แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 152 ทําไมถึงยังซุ่มซ่ามขนาดนี้ ?

แต่งก่อน…ค่อยอ้อนรัก ตอนที่ 152 ทําไมถึงยังซุ่มซ่ามขนาดนี้ ?

เธอคว้ามือของเด็กหนุ่ม จากนั้นก็บิดแขนของเขาทันที

 

“จะทําอะไรนะ ?”

“บ้าเอ๊ย ! รุ่นน้อง หน้าตาก็สวยดี ทําไมดุจัง ?”

“ไปให้พ้นเลย” หมั่นโถวพูดเสียงห้าวอย่างเคือง ๆ

 

หลังจากหมั่นโถวพูดจบ เธอก็ปล่อยเขาให้เป็นอิสระ เด็กหนุ่มนักบาสรีบหันหลังโกยอ้าวโดยไม่เหลียวกลับมามองอีกเลย

 

“ฮ่า ๆ หมั่นโถว ดูสิ เธอทําให้เขากลัวจนหัวหดแล้ว”

 

“ฉันไม่ได้ตัดมือของเขาก็นับว่าบุญเท่าไหร่แล้วว่ามั้ยนายหญิงน้อย ?” หมั่นโถวตวาดเบา ๆ ด้วยน้ําเสียงภาคภู

มิใจ

 

หน้าที่ของเธอคือปกป้องความปลอดภัยของเซี่ยฉิงกง และดูแลชีวิตประจําวันของเซียฉิงกง สําคัญที่สุดก็คือให้คนที่มีความคิดไม่ดีต่อเซี่ยฉิงกงล้มเลิกความคิดเหล่านั้นซะ

นายน้อยบอกว่า ห้ามผู้ชายคนอื่นมองนายหญิงน้อยเป็นเด็ด

ขาด !

 

ทางทีมตนโมเรียงร

 

ไม่มีใครเข้ามาพูดคุยกับพวกเธออีก

 

จริง ๆ หากเซี่ยฉิงกงอยากได้หนังสือพวกนั้น เธอก็แค่บอกให้หมั่นโถวขับรถไปจอดที่ประตูด้านหลัง เพราะลุงยามที่เธ อรู้จักนั้นปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ประตูหลัง

 

อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังคงอยากสัมผัสบรรยากาศในมหาวิทยาลัยและเดินไปตามถนนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้อีกสักครั้ง

เซี่ยฉิงกงมองเห็น จางฉีต้า ลุงยามที่เธอคุ้นเคยจากระยะไกล

 

“ลุงจาง ลุงเป็นอย่างไรบ้าง ?”

 

เซียฉิงกงโบกไม้โบกมือให้เขา

ครั้นได้ยินใครบางคนร้องเรียก จางฉีต้า ก็เงยหน้าขึ้น เขาเห็นเชี่ยฉิงกงกําลังเดินตรงมา ดวงตาทั้งคู่ที่มีรอยยับย่นของชายชราพลันปรากฏรอยยิ้ม

 

“ว่าไง เซี่ยฉิงกง ไม่เจอกันนานเลย หนูมีธุระอะไรถึงมาที่นี่ได้ล่ะ

” หลังจากที่หนูเรียนจบ หนูก็ได้ฝากกล่องหนังสือไว้ที่ลุงตอนนี้หนูมาขอรับหนังสือพวกนั้นค่ะ” เซี่ยฉิงกงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

 

เซี่ยฉิงกงไม่ได้เห็นลุงยามคนนี้มานานหลายเดือนแล้วเธอรู้สึกว่าลุงยามแลดูอายุมากขึ้นกว่าเดิม

 

“โอ้ ! หนังสือของหนู ลุงเก็บไว้อย่างดีเลย ช่วงนี้หนูทําอะไรบ้างล่ะ ? หางานทําได้มั้ย หลังจากเรียนจบไปน่ะ ?

เซี่ยฉิงกงส่ายศีรษะช้า ๆ

 

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ นับตั้งแต่สําเร็จการศึกษาเธอต้องเผชิญกับหลายสิ่งหลายอย่างมากมายเสียเหลือเกิน และเธอก็ต้องออกจากชีวิตแบบเดิม ๆ ของเธอด้วย

 

“ยังไม่ได้เลย ว่าแต่ลุงจาง หนูกําลังจะแต่งงานเร็ว ๆ นี้มาร่วมงานแต่งงานของหนูด้วยนะ ไว้ถึงเวลาหนูจะให้คนมาส่งบัตรเชิญให้

ลุง”

 

ครั้นได้ยินเช่นนี้ จางฉีต้าผู้ซึ่งกําลังไปหยิบหนังสือให้เซี่ยฉิงกงพลันชะงักเขาพูดขึ้นว่า

 

“เซียฉิงกง หนูกําลังจะแต่งงานแล้ว ลุงขอแสดงความยินดีด้วยไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนไหนเป็นผู้โชคดีที่ได้แต่งงานกับหญิงสาวสวยๆเช่นหนู”

 

จางฉีต้ายกกล่องที่ซึ่งถูกปิดผนึกออกมาจากตู้ในห้องรักษาความปลอดภัยซึ่งเต็มไปด้วยหนังสือ

 

” หนังสือของหนูอยู่นี่ไง”

“ขอบคุณค่ะลุงจาง”

 

เซียฉิงกงยิ้มหวาน เธอย่อตัวลงเปิดกล่อง จากนั้นก็หยิบหนังสือของตนเองขึ้นมาเปิด หนังสือของเธอยังคงเต็มไปด้วยกระ ดาษโน้ต

 

หมั่นโถวที่อยู่ข้างหลังรู้สึกปวดท้องเล็กน้อย เธอจึงบอกกับเซี่ยฉิงกงว่า

 

“นายหญิงน้อย ฉันปวดท้องนิดหน่อย ขอไปห้องน้ําก่อนคุณรอฉันอยู่ที่นี่นะ แล้วฉันจะรีบกลับมา”

“ห้องน้ําสาธารณะของที่นี่อยู่บริเวณประตูหน้า เอางี้หมั่นโถวไม่ต้องวิ่งย้อนกลับมา เดี๋ยวฉันขอคุยกับลุงจางสักครู่ จากนั้นเราค่อยไปเจอกันที่ประตูหน้า”

หมั่นโถวครุ่นคิดเล็กน้อย แต่ที่นี่คือมหาวิทยาลัยไม่น่าที่จะมีอันตรายใดๆหากปล่อยให้เซี่ยฉิงกงอยู่ที่นี่คนเดียว เธอจึงพยักหน้าจากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ห้องสุขา

 

จางฉีต้าตกใจ เมื่อได้ยินหมั่นโถวเรียกเซี่ยฉิงกงว่านายหญิงน้อยหากแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรมาก

 

เซี่ยฉิงกงคุยกับจางฉีต้าอยู่ครู่หนึ่ง เธอปฏิเสธความเมตตาของจางฉีต้าที่จะช่วยยกกล่องหนังสือไปส่งที่ประตูหน้า เธอกล่าวสวัสดีจากนั้นก็อําลาจางฉีต้าเพื่อที่จะไปพบกับหมั่นโถวตามที่นัดแนะกันไว้

 

กล่องหนังสือนั้นค่อนข้างหนัก เมื่อผ่านไปได้เพียงครึ่งทางเซียงกงก็บังเอิญสะดุดก้อนหินที่อยู่บนพื้น เธอร้องอุทานเสียงดังพร้อมกันนั้นกล่องก็ร่วงตกลงบนพื้น หนังสือสองสามเล่มกระเด็นหลุดออกจากกล่อง

เซี่ยฉิงกงรู้สึกเซ็งเล็กน้อย เธอถอนหายใจจากนั้นก็ลงนั่งยอง ๆ

 

มือเรียว ๆ ปรากฏขึ้นในสายตาของเธอ มือนั้นช่วยเธอเก็บหนังสือที่ละเล่ม

 

” ขอบคุณ” เซี่ยฉิงกงเงยหน้าขึ้นพยายามมองคนที่เข้ามาช่วย

 

“เซียฉิงกง ไม่ได้เจอเธอแค่ปีกว่าๆทําไมถึงยังซุ่มซ่ามขนาดนี้

นะ ?”

 

***จบตอน ทําไมถึงยังซุ่มซ่ามขนาดนี้ ***

 

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset