แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 129 ฮุ่ยถังถูกวางเพลิง

“หยุนหมิง..เรื่องนี้จะต้องจัดการแก้ไขโดยเร็วที่สุด ที่ฮุ่ยถังเราได้ทำบัญชีเท็จไว้มากมาย หากเซี่ยฉิงกงพบ นังนั่นต้องไม่ปล่อยผ่านแน่ แล้วต่อไปเราจะถ่ายโอนของอื่น ๆ ได้ยากขึ้น”

 

“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเถอะ เราไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว แม่สาวร่าน..ผมคิดถึงคุณจัง … คืนนี้มาหาผมได้ไหม ?”

 

ใบหน้าสูงวัยของเจินเมี่ยวหยูแดงก่ำ เธอหันมองโดยรอบอย่างประหม่า ขณะกระซิบว่า

 

“เอาล่ะ คืนนี้ฉันจะหาข้ออ้างออกจากบ้าน ฉันก็คิดถึงคุณเช่นกัน … “

 

เสียงหัวเราะเบา ๆ ของชายคนหนึ่งดังมาจากอีกปลายสายของโทรศัพท์

 

“อืม อย่าลืมใส่ไอ้ที่ผมซื้อให้ไว้ข้างในด้วยล่ะ มันเซ็กซี่มากกว่า ผมชอบเห็นคุณเซ็กซี่ ๆ “

 

“คุณนี่ … น่าเกลียดจริง ๆ”

 

ไม่รู้ว่าทำไม หัวใจดวงน้อย ๆ ของเจินเมี่ยวหยูจึงเกิดความรู้สึกตื่นเต้น เมื่อได้ยินคำเรียกที่ว่า ‘แม่สาวร่าน’ ของอีกฝ่าย …

 

ในช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้น

 

“เมื่อคืนเวลาตี 3 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ในสำนักงานของบริษัทฮุ่ยถังเน็ตเวิร์ค ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มธุรกิจเซี่ย หลังจากได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยผจญเพลิงจึงได้รีบรุดเข้าดับเพลิงยังที่เกิดเหตุ เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะบริเวณชั้น 3 ของตึกวอดไปทั้งชั้น พยานที่เห็นเหตุการณ์ให้การว่า เพลิงเริ่มไหม้ตั้งแต่เวลาประมาณ 2 นาฬิกา และเนื่องจากเพลิงไหม้ในช่วงกลางดึกจึงมีพนักงานปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานอยู่เพียง 3 คนเท่านั้น เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายและเสียชีวิต 1 ราย โดยเพลิงถูกควบคุมไว้ไดเรียบร้อยแล้ว ส่วนสาเหตุและความสูญเสียของเพลิงไหม้ครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบต่อไป จางเหว่ย .. นักข่าว..รายงานจากที่เกิดเหตุ “

 

เสียง “คลิ้ก” ดังมาจากมือเล็ก ๆ ของเซี่ยฉิงกงที่กดปิดรีโมทคอนโทรลของทีวี

 

“รวดเร็วจริง ๆ”

 

เซี่ยฉิงกงหัวเราะเยาะในใจ

 

เมื่อวานเธอเพิ่งบอกว่าจะเข้าไปรับช่วงกิจการบริษัทฮุ่ยถังเน็ตเวิร์ค มาวันนี้บริษัทฮุ่ยถังเน็ตเวิร์คชั้น 3 ก็เกิดเพลิงไหม้เลยงั้นรึ ?

 

ชั้นสามเป็นสำนักงานฝ่ายการเงิน และสำนักงานฝ่ายบุคคล

 

“นายหญิงน้อย แม่เลี้ยงของคุณชั่วมากกล้ากระทั่งวางเพลิง นี่เธอไม่รู้หรือไงว่ามีคนเข้าเวรอยู่ในสำนักงาน วางเพลิงในเวลากลางค่ำกลางคืนแบบนี้ทำให้คนถูกไฟคลอกตายได้โดยไม่รู้ตัว”

 

หมั่นโถวรู้สึกไม่พอใจ เมื่อได้เห็นข่าวจากสถานที่เกิดเหตุเมื่อครู่

 

เซี่ยฉิงกงเพียงยิ้ม มีหรือที่คนอย่างเจินเมี่ยวหยูจะคิดห่วงใยชีวิตของผู้อื่น ?

 

“เฮ้อ ! ฉันเองก็ไม่คาดคิดว่าจะมีคนถูกไฟคลอกตาย … ”

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกผิดในใจเล็กน้อย หากเธอไม่ขอบริษัทในเครือบริษัทนี้จากเซี่ยเจิ้งหัว หรือหากเซี่ยเจิ้งหัวไม่ยอมให้เธอรับช่วงต่อ เมื่อคืนนี้พนักงานคนนั้นก็อาจจะไม่ตาย

 

“เรื่องผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น ผมได้ส่งคนไปแสดงความเสียใจที่บ้านของพวกเขาแล้ว นอกจากนี้ผมยังได้มอบเงินปลอบขวัญจำนวนมากให้อีกด้วย คุณไม่ต้องเสียใจ ผมมีบางอย่างที่คุณต้องสนใจเป็นแน่ คุณอยากจะฟังมั้ย ?”

 

มู่เฉินฮ่าวกลับมาแล้ว

 

“อะไรหรือ ?”

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย

 

มู่เฉินฮ่าวรับถุงมาจากอาเจิ้ง

 

“เมื่อวานที่เราไปที่บ้านสกุลเซี่ย ผมได้ให้หมั่นโถวแอบเข้าไปในห้องของเจินเมี่ยวหยู ทั้งลอบติดตั้งกล้องจิ๋วกับอุปกรณ์ GPS ระบุตำแหน่งในโทรศัพท์มือถือของเธอ”

 

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เมื่อวานนี้หมั่นโถวหายตัวไปตั้ง 15 นาที ตอนนั้นเซี่ยฉิงกงยังคิดว่าเธอไปเข้าห้องน้ำ

 

หมั่นโถวแลบลิ้น

 

“นายหญิงน้อย เมื่อวานนี้ฉันลืมบอกคุณ”

 

เซี่ยฉิงกงรับถุงมาจากมือของมู่เฉินฮ่าว จากนั้นก็หยิบแฟลชไดรฟ์ออกมาจากถุง แล้วเสียบเข้ากับโน้ตบุ๊ก

 

ครั้นเซี่ยฉิงกงเห็นว่ามีไฟล์บันทึกเสียง หลายไฟล์อยู่ในนั้น เธอก็ตัดสินใจคลิกลงไปที่ไฟล์ ๆ หนึ่ง

 

เธอดับเบิ้ลคลิ้กเมาส์ เพื่อเปิดไฟล์เสียงที่บันทึกไว้

 

ครั้นได้ยินคลิปเสียงที่ถูกบันทึกไว้นี้ เซี่ยฉิงกงก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด มือไม้ของเธอสั่น เธอรีบปิดคลิปเสียงนั่น พร้อมกับรีบยกมือออกจากแป้นคีย์บอร์ดทันที เธอทำตัวราวกับกำลังจารกรรมแล้วถูกจับได้

 

นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน ?

 

***จบตอน ฮุ่ยถังถูกวางเพลิง***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset