมา บอกว่านายน้อยหมดสติอยู่ในบ้านสกุลมู่หลังเดิมนั้น นายหญิงน้อยตกใจมากแค่ไหน เธอจับมือหมั่นโถว และขอให้พาไปที่บ้านหลังเดิมให้เร็วที่สุด”

 

หมั่นโถวนั่งข้างคนขับ เธอหันหน้ามาบอกเล่าพลางหัวเราะคิกคัก

 

“จริงหรือ ?”

 

ใบหน้าของมู่เฉินฮ่าวเผยรอยยิ้มที่อ่อนโยนซึ่งยากมากที่จะได้เห็น อาเจิ้งซึ่งขับรถอยู่ข้างหน้าได้ฟังหมั่นโถวแล้วก็อดไม่ได้ที่จะก้มหน้าอมยิ้ม

 

หมั่นโถวกำลังจะพูดต่อ หากแต่เซี่ยฉิงกงกลับหยิบหมอนขึ้นมาจากรถแล้วโยนลงบนหัวของหมั่นโถว

 

“หมั่นโถว พูดมากไปแล้วนะ !”

 

“ฉันผิดไปแล้ว นายหญิงน้อย”

 

ครั้นเห็นใบหน้าของเซี่ยฉิงกงแดงก่ำ หมั่นโถวก็รู้ว่าเซี่ยฉิงกงกำลังจะโกรธ เธอจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก

 

มู่เฉินฮ่าวหันมองหญิงสาวร่างเล็กที่นั่งข้าง ๆ เขาอย่างเงียบ ๆ ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะกินถุงดินระเบิดเข้าไปทั้งถุง แก้มของเธอแดงก่ำ เธอกำลังทำปากจู๋เล็ก ๆ แลดูแล้วช่างเย้ายวนอย่างสุดจะพรรณนา

 

เขาโอบเอวเธอหลวม ๆ จากนั้นก็เชยคางของเธอให้หันหน้ามาหาเขา นัยน์ตาทั้งสองคู่สบกัน เซี่ยฉิงกงเห็นร่องรอยความเสน่หาในแววตาของมู่เฉินฮ่าว หากแต่เธอก็ไม่ได้ตอบสนองใด ๆ เธอถูกเขารั้งเข้าสู่อ้อมแขน ก่อนจะถูกบรรจงจูบอย่างลึกซึ้ง

 

หมั่นโถวกับอาเจิ้งยังคงอยู่ร่วมในรถ ผู้ชายคนนี้นี่จริง ๆ เลย …

 

เซี่ยฉิงกงพยายามผลักมู่เฉินฮ่าวออก หากแต่มู่เฉินฮ่าวกลับกระชับวงแขนแน่นขึ้น และแน่นขึ้น จุมพิตของเขาก็รุกเร้า และล้ำลึกขึ้น เซี่ยฉิงกงตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกครั้ง

 

***จบตอน กำลังจะหมั้น***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset