เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! – ตอนที่ 199

< < 135 Sec2 > >

ตัวเองเป็นคนยังไง มีนิสัย การใช้ชีวิตอย่างไร ตัวผมเมื่อก่อนเหมือนผมในตอนนี้รึเปล่า 

ผมสงสัยมาโดยตลอด ตัวผมที่สูญเสียความทรงจำกว่าสิบปีไป ได้แต่สงสัยตัวเองในอดีต ..ปัจจุบันนี้ผมคือใครกันแน่ ผมมันตัวอะไร รู้สึกว่างเปล่ามาโดยตลอด เพราะบางทีตัวผมจริงๆอาจไม่ใช่ตัวผมตอนนี้ แต่เป็นผมในอดีตซะมากกว่า ด้วยความกลุ้มใจนี้ ผมจึงต้องแบกรับความรู้สึกที่ว่างเปล่าเอาไว้ตลอด

แต่วันนี้ทุกอย่างได้จบลงแล้ว

ความว่างเปล่าเดิมๆได้หายไปแล้ว

ผมรู้แล้วว่าตัวจริงของตัวเองคืออะไร

แต่ว่านะ

บางที

ผมไม่รู้ซะน่าจะดีกว่า

มีคนตายอยู่ตรงหน้าผม เขาเป็นอาจารย์ที่ผมเคราพรักที่สุด ..และก็ตายด้วยน้ำมือของผม เหมือนกับก่อนจะสูญเสียความทรงจำไป ตัวผมเมื่อก่อนเองก็ทำซ้ำรอยกับตอนนี้

สุดท้ายก็ฆ่าคนที่อยากจะปกป้องอีกแล้ว ..เพราะการทำเรื่องพวกนี้คือหน้าที่ของตัวผม เป็นตัวตนที่แท้จริงของผมยังไงละ

ไม่ใช่ยูจิที่อยากเป็นวิศวกร ..แต่เป็นยูจิผู้ถูกสร้างให้เป็นฮีโร่ของโลก ผมจำเป็นต้องอยู่ข้างความยุติธรรม เพื่อการนั้นแล้ว ต่อให้ต้องฆ่าคนใกล้ตัวผมก็ต้องทำ ..นี่คือความจริงของตัวผม

ผมกุมศรีษะของตัวเองด้วยแขนทั้งสองข้าง และคดตัวประหนึ่งว่ากำลังหนีจากภัยอันตราย

ผม..ได้แต่ร้องไห้ออกมา

“..ใครก็ได้”

ช่วยผมที

“ฆ่าผมที”

อยากตายให้จบๆไป

 

****

‘ยูจิน เอ็มซี’ คือชื่อที่แท้จริงของผม ถึงกระนั้นครอบครัวก็ถนัดเรียกผมว่า ‘ยูจิ’ มากกว่า

ผมเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลเอ็มซี ตระกูลขุนนางในอาณาจักรฟัฟนิร์ที่มีชื่อเสียงเพราะสายเลือดของผู้กล้าในตัว และเพราะมีสายเลือดผู้กล้าไหลเวียนอยู่ แม้จะเพียงเล็กน้อย ทำให้ผมได้รับการคาดหวังอย่างมหาศาล

ผู้กล้าแห่งฟัฟนิร์ หลายคนยกย่องผมเช่นนั้น เพราะตัวผมมีพรสวรรค์มากมายตั้งแต่กำเนิด

แต่พอเริ่มมีอายุ ทางตระกูลก็ปิดบังข้อมูลของผม พวกเขาแยกผมออกมาจากการเมืองของอาณาจักร ทำทุกวิธีทางเพื่อไม่ให้เรื่องราวของผมหลุดไปที่บุคคลภายนอก

ผมยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจสิ่งที่พ่อกับแม่ทำ ..แต่พออายุมากขึ้น ผมก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ไม่ยาก

ครอบครัวของผมนับถือเทพแห่งวัฐจักร ‘ออโรโบรอส’ และเหมือนว่าออโรโบรอสจะส่งสารมาว่า—ผมคือตัวเขาที่กลับมาเกิดใหม่ พรสวรรค์มากมายในตัวก็เกิดขึ้นเพราะเขาด้วย พอทั้งสองคนทราบพวกเขาก็ตั้งใจปิดบังเรื่องของผมกันอย่างเต็มที่ จากเด็กที่ถูกเรียกว่าผู้กล้าแห่งฟัฟนิร์ก็ค่อยๆกลายเป็นตัวตนไร้นามภายในอาณาจักร

พ่อกับแม่ ว่าตามตรง ..พวกเขารักผมมาก ใช่ รักมากๆเลย แต่ไม่ใช่รักตัวผม แต่รักเทพในตัวผมมากกว่า

ทั้งสองบูชาผม ยกผมเป็นของสูงสุดประจำตระกูล ทุกครั้งที่คุยกับพวกเขา ผมรู้สึกว่า—พวกเขาไม่ได้มองมาที่ผมเลย

“วันนี้ท่านประสงค์จะทานอะไรหรือครับ”

“ไม่ว่าอะไรพวกเราก็จะนำมาถวายให้นะคะ ท่านยูจิ”

…แทนที่จะบอกว่าเป็นพ่อกับแม่ เรียกพวกเขาว่าสาวกน่าจะถูกกว่า

ผมปั้นยิ้มให้ทั้งสองเหมือนกับทุกๆวัน

“ขอเหมือนทุกทีก็ได้ครับ”

“ “รับทราบครับ/ค่ะ” ”

ทั้งสองกราบไหว้ผม ..

“…ถ้ายังไง วันนี้ท่านพ่อท่านแม่—คือ กินข้าวร่วมโต๊ะกันเหมือนเมื่อก่อนดีมั้ยครับ”

“ไม่บังอาจทำอย่างนั้นได้หรอกค่ะ!”

ผู้เป็นแม่ตอบกลับอย่างจริงจัง

“ท่านยูจิคือเทพผู้ยิ่งใหญ่นะครับ พวกเราสองคนไม่บังอาจไปนั่งกินข้าวในสถานที่เดียวกันได้หรอกครับ”

“อืม เอาตามนั้นนะครับ”

นอกจากการใช้ชีวิตอยู่เยี่ยงราชาในคฤหาสน์แล้ว ในทุกๆวันต้องกลางคืน ผมจะต้อง..เข้ารับการตรวจร่างกายด้วย

ตรงหน้าผมมีหลอดแก้วขนาดยักษ์ที่มีน้ำสีเขียวอยู่ข้างใน มันคืออุปกรณ์ตรวจสอบดูแลวงจรเวทย์ ทั้งสองบอกว่าวงจรเวทย์ของผมเป็นสิ่งมีค่ามาก จึงต้องพยายามรักษาไว้ให้ดีที่สุด ..ทั้งสองยืนอยู่ข้างหลังผมพร้อมกับผ้าขนหนูและชุดสำหรับเปลี่ยน

ผมแอบถอนหายใจโดยไม่ให้ทั้งสองคนรู้ จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าทั้งหมดและเข้าไปข้างในหลอดแก้วนั่น

เมื่อแช่ตัวอยู่ในนั้นได้สักพัก วงจรเวทย์ก็เลืองแสง ทั้งสองมองภาพนั้นอย่างประทับใจและร้องไห้ออกมา

“ช่างวิเศษ วิเศษเหลือเกิน นี่น่ะเหลือพลังของทวยเทพ”

“สูงส่งยิ่งนัก ท่านออโรโบรอส”

ไม่รู้ทำไม แต่ท่าทางของพวกเขา ทำให้ผมรู้สึกเจ็บข้างในอกเหลือเกิน

หลังจากเข้ารับการทดสอบวงจรเวทย์เสร็จ ผมก็เข้านอนตามปกติตามคำแนะนำของที่บ้าน

ทว่า วันนี้ต่างกับทุกที

จู่ๆผมก็นอนไม่หลับ และนึกอยากออกไปสูดอากาศข้างนอกเข้า คิดได้จึงเดินออกจากประตูทันที

ระหว่างที่เดินผมก็สัมผัสได้ถึงเสียงประหลาดบริเวณใต้ดินของคฤหาสน์ ด้วยความสงสัยผมก็เดินไปดูในทันที และได้พบกับ ..ความเลวร้ายที่สุดของมนุษย์

ผมเห็นพ่อบ้านของตัวเองกำลังแบกร่างไร้วิญญาณของเด็กวัยเดียวกันอยู่—-ผมตื่นตัวเดินเข้าไปหาเขาตรงๆทันที

“ทำอะไรน่ะครับ”

“ท่านยูจิ มีธุระอะไรหรือครับ”

เขาไม่ได้ตกใจเรื่องที่ผมพบความจริงเลยสักนิด ท่าทางของเขามันปกติเหมือนทุกที

ผมได้แต่อึ้งและมองไปศพของเด็กวัยเดียวกัน เพราะจ้องนาน ทำให้พ่อบ้านรู้เรื่องที่ผมสงสัย

“ตัวทดลองที่พึ่งเสียไปครับท่านยูจิ ผมจะรีบนำไปกำจัดเพื่อไม่ให้ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนท่าน ขออภัยที่ให้เห็นภาพที่ไม่น่าดูเช่นนี้ครับ”

…หา?

ตัวทดลองคืออะไรกันแน่? ไม่สิ แต่เดิม การทดลองมนุษย์ที่ว่ามันได้ด้วยเหรอ?

ผมรีบขึ้นห้องไปนอนต่อ แต่ว่าภาพของร่างไร้วิญญาณนั้นก็ยังคงหลอกหลอนผมอยู่ตลอดทั้งคืน สุดท้ายผมก็นอนไม่หลับ

ผมตัดสินใจสืบเรื่องราวทั้งหมดภายในตระกูลของตัวเอง 

ตระกูลเอ็มซีคือตระกูลขุนนางก็จริง แต่เบื้องหลังพวกเขาเป็นลัทธิเทพออโรโบรอส หน้าที่ของพวกเขาคือการสืบหาเทพเกิดใหม่ดังผมให้พบ และคอยดูแลความสะดวกให้ตัวผม

หนึ่งในสิ่งที่พวกเขาทำเลยเป็นการทดลองมนุษย์ และหาทางเลือกที่ดีที่สุดให้ผม ..พูดง่ายๆ พวกเขาฆ่าคนเพื่องานวิจัยที่ใช้สำหรับการดูแลผม

ไร้สาระที่สุด เรื่องแค่นั้นถึงกับต้องฆ่าคนเนี่ยนะ

แล้วไม่ใช่แค่นั้น ความดำมือของลัทธิเทพออโรโบรอสยังมีมากกว่านี้

ทดลองมนุษย์ ค้าทาส ยาเสพติด สังเวยชีวิต ประเพณีประหลาดที่เกี่ยวกับความตาย และต่างๆนานาเท่าที่มนุษย์จะคิดได้

ตามความเชื่อของลัทธิคือมนุษย์ทุกคนเกิดมาเพื่อเป็นข้ารับใช้ของออโรโบรอส เมื่อตายไป เหล่าข้ารับใช้ก็จะได้พบกับชีวิตนิรันดร์ที่เต็มไปด้วยความสุข ทั้งมั่นคั่งทั้งยั่งยืน นั่นคือสิ่งที่ทุกคนหวังโดยแลกกับการทำร้ายมนุษย์ด้วยกัน

ตัวผมที่เป็นเทพผู้กล้ามาเกิดใหม่ มีสถานะเปรียบได้ดั่งทุกอย่างของลัทธิ

มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เรื่องพวกนี้มันไม่ถูกต้อง ..แต่ว่า

ภาพของพ่อแม่ก่อนที่จะรู้ว่าผมเป็นออโรโบรอสได้ลอยเข้ามาในหัว ทั้งสอง..เป็นคนสำคัญของผม ไม่ว่าอย่างไรก็ยังเป็นพ่อกับแม่เพียงหนึ่งเดียวของผมอยู่

แต่ว่า–จะปล่อยเรื่องพวกนี้ไปจริงๆเหรอ

สัญชาตญาณในตัวของผม ไม่ยอมรับ แต่ตัวผมเวลานั้นก็ตัดสินใจหลอกตัวเองไปว่า–ผมรับได้

ชีวิตผ่านไปอย่างราบรื่น มีไม่รู้กี่ชีวิตที่ถูกทดลองหรือสังเวยเพื่อผมอย่างไม่จำเป็น แม้จะพยายามพูดอ้อมให้พวกเขาเลิกทำ พวกเขาก็ไม่หยุดกันสักที เอาแต่คิดว่าผมแค่เกรงใจ ช่างมีเมตตาอะไรขนาดนี้ ..นอกจากนั้น พวกเขาก็ได้นำวิญญาณระดับเทพซึ่งเป็นข้ารับใช้เก่าของผมในนามออโรโบรอสมาให้

ผมได้ทำพันธสัญญากับเขา

เขาชื่อว่า ‘อลัน’

อลันกับผมเป็นเพื่อนกัน มีแค่เขาคนเดียวที่ปฏิบัติกับผมเป็นกันเองกว่าทุกคน ..อย่างไรก็ตาม

ชีวิตผมก็ดำเนินต่อไปโดยที่ตัวผมไม่ใช่ตัวผม หน้าที่ของผมคืออะไร ผมเกิดมาเพื่อให้พวกเขาบูชาผมแค่นั้นหรือ

ไม่ใช่

ไม่มีทางที่ผมเกิดมาเพื่อเหตุผลแค่นั้นอยู่แล้ว 

ถ้านั้นผมเกิดมาทำไมล่ะ?

…..

…..

….

ในตอนสุดท้าย ผมก็ตัดสินใจล้างบางลัทธิออโรโบรอสทิ้ง ผมฆ่าพ่อและแม่ของตัวเองโดยไม่แม้แต่จะลังเล อาจเป็นเพราะอะไรบางอย่างข้างในผมได้ทำแทนผมทั้งหมด ผมจึงไม่มีความโศกเศร้าอยู่เลยเมื่อได้ลงมือสังหาร ทว่าเมื่อได้สติ ความรู้สึกด้านลบก็ไหลย้อนเข้ามา

สุดท้ายร่างกายก็ทำการลบความทรงจำเพื่อหนีจากความเจ็บปวดทั้งหมด

และตอนนี้ตัวผมก็กลับไปซ้ำรอยอีกครั้ง

…..

รู้ตัวอีกที ผมก็อยู่ในโลกสีขาว ผมรู้ดีว่ามันคือที่ไหน—-ที่นี่คือภายในจิตใจของผม

โลกที่ว่างเปล่า ตัวผมอีกคนหรือว่า ‘ออโรโบรอส’ ได้เดินเข้ามา

“ไม่ได้เจอกันนานนะครับ คุณออร่า”

ผมเรียกเขาว่า ‘ออร่า’ เพราะเขาชอบให้เรียกด้วยชื่อนี้มากกว่า

คุณออร่าเดินมานั่งอยู่ตรงหน้าผม เขาเสกเก้าอี้มาจากความว่างเปล่า

“ขอโทษด้วยที่หายไปซะนาน ทางนี้ก็อยากไปติดต่อด้วยอยู่บ่อยๆอยู่หรอก แต่มันมีข้อจำกัดอยู่น่ะนะ”

“ข้อจำกัดหรือครับ”

“ใช่แล้ว ..ยูจิ”

“ครับ”

“สรุปแล้วนายเป็นใครกันแน่ ได้คำตอบหรือยัง”

….ผมคือใครกันแน่สินะ

ผมแหงนหน้ามองขึ้นไปบนความว่างเปล่า และยิ้มให้กับตัวเอง

“ไร้ตัวตนครับ”

“…”

“ผมเกิดมาเพื่อโลกใบนี้ ..เหมือนที่คุณออร่าคุยกับผมในวันก่อนที่ผมจะตัดสินใจล้างบางลัทธิออโรโบรอส” ผมพูดด้วยใบหน้าที่อิดโรย “ผมคือตัวตนที่เกิดมาเพื่อโลกใบนี้ ไม่มีอะไรน้อยกว่าหรือเกินกว่านี้ครับ”

เหตุผลในการมีชีวิต ผมไม่จำเป็นต้องมี ผมก็แค่ใช้ชีวิตไปตามที่โลกใบนี้ต้องการก็พอแล้ว เป็นเพียงตัวตนที่ว่างเปล่าที่ถูกชักใยเพื่อกอบกู้โลก ..นั่นแหละผม

“ตัวตนยูจิที่ไม่จำเป็นตลอดสี่ปีที่ลืมตาตื่น ผมจะลบไปให้หมดครับ”

ความฝันทั้งหมด เพื่อนฝูง จะทิ้งไปให้หมด จะกลับคืนสู่สิ่งที่ตัวเองเป็นจริงๆ

คุณออร่าพยักหน้ายอมรับการตัดสินใจนี้

“เช่นนั้นจะขอให้คำสั่ง” ออร่าโพล่งขึ้น “จงปราบจอมมารซะ”

“…”

จอมมารมีอยู่สองตน

เรเซอร์ ดราแคล์ และ เบลลามี

“..”

ไม่รู้ทำไม แต่แค่เรื่องนี้เท่านั้นที่ผมไม่สามารถตอบตกลงได้

“ว่าแล้วเชียว สุดท้ายก็ทำอย่างที่พูดไม่ได้” ออร่าแสยะยิ้ม “ช่างมันเถอะ ถ้าทำไม่ไหวก็ไม่ต้องทำ ไม่ใช่ว่ามีแค่ทางเดียวเสียหน่อย”

“หมายความว่าไม่จำเป็นต้องฆ่าจอมมารก็ได้เหรอครับ”

“ใช่ ..แค่ช่วงชิงสถานะจอมมารมาให้ได้ก็พอ แต่การจะทำแบบนั้นได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายด้วยสิ ว่าตามตรง ปราบจอมมารตรงๆยังง่ายกว่าเยอะเลย”

“จะเลือกอย่างหลังครับ”

คุณออร่ายิ้มราวกับว่าตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว—ไม่สำคัญว่าเขาจะคิดอะไรอยู่ ยังไงซะ เขาก็เป็นเจ้าของร่างที่แท้จริง ไม่ใช่ตัวตนที่ว่างเปล่าอย่างผม เขามีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ ต่างกับผม

“ถ้านั้นจะขอเปลี่ยนภารกิจ แทนที่จะปราบจอมมาร—-จงเก็บกู้สมบัติสวรรค์มาซะ”

ข้อมูลความทรงจำเกี่ยวกับสมบัติสวรรค์ทั้งหมดไหลเข้ามาในหัว

เมื่อหมดธุระแล้ว ภาพก็ตัดอีกครั้ง

 

****

ผมตื่นขึ้นจากความฝัน ความรู้สึกแย่ๆทั้งหมดปลิวหายไป ผมในตอนนี้ไม่รู้สึกอะไร ในจิตใจตอนนี้สัมผัสได้แต่ความว่างเปล่า

ผมปัดเศษน้ำตาออกจนหมด และยืนขึ้น

ร่างกายได้รับความเสียหายย้อนหลังจากการใช้ออโรโบรอสก็จริง แต่เพราะไม่ได้ใช้จนหมดก็อก ผมเลยมีแรงเหลืออยู่ในระดับหนึ่ง

“..ยังพอต่อสู้ได้ ..จะเริ่มเก็บกู้สมบัติสวรรค์” 

ก่อนจะเดินจากไป ผมชำเลืองมองร่างไร้วิญญาณของอาจารย์บลาซ ..และปล่อยไว้อย่างนั้น

 

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! << 0 >> รู้สึกว่าโลกเราช่วงนี้จะฮิตต่างโลกกันสินะ? ถ้าจำไม่ผิดนวนิยายประเภทไลทโนเวลของญี่ปุ่นในยุค 2020 จะฮิตกันเอาเรื่องเลย ขนาดผมก็เคยอ่าน หรือเคยดูอนิเมที่ดัดแปลงจากนิยายมาอีกทีไม่น้อยเลย ใช่ มันค่อนข้างสนุกเลย อาจจะเป็นเพราะมันช่วยสนองนีทให้ผมก็ได้ เพราะปกติผมมักจะเป็นผู้แพ้เป็นประจำทั้งๆที่พยายามากแล้ว พอได้เห็นคนๆหนึ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ซึ่งนั่นก็คือพระเอกมันก็ชวนให้รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเขาด้วย พร้อมไปกับสาวๆในฮาเร็มของแกด้วยอะนะ แต่ด้วยความที่เป็นตลาดที่ใหญ่ ทำให้มีหลายความเห็นตามไปด้วย หลายครั้งที่นิยายแนวนี้จะถูกวิจารย์ในเชิงไม่ดี อาทิเช่น ส้ำซากจำเจ เดาทางง่าย ตัวละครผู้หญิงง่าย ทุกอย่างง่ายไปหมด บางเม้นต์ก็ร้ายแรงขนาดบอกว่า ‘นี่ไม่ใช่นิยายแต่เป็นสินค้า’ อืม ถ้าในมุมผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก ออกไปในทางชอบด้วยซ้ำ แต่ขอติหน่อยเถอะ ตัวร้ายส่วนใหญ่ในเรื่องแนวนี้โคตรจะไม่น่าให้อภัย คนอะไรมันจะเลวได้ขนาดนั้น เลวถึงแก่นแท้เลยพวกตัวร้ายในนิยายต่างโลกเนี่ย ไม่น่าให้อภัยที่สุด โง่ก็โง่ กระจอกก็กระจอกชิบหายเลย ไร้ความคิดความอ่าน กลับตัวก็ไม่เป็น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset