เมื่อข่าวเรื่องหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของบ่อนพนันถูกจับกุมตัวถูกเผยแพร่ออกไปในเมืองหลวงเป็นวงกว้าง ทุกคนต่างก็พากันพลุ่งพล่านปั่นป่วน เวลานี้กลายเป็นว่า กองทัพอู่เว่ยแข็งแกร่งมาก เพราะแม้แต่กองทัพเฮยอวี่ก็ยังไม่กล้าจับหัวหน้าเจ้าหน้าที่แบบนี้เลยใช่ไหมล่ะ?
ยิ่งไปกว่านั้น ประเด็นสำคัญคือ หลังจากเหตุการณ์นี้แล้ว ทุกคนก็เชื่อว่าบ่อนพนันล้วนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพอู่เว่ย เพราะในท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีบ่อนพนันแห่งใดที่จะยอมเสียชื่อเสียงเพื่อเงิน
ดังนั้นกองทัพอู่เว่ยจึงดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสาและดึงดูดผู้คนให้วางเดิมพันมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากบ่อนพนันควบคุมผลลัพธ์ของการเดิมพันไม่ได้ว่าจะชนะหรือแพ้!
เรื่องตลกนี้กลับทำให้ทุกคนได้เห็นพลังของกองทัพอู่เว่ยและกล้าวางเดิมพัน…
ในเวลานี้ บ่อนพนันตระกูลซ่งได้เปิดให้ผู้คนวางเดิมพันว่าภายในหนึ่งสัปดาห์ กองทัพอู่เว่ยจะกล้าสละตำแหน่งที่ได้เปรียบทางด้านภูมิประเทศเพื่อโจมตีกองหลังของกองทัพเฮยอวี่หรือไม่
หลายคนหัวเราะร่า เพราะแม้ว่ากองทัพอู่เว่ยจะแข็งแกร่งมาก แต่กำลังพลโดยรวมของกองทัพเฮยอวี่ที่ช่องเขาเว่ยเป่ยนั้นก็มากกว่ากองทัพอู่เว่ยถึงยี่สิบเท่า แต่หากกองทัพอู่เว่ยคิดจะต่อสู้โดยอาศัยตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ พวกเขาก็อาจจะลองดูได้
แต้มต่อนี้ให้โอกาสทุกคนได้ทำเงิน ซึ่งหากกองทัพอู่เว่ยไม่โง่ พวกเขาย่อมจะไม่ออกมาจากภูเขาอย่างแน่นอน!
และผลก็คือ สามวันต่อมา กองทัพอู่เว่ยก็บุกเข้าไปในเมืองอวิ๋นอานที่มีทหารของกองทัพเฮยอวี่จำนวนสามพันนายประจำการอยู่ แล้วกองทัพอู่เว่ยก็ทำลายเรียบ…
ทุกคนในเมืองหลวงที่เดิมพันว่ากองทัพอู่เว่ยจะไม่กล้าออกจากภูเขาต่างก็ตกตะลึง อะไรเนี่ย? ทำไมพวกเขาถึงออกจากภูเขา? การโจมตีเมืองอวิ๋นอานจะให้ประโยชน์อะไรกับพวกเขา? ทำไมพวกเขาถึงไม่เล่นตามกฎเนี่ย!
แล้วหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ก็มีชุดเกราะเวทมากกว่าหนึ่งร้อยชุดถูกส่งไปยังภูเขาราชันหลี่ว์ และหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ก็รับพวกมันเอาไว้ทั้งหมด
แต่หลี่ว์ซู่เหลือบมองไปดูและไม่พอใจเท่าใดนัก ชุดเกราะเวทเหล่านี้ดูเป็นของธรรมดาที่คล้ายกับเกราะทองแดงเท่านั้น เมื่อก่อนหน้านี้ เขาได้คุยกับจ้าวซ่วยและบอกว่าเขาต้องการทั้งชุดเกราะและอาวุธ แต่จ้าวซ่วยเสนอเพียงชุดเกราะให้เขาเท่านั้น เพราะอาวุธมีราคาแพงกว่า และบ่อนพนันก็หาซื้อมาไม่ได้
ซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่หลี่ว์ซู่รู้มาว่า โดยทั่วไปแล้ว ราคาเกราะน่าจะแพงกว่าอาวุธสองสามเท่า
ทำให้จ้าวซ่วยต้องชี้แจงว่า เพราะหลี่ว์ซู่เข้าใจว่าว่าอาวุธจะต้องสะท้อนกับพลังวิญญาณ ในขณะที่ชุดเกราะจะต้องแข็งแกร่งทนทาน และต้านทานแรงกระแทกและเวทมนตร์ได้
ในจักรวาลหลี่ว์ มีอาวุธน้อยมากที่จะสะท้อนกับพลังวิญญาณได้ดี ส่วนใหญ่จะอยู่กับจอมทัพสวรรค์ทั้งสี่และราชันแห่งทวยเทพ ดังนั้น ในเวลานี้อาวุธจึงมีราคาแพงอย่างยิ่ง!
ในเวลานี้ จ้าวซ่วยหยิบดาบยาวออกมาแล้วแสดงให้หลี่ว์ซู่ดู หมายความว่าแม้แต่เขาเองก็ยังทำได้เพียงใช้อาวุธระดับกลางธรรมดาๆ เช่นนี้เท่านั้น
หลี่ว์ซู่ตะลึงงันอยู่ครู่หนึ่ง ช้าก่อน ดูดาบของจ้าวซ่วยสิ มันมีคุณภาพพอๆ กับหอกที่อยู่ใต้โบราณสถานเป่ยหมัง แล้วนั่นจะถือเป็นอาวุธระดับกลางๆ ธรรมดาๆ อีกหรือ?
แล้วตรีศูลที่ดีกว่าหอกยาวล่ะ? เหตุใดอาวุธที่หายากในจักรวาลหลี่ว์เหล่านี้จึงมีอยู่ในโลกที่ไม่มีพลังวิญญาณ?
นี่เป็นเรื่องเจตนาหรือเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ กันแน่?
อย่างไรก็ตาม หลี่ว์ซู่ไม่ได้บีบบังคับจ้าวซ่วยแต่อย่างใด เขาเพียงแค่รับชุดเกราะเอาไว้ก่อน มันยังดีพอที่จะช่วยเพิ่มอัตราการอยู่รอดของกองทัพอู่เว่ยให้สูงขึ้นได้มาก
เดิมทีความแข็งแกร่งของกองทัพอู่เว่ยนั้นสูงกว่ากองทัพเฮยอวี่อยู่แล้ว และตอนนี้เมื่อเสริมด้วยชุดเกราะเวท มันยิ่งยากที่จะทำให้พวกเขาตาย… และพวกเขาย่อมทำทุกอย่างได้ตามต้องการ!
จ้าวซ่วยยิ้มและพูดว่า “บ่อนพนันตระกูลซ่งร่วมมือกับคุณอย่างจริงใจ ท่านผู้บัญชาการ พวกเราหวังว่าจะได้ร่วมงานกับคุณเป็นอย่างดีเป็นที่พอใจร่วมกัน!”
“ใช่ แน่นอน แน่นอน” หลี่ว์ซู่กล่าว “ผมก็หวังว่าจะได้ร่วมงานกับพวกคุณอย่างดี เป็นที่พอใจร่วมกัน!”
และหลังจากนั้นอีกสามวัน บ่อนพนันตระกูลซ่งก็ได้รวมแต้มต่อสูงในการเดิมพันใหม่จำนวนมากอีกครั้งว่า ภายในหนึ่งสัปดาห์ กองทัพอู่เว่ยจะโจมตีกองทัพเฮยอวี่อีกหลายครั้ง
ยิ่งตัวเลขการเดิมพันที่สูงมากขึ้น อัตราต่อรองก็ยิ่งสูง คราวนี้ เหล่าอัจฉริยะ ศิษย์ ลูกหลานและธิดาของบรรดาชนชั้นสูงรวมถึงนักพนันต่างๆ ล้วนได้รับบทเรียนและเรียนรู้ที่จะฉลาดในการเริ่มศึกษาอัตราต่อรองอย่างรอบคอบโดยหวังว่าจะป้องกันและลดความเสี่ยงลงได้
แน่นอนว่า การป้องกันความเสี่ยงนี้ยังอยู่ในช่วงที่คาดการณ์ว่าจะเป็นไปได้ ตัวอย่างเช่น บางคนได้วางแต้มต่อการโจมตีหนึ่งถึงเจ็ดครั้งในสัปดาห์นี้ ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขาพยายามใช้อัตราต่อรองเพิ่มพลังเงินทุนที่มีอยู่ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ได้สูงสุด
และคราวนี้ทุกคนก็เต็มไปด้วยความมั่นใจสุดๆ ดังนั้น แม้จะสูญเสีย แต่ก็จะไม่ได้เผชิญกับความสูญเสียครั้งใหญ่ใช่ไหมล่ะ? และบางทียังอาจมีความเป็นไปได้ที่จะทำเงินได้เป็นจำนวนมากแทนอีกด้วย!
ทำให้…สุดท้ายในสัปดาห์นี้ … กองทัพอู่เว่ยบุกโจมตีกองทัพเฮยอวี่ถึงจำนวนยี่สิบเอ็ดครั้ง โดยเฉลี่ยแล้ว พวกเขาจะออกไปโจมตีอย่างบ้าคลั่งถึงสามครั้งต่อวัน ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ใด พวกเขาก็จะโจมตีเพียงครั้งเดียวและรีบจากไปทันทีโดยไม่สนใจแม้กระทั่งไล่ตามเข่นฆ่า
กองทัพเฮยอวี่ทั้งหมดล้วนงงงันสับสนมาก เพราะในขณะที่หน่วยสอดแนมเพิ่งแจ้งข่าวมาว่ากองทัพอู่เว่ยกำลังมาถึงแล้ว แต่ในเวลาต่อมา พวกเขาก็ได้รับแจ้งข่าวอีกครั้งว่ากองทัพอู่เว่ยสังหารหน่วยสอดแนมสองคนแล้วก็จากไป
พวกเขากำลังทำอะไรเนี่ย?!
ผู้บัญชาการของกองทัพเฮยอวี่กำลังนั่งฉุนเฉียวอยู่ในค่ายด้วยใบหน้ามืดทะมึน กองทัพอู่เว่ยนี้ช่างกำแหงนัก! แต่เขาไม่กล้าไล่ตามออกไป ความจริงแล้วในสถานการณ์เวลานี้ เหล่ายอดฝีมือเข้าร่วมรบไม่ได้ ซึ่งสี่ยอดฝีมือระดับหนึ่งบวกกับกลุ่มการโจมตีระยะไกลของยอดฝีมือระดับสามและระดับสองก็สร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับพวกเขาไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่รู้ว่ากองทัพอู่เว่ยนี้ไปหาชุดเกราะเวทมากกว่าร้อยชุดมาจากที่ไหน และด้วยชุดเกราะเวทเหล่านี้ แม้เมื่อถูกโจมตีอย่างหนัก บรรดาทหารของกองทัพอู่เว่ยจึงไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงแต่อย่างใด…
บรรดาคนที่เล่นเดิมพันในเมืองหลวงล้วนคับข้องใจ กองทัพอู่เว่ยทำบ้าอะไรกันอยู่? เร่งโจมตีถึงยี่สิบเอ็ดครั้งในหนึ่งสัปดาห์เลยหรือ? พวกเขาบ้าไปแล้วเหรือ?
นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สงครามของจักรวาลหลี่ว์ ไม่เคยมีกองทัพใดเคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อนใช่ไหมล่ะ?
ว่ากันว่าสัปดาห์นี้มีนักพนันจำนวนมากมายไปยืนอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำหลงอิ้นนอกเมืองหลวง และอาจกระโดดลงไปได้ทุกเมื่อ…
และครั้งนี้ บ่อนพนันตระกูลซ่งส่งชุดเกราะมากกว่าแปดร้อยชุดไปยังภูเขาราชันหลี่ว์ในคราวเดียว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทำเงินได้มากมายเกินคาด และสิ่งที่ทำให้หลี่ว์ซู่ยิ่งเบิกบานใจมากขึ้นก็คือ แม้กองทัพอู่เว่ยจะไม่ได้รับแต้มอารมณ์ความทุกข์จากการเรียนรู้วิธีการอ่านของกองทัพ แต่เขาก็ได้รับแต้มอารมณ์ความทุกข์เพิ่มเติมจากผู้ที่วางเดิมพันในเมืองหลวงมากมาย…
คราวนี้ จ้าวซ่วยก็สำราญใจมากเช่นกัน เพราะเขาได้เสนอให้ขุนนางใหญ่ตระกูลซ่งเข้าร่วมมือกับกองทัพอู่เว่ยเพื่อทำเงิน และตอนนี้ทุกคนก็ทำเงินได้ และเขาก็ได้ใช้อาวุธที่ดีกว่าเดิมอีกด้วย…
จากนั้นบ่อนพนันตระกูลซ่งก็เริมเปิดวางเดิมพันใหม่ว่า ตอนนี้กองทัพอู่เว่ยบุกโจมตีไปทุกที่ ในไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับกองทัพเฮยอวี่ แล้วสุดท้ายพวกเขาจะชนะหรือแพ้เฮยอวี่?
คราวนี้บ่อนพนันอื่นๆ เริ่มรับรู้รูปแบบแนวทางแล้ว และพวกเขาทั้งหมดก็ล้วนทำตามบ่อนพนันตระกูลซ่ง เวลานี้บ่อนพนันแต่ละแห่งต่างวางทาสไว้ที่หน้าประตูบ่อนพนันตระกูลซ่งเพื่อจะได้ปรับอัตราต่อรองเดิมพันตามบ่อนพนันตระกูลซ่งได้ทันที
แล้วจู่ๆ บ่อนพนันตระกูลซ่งก็กลายเป็นผู้นำบ่อนพนันทั้งหมด ชั่วเวลานั้น บ่อนพนันทั้งหมดในเมืองหลวงล้วนทำตามบ่อนพนันตระกูลซ่ง และเจ้าของบ่อนพนันตระกูลซ่งก็ฉีกยิ้มบานแฉ่งจรดถึงใบหู เขาแทบจะหัวเราะออกมาทุกวัน ช่างเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ดีอะไรเช่นนี้!
อย่างไรก็ตาม เขาต้องพูดคุยกับบ่อนพนันต่างๆ ที่ได้กำไร แม้ทุกคนจะสร้างรายได้ร่วมกัน แต่การลอกเลียนทำตามอย่างบ่อนพนันตระกูลซ่งเช่นนี้ก็ทำให้บ่อนพนันตระกูลซ่งได้ผลกำไรลดลงอย่างแน่นอน ดังนั้นหากทุกคนต้องการมีรายได้ร่วมกัน พวกเขาก็จะต้องแบ่งผลกำไร! เพราะบ่อนพนันตระกูลซ่งก็ยังต้องแบ่งรายได้ให้กับกองทัพอู่เว่ยเช่นกัน!
เจ้าของบ่อนพนันต่างๆ ใช้เวลาพิจารณาอยู่หลายชั่วโมงก่อนที่จะตกลงกัน เพราะหากบ่อนพนันตระกูลซ่งร่วมมือกับกองทัพอู่เว่ยอย่างจริงจังจริงๆ มันก็จะง่ายมากสำหรับบ่อนพนันตระกูลซ่งที่จะต่อสู้กับบ่อนพนันที่เหลือ ดังนั้นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันย่อมจะนำมาซึ่งความมั่งคั่ง!
ตอนนี้ ผู้คนทั่วทั้งเมืองหลวงทั้งหมดล้วนเชื่อว่ากองทัพอู่เว่ยนั้นแข็งแกร่งมากจริงๆ ดังนั้นทันทีที่มีการเปิดวางเดิมพันใหม่ครั้งนี้ ผู้คนจำนวนมากจึงวางเดิมพันว่ากองทัพอู่เว่ยจะเอาชนะกองทัพเฮยอวี่ได้อย่างแน่นอน! เพราะในท้ายที่สุดแล้ว กองทัพอู่เว่ยก็แข็งแกร่งอย่างมาก!
คราวนี้อัตราต่อรองทั้งสองฝ่ายนั้นต่ำมาก ทั้งสองฝ่ายจึงไม่ได้เสียอะไรมากนัก และนักพนันก็พบว่า เจ้ามือก็ยังเห็นด้วยว่าพลังของกองทัพอู่เว่ย และกองทัพเฮยอวี่นั้นใกล้เคียงกัน ฝ่ายหนึ่งมีความแข็งแกร่งสูง และอีกฝ่ายก็มีกำลังพลเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการเดิมพันรอบนี้จึงไม่ยุ่งยาก ต่อให้เป็นคนเจ้าเล่ห์ก็ทำกำไรได้ไม่มากนักเช่นกัน
และผลในท้ายที่สุด ในวันต่อมา กองทัพอู่เว่ยก็มุ่งหน้าไปยังเมืองหนานเกิงที่กองทัพเฮยอวี่ประจำการอยู่และเริ่มต่อสู้กัน ซึ่งยกเว้นแต่ช่องเขาเว่ยเป่ยและช่องเขาหลีหยางแล้ว เมืองหนานเกิงก็เป็นสถานที่ที่ทหารส่วนใหญ่ประจำการอยู่มากที่สุดโดยมีทหารมากกว่าหนึ่งหมื่นนาย!
ในขณะที่กองทัพอู่เว่ยและกองทัพเฮยอวี่ต่างต่อสู้กันอย่างไม่หยุดยั้ง ทันใดนั้นบ่อนพนันก็เริ่มเปิดวางเดิมพันใหม่อีกครั้งว่า ทหารของกองทัพอู่เว่ยจะตายกี่คน?
ครั้งนี้เป็นการเดิมพันใหญ่ที่มีอัตราการสูญเสียสูง คนที่เดิมพันว่าไม่มีทหารตาย ‘ความตายเป็นศูนย์”’ จะเสียเงินจำนวนหนึ่ง และคนที่เดิมพันด้วยอัตราต่อรองว่ามีทหารตายหนึ่งถึงหนึ่งร้อยคน ‘ความตายหนึ่งถึงหนึ่งร้อยคน’ ก็จะเสียเงินก้อนอีกจำนวนหนึ่ง และอื่นๆ ต่อไป…
คราวนี้บ่อนพนันทุกแห่งในเมืองหลวงล้วนเปิดให้วางเดิมพันกัน ทุกคนรวมทั้งขุนนางใหญ่ต่างวางเดิมพันโดยไม่มีใครสนใจว่าจะชนะหรือแพ้ เพราะพวกเขาเล่นกันเอาสนุก!
และครั้งนี้หัวหน้าเจ้าหน้าที่บ่อนพนันตระกูลซ่ง จ้าวซ่วยก็รายงานสถานการณ์แบบสดๆ ทันทีและนักพนันทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น มันหาได้ยากมากที่บ่อนพนันจะเปิดทำการได้เช่นนี้
หลังจากที่หลายคนวางเดิมพันแล้ว กองทัพอู่เว่ยก็เริ่มล่าถอยกลับไป และจากนั้นทุกคนก็เริ่มให้ความสนใจติดตามจำนวนคนที่เสียชีวิตในกองทัพอู่เว่ย
และผลก็คือ…ไม่มีใครตาย…
ทุกคนล้วนตะลึงงัน มีคนเดิมพันด้วยอัตราต่อรองอื่นๆ เกือบทั้งหมด แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่วางเดิมพันว่าไม่มีใครตาย หรือ ‘ความตายเป็นศูนย์’
ทำไมล่ะ? กระบี่ย่อมไร้ตา และอาวุธย่อมไร้ความปรานี แล้วจะมีสงครามที่ไม่มีคนตายเลยได้อย่างไร? นี่มันเรื่องเหลวไหลอะไรกันที่กองทัพอู่เว่ยต่อสู้อย่างดุเดือดแต่จบลงด้วยการไม่มีใครตายเลย? บอกได้ไหมว่าพวกเขาทำมันได้อย่างไรหรือ?
อันที่จริง ในการต่อสู้ครั้งนี้ ยกเว้นการต่อสู้ของหลิวอี้เจากับผู้บัญชาการระดับหนึ่งแล้ว หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ หลี่ว์ซู่ แอนโทนี่ จอห์นสัน และหัวหน้าบาทหลวงต่างก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากวุ่นวายอยู่กับการช่วยเหลือผู้คน…
และในเวลาต่อมาก็มีคนเรียกวันนี้ว่า ‘วันที่เลือดนองเมืองหลวง’ ลือกันว่าวันนี้ ที่ริมฝั่งแม่น้ำหลงอิ้นนอกเมืองหลวง มีนักพนันหลายคนกระโดดลงแม่น้ำหลงอิ้นตามกันไปอย่างต่อเนื่องไม่หยุด…
และเมื่อมาถึงจุดนี้ ทุกคนก็ได้แต่หวังเพียงว่า สักวันหนึ่งพวกเขาจะได้พบหลี่ว์ซู่ในเมืองหลวง และฆ่าเขาซะ