แต่ว่า ความจริงเขาก็น่าจะรู้ตั้งนานแล้ว หลินเช่อนั้นเป็นหยก สามารถทำให้งดงามมากยิ่งขึ้นได้ เพียงแต่เขาไม่อยากทำมันแค่นั้นเอง
ทว่ามองหลินเช่อที่ค่อยๆ เติบโตอยู่ข้างๆ เขาแบบนี้ ความจริงมันก็เป็นความสุข ไม่ใช่เหรอ
กู้จิ้งเจ๋อโอบไหล่เธอ “ไปเถอะ ไปฝั่งโน้นกัน”
“ไปฝั่งนั้นทำไมคะ” หลินเช่อถามอย่างแปลกใจ
“ไปยืมเรือสักคันจากพี่เป่ยเฉิน เธออยากลองใช้ชีวิตชาวประมงไหม เราไปตกปลากัน”
“ว้าว จริงเหรอคะ เยี่ยมไปเลย”
หลินเช่อตามไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อไปถึง มองเห็นเรือยอร์ชลำใหญ่ อยากถามว่า นี่มันเรือประมงเหรอ
“ฉันนึกว่าจะเป็นเรือเหมือนในโบราณแบบนั้นซะอีก”
เรือยอร์ชลำไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เป็นเรือพักผ่อนขนาดหนึ่งห้อง ด้านหน้ายังสามารถบรรทุกเรือจับปลาลำเล็กอีกลำได้
กู้จิ้งเจ๋อได้ยินที่เธอพูด บอก “เรือแบบนั้นจะนั่งยังไง…”
ด้านข้างสามารถมองเห็นนักท่องเที่ยว มองคนฝั่งนี้ที่กำลังนั่งเรือยอร์ชลำเล็ก ด้านบนมีโต๊ะเล็กๆ มีอาหารและผลไม้วางอยู่ และกู้จิ้งเจ๋อกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ หย่อนเบ็ดตกปลา กำลังตกปลาอยู่
เหล่านักท่องเที่ยวมองท่าทางอบอุ่นนั้นอยู่ไกลๆ ได้แต่รู้สึกอิจฉา
และยังมีคนถาม ว่าเรือแบบนี้เช่ามาจากที่ไหน
มีคนบอกกับพวกเขาว่า ตอนนี้ในเกาะกำลังมีงานเลี้ยง มีคนร่ำคนรวยมากมายมาที่เกาะ ลานจอดเครื่องบินส่วนตัวบนเกาะเปิดไว้ให้พวกเขาโดยเฉพาะ นี่คงเป็นหนึ่งในตระกูลร่ำรวย นั่นคือเรือส่วนตัวของพวกเขาเอง ไม่ได้เช่ามา
พวกเขาคิด ที่แท้ก็เป็นของเล่นของคนรวย จึงไม่ได้สนใจจะถามต่อ
บนเรือ
หลินเช่อหยิบเบ็ดตกปลาออกมาด้วยท่าทางที่ดูจะเข้าท่า ทว่าผ่านไปนานก็ยังไม่สามารถตกอะไรได้
เธอคิดว่าเธอทำอะไรไม่ถูกหรือไม่ จึงลองเปลี่ยนท่าทาง
จากนั้นหันไปมองกู้จิ้งเจ๋อที่อยู่ด้านข้าง ใช้เวลาไม่นานเขาก็จับได้ปลาไม่น้อย กำลังดิ้นอยู่ในถังของเขา
หลินเช่อถามอย่างจนปัญญา “ทำไมฉันตกปลาไม่ได้ล่ะ”
“เธอเสียงดัง เสียงดังไปฉันก็จะตกปลาไม่ได้เหมือนกัน” กู้จิ้งเจ๋อพิงพนักหันมามองหลินเช่อ
หลินเช่อบอกอย่างจนปัญญา “ไม่เอาแล้ว ฉันตกปลาไม่ได้ คุณก็อย่าคิดว่าจะได้เลย รีบบอกฉันมาเลยนะ ต้องตกปลายังไงกันแน่”
กู้จิ้งเจ๋อยืดตัวขึ้นเล็กน้อย มองหลินเช่อ “เธออยากรู้จริงๆ เหรอว่าต้องตกปลายังไง”
หลินเช่อพยักหน้ารัวเร็ว
กู้จิ้งเจ๋อยิ้ม กวักมือเรียกเธอ “เธอมานี่”
หลินเช่อมองรอยยิ้มของเขา เธอชะงัก “ทำไม…คุณจะทำอะไร”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “เธออยากรู้ไม่ใช่เหรอ ให้สินบนฉันสิ บางทีฉันอาจจะบอกเธอก็ได้”
“สินบนอะไรคะ…”
กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้ว อดใจไม่ไหวคว้าเธอเข้าสู่อ้อมแขน
หลินเช่อส่งเสียงครางเบาๆ ล้มลงไปในอ้อมแขนของเขา กู้จิ้งเจ๋อกอดเธอเอาไว้ ท้องฟ้าและทะเลสีฟ้าครามสดใส หญิงสาวที่เขากอดเอาไว้ในอ้อมแขน จูบเบาๆ ลงไปที่ริมฝีปากของเธอ
ลิ้นร้อนตวัดกวาดรอบริมฝีปากของเธอ จากนั้นจู่โจมเข้าไปอีกครั้ง
เขาหยอกเย้าลิ้นเล็กเบาๆ โอบกอดร่างนุ่มนิ่มของเธอ
อีกด้าน มีคนกำลังมองภาพๆ นั้นอยู่ ทั้งสองที่กำลังโอบกอดกัน เสื้อผ้าพลิ้วไหวไปตามสายลม ให้ความรู้สึกน่ามองยิ่งขึ้น
เมื่อมองจากที่ไกลๆ ภาพทั้งสองที่กำลังจูบกันอยู่นั้น ไม่ได้น่ารังเกียจเลยสักนิด มีแต่ความโรแมนติกเหมือนในภาพยนตร์ ทำให้คนชื่นชอบ
มีคนกำลังพูดคุยกันอยู่บนฝั่ง “คนมีเงินนี่มีความสุขจัง ได้จูบกันอยู่บนเรือ”
“ว้าว ผู้ชายคนนั้นหล่อมากเลย หุ่นเขาก็ดี ถ้าได้โดนเขาจูบสักหน่อย คงจะดีไม่น้อยเลย”
“นั่นสิ อยากเป็นผู้หญิงในอ้อมกอดเขาจังเลย”
——
เมื่อจูบจนพอใจแล้ว เขาจึงยอมปล่อยเธอ ทว่ายังไม่ยอมให้เธอลุกขึ้น
กอดเอวเธอเอาไว้แบบนั้น มองคลื่นน้ำด้านล่างที่ลอยเคลื่อนไหวอยู่บนผิวน้ำ
เบ็ดตกปลาไม่มีความเคลื่อนไหว ราวกับปลาเองก็ไม่อยากรบกวนการจูบกันของคนทั้งคู่
กู้จิ้งเจ๋อและหลินเช่อต่างก็ดื่มด่ำไปกับความสงบ ทั้งสองต่างไม่ขยับไปไหน
พระอาทิตย์ใหญ่มาก โดยเฉพาะยามอยู่เหนือน้ำทะเล แสงเจิดจ้า ทว่าหลินเช่อเองไม่ได้กลัวตัวดำ และผู้ชายอย่างกู้จิ้งเจ๋อยิ่งไม่ต้องกังวลถึงการเผาไหม้ของแดด
กลับกันเมื่ออยู่ท่ามกลางแสงแดดจ้า เขาถูกแดดแรงสาดส่อง หรี่ตาลงแทบลืมตาไม่ขึ้น ท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้เขาน่ามองเป็นบ้า
หลินเช่อขยับท่าทางนั่งให้สบายขึ้น อิงแอบอยู่กับเรือนร่างของเขา เงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาของเขา คิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นยื่นมือออกไปกอดเอวเขาเอาไว้แน่น สัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อของเขา รู้สึกไม่เลวจริงๆ กอดเขาเอาไว้แบบนี้ สัมผัสกล้ามแน่นๆ ของเขา แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
จนกระทั่งพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน หลินเช่อลืมไปแล้วถึงเรื่องที่เธอขอให้เขาสอนตกปลา
เมื่อนึกขึ้นได้ เธอจึงยืดตัวขึ้น บอก “จริงสิ คุณยังไม่สอนฉันตกปลาเลย”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “เธอเหรอ ความจริงอยากตกปลาก็ไม่ยาก”
“จริงเหรอคะ ทำยังไงคะ”
“ก่อนอื่น เธอต้องแต่งงานกับสามีที่ตกปลาเป็น”
“…”
“จากนั้นนั่งอยู่ตรงนั้น เธอก็จะเห็นว่าเขาได้ปลามาไม่น้อยเลย”
เขายิ้ม จากนั้นยกถังเล็กของตัวเองขึ้นมา บอกกับเธอว่า “นี่ก็ตกปลาได้แล้วไม่ใช่เหรอ”
“คุณ คุณ คุณ…กู้จิ้งเจ๋อ คนโกหก คุณมันคนโกหกจริงๆ หลอกฉันเหรอ” หลินเช่อฟาดลงไปที่ร่างของเขา กู้จิ้งเจ๋อเองก็ไม่หลบ อย่างไรซะเธอตีไปก็ไม่ได้เจ็บอะไรมาก ทำเพียงนั่งหัวเราะอยู่แบบนั้น
ตอนนี้เรือกำลังขยับเข้าฝั่งช้าๆ
อีกด้าน เสียงหัวเราะถูกส่งมา “ว้าว ฉันมองไม่ผิดใช่ไหม มีคนกล้าตีกู้จิ้งเจ๋อด้วย”
หลินเช่อรีบหยุดมือ มองเห็นลู่เป่ยเฉิน
กู้จิ้งเจ๋อคว้ามือหลินเช่อเอาไว้ไม่ได้หลบ ใบหน้าเรียบนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
บางทีหลินเช่อก็รู้สึกว่า ความสามารถเปลี่ยนหน้าของกู้จิ้งเจ๋อ มันโดดเด่นมากจริงๆ รวดเร็วขนาดนี้ ไม่มีร่องรอยของการเปลี่ยนหน้าเลยสักนิด
หลินเช่อทำแบบเขาไม่ได้ ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย
เพราะท่าทางโวยวายเป็นเด็กเมื่อสักครู่นั้น ถูกคนอื่นมองเห็น
กู้จิ้งเจ๋อบอก “เอาเรือมาคืนแล้ว”
ลู่เป่ยเฉินบอก “โอเค”
เขามองเลยไปยังหลินเช่อที่อยู่ด้านหลัง
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เห็นคนตีกู้จิ้งเจ๋อ คนคนนั้นก็คงได้หายสาบสูญไปจากประเทศซีแน่ ไม่คิดว่าตอนนี้จะไม่เหมือนเดิมแล้ว
กู้จิ้งเจ๋อหยอกล้อกับคนอื่นเป็นแล้ว
บางทีอาจจะมีแค่หลินเช่อคนเดียว คนอื่น อย่าฝันเลยว่าจะทำแบบนี้กับกู้จิ้งเจ๋อได้
ลู่เป่ยเฉินบอก “ฉันแค่มาบอก คืนนี้ไปทานข้าวด้วยกัน พ่อของฉันจัดงานเลี้ยงรับรองที่บ้าน”
หลินเช่อได้ยินดังนั้น เธอก็ทำตัวไม่ถูกขึ้นมา
อย่างไรซะ เธอก็พึ่งชนะลู่ชูเซี่ยคว้าตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่งมาครอบครอง
แม้ตำแหน่งนี้จะไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากมาย แต่เมื่อเจอหน้าก็ต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นธรรมดา
ราวกับเข้าใจถึงท่าทางไม่สงบของหลินเช่อ ลู่เป่ยเฉินจึงบอก “ไม่ต้องกังวลว่าชูเซี่ยจะไปก่อกวนหรอก เธอนั่งเครื่องหนีไปจากที่นี่ตั้งนานแล้ว”