และคำตอบของคุณมิสึกิก็คือ
“อืม ได้สิ แต่ว่า…”
“แต่เรื่อง?”
“จากที่ฟังเธอพูด ชั้นคิดว่าคาสึโตะคุงก็ชอบขั้นอยู่แล้วนะ”
“เอ่อคือว่า…,มันปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ชอบเธอเพราะว่าเธอเป็นไอดอลไง ผมคิดว่าคุณมิสึกิคงรู้สึกไม่ชอบเรื่องนี้นะ ไอ้การที่ตอบโอเคกับคนที่มาชอบคุณเพียงเพราะว่าคุณคือไอดอลน่ะ”
“บางที.เรื่องที่เธอพูด จะบอกว่าเป็นเหตุผลที่ชัดเจนก็ไม่นะ ชั้นเป็นเน็ตเกมเมอร์ที่ไม่ได้ผูกพันธ์กับข้อมูลส่วนเกิน และชั้นก็คิดว่าพวกเราผูกสัมพันธ์และคบกันได้ด้วยดวงใจบริสุทธิ์นะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การถูกสารภาพด้วยความรู้สึกว่า ชอบเพราะเป็นไอดอล ชั้นก็ต้องปฏิเสธคนๆนั้นแน่”
คุณมิสึกิพูดรวดเดียวจบ ก่อนจะกล่าวต่อเพิ่ม
“…แต่ว่าชั้นก็ยังเชื่อมั่นว่า คาสึโตะคุงยังคงชอบในตัวตนชั้นจริงๆ”
“..เอ๋?”
“ตอนนี้คาสึโตะคุงสับสน เลยไม่สามารถสารภาพความรู้สึกของตัวเองทั้งหมด สบายใจได้ ชั้นน่ะเข้าใจคาสึโตะคุงมากกว่าตัวคาสึโตะคุงเองด้วยซ้ำ ไม่ต้องกังวลเกินเหตุนะ “
“…..”
อ้าวเฮ้ย ทำไมบทสนทนามันมาในทางนี้วะ เรื่องมันชักจะทะแม่งๆละ
“ชั้นเคยได้ยินเรื่องพวกนี้มาบ้างนะ เรื่องที่ว่ามีผู้ชายที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นสามีแม้จะแต่งงานแล้วก็ตาม”
“ไม่ใช่ละครับ สำหรับผม เพื่อนในเกมส์ออนไลน์ กับ ไอดอลยอดนิยม มันคือคนเดียวกันนะ เพราะฉะนั้นผมเลยสับสน..”
เพราะทั้งคู่ดันชอบผมนี่ไง แล้วผมจะไม่สับสนได้ไงล่ะ
“ถ้างั้นชั้นจะรอ”
“ร..รอเหรอ?”
“อืม ชั้นจะรอจนกว่าคาสึโตะจะจัดการเรื่องความรู้สึกตัวเองได้กระจ่างและยอมรับความสัมพันธ์ของเราค่ะ”
“.ขข…ขอบคุณครับ”
ไม่รู้จะพูดอะไรดี ก็ได้แค่พูดคำนี้ไปอะนะ
ยังไงผมก็อยากได้เวลาเพื่อเผชิญหน้ากับความรู้สึกตัวเองอยู่แล้ว
“ถึงงั้น ตอนแรกชั้นก็ตกใจนะที่คาสึโตะคุงบอกว่าไม่รู้ว่าชั้นชอบหรือไม่ได้ชอบเธอน่ะ”
“ม่า อืม”
“แต่ว่าคำพูดหลังจากนั้น ชั้นเข้าใจหมดแล้ว นั่นคือ คาสึโตะคุงรักชั้นจากก้นบึ้งหัวใจไง”
“เอ่อ คุณมิสึกิครับ ทำไมบทสนทนามันวนกลับมาลูปเดิมซะงั้น”
สรุปว่าที่ผมอธิบายไปซะยาวเหยียดว่า ผมไม่รู้ว่าผมชอบเธอจริงรึเปล่า เลยอยากเรียกเธอว่ารินกะเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ในชีวิตจริงดูก่อน แต่ เธอไม่เข้าใจเลยนี่หว่า เพราะเธอก็ยังตีความเหมือนเดิมว่า ผมรักเธอจากก้นบึ้งหัวใจ…
“ในทางกลับกัน ชั้นคิดว่า จากความรู้สึกของคาสึโตะคุง ถึงไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความเคารพในตัวมิตรสหาย นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใดนะ”
“เอ๋?”
“พูดง่ายๆคือ ชั้นที่เป็นภรรยา ก็แค่หาทางทำไงก็ได้ให้เป็นผู้หญิงที่คาสึโตะคุงตกหลุมรักให้ได้ แค่นั้นเอง”
“เ่อ่อ ขอโทษนะครับ ยิ่งอธิบายยิ่งงงหนักกว่าเก่าอีกครับ”
“มันไม่ยากเกินเข้าใจเลย ลองนึกภาพตามว่าคนเราก่อนจะแต่งงานก็ต้องหลงรักในตัวอีกฝ่ายก่อน ฉะนั้น ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ก็แค่ทำยังไงก็ได้ให้ต่างฝ่ายต่างตกหลุมรักซึ่งกันและกันก็พอแล้ว”
อ้ออออ เข้าใจแล้ว โง่ตั้งนานเลยกุ
สรุปแบบหมูๆเลยคือ คุณมิสึกิในตอนนี้ก็ยังคงตั้งใจจะเป็นภรรยาผมให้ได้อยู่ดี
“ชั้นดีใจที่คาสึโตะคุงเผยความในใจตรงไปตรงมา ถึงแม้ว่าสิ่งที่เธอเผย จะไม่ใช่คำตอบที่ชั้นอยากได้ยินก็ตาม แต่อย่างน้อยชั้นก็ได้รู้ชัดแล้วว่า ความรู้สึกของคาสึโตะคุงที่มีต่อตัวชั้นไม่ใช่เรื่องเสแสร้ง”
“คุณมิสึกิ..”
“อาร่า ชั้นหูฝาดไปรึเปล่า ไหนบอกว่าเธอจะเรียกชื่อชั้นตั้งแต่ตอนนี้ไง”
“…..รินกะ”
“…..”
“หือ.. รินกะ? จู่ๆก็เงียบไปซะงั้น กะแล้วเชียวว่าไม่ชอบสินะ”
“เปล่านะ ขอโทษด้วย ชั้นดีใจสุดๆที่เธอเรียกชื่อชั้นจนหัวใจแทบหยุดเต้นเลยน่ะสิ”
“ข..ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
คนเราจะดีใจที่ถูกเรียกชื่อจนหัวใจแทบหยุดเต้นเลยเนี่ยนะ อยู่มาปูนนี้เพื่งจะเคยได้ยินนี่แหละ
แต่อย่างน้อยก็ยืนยันได้ว่าเธอชอบผมจริงๆ แค่คิดก็รู้สึกเขินแล้ว
“คาสึโตะคุงกังวลเรื่องชั้นมาตลอดสินะ”
“ก็ไม่ได้กังวลมากถึงขนาดนั้นหรอก”
“ไม่หรอก เธอกังวลแน่นอน ไม่งั้นไม่คิดมาถึงขนาดนี้แน่”
เจอคำตอบรินกะ เล่นเอาผมพูดอะไรไม่ออก
รินกะแสดงความรู้สึกของตัวเองชัดเจนต่อผมที่เป็นคนน่าสมเพชสิ้นดี
“อย่าไปคิดอะไรให้มันลึกซึ้งมากความ เพราะชั้นเองต่างหากที่เป็นคนตกหลุมรักคาสึโตะคุงนะ”
“…….”
ชั้นเองที่เป็นคนตกหลุมรัก?
เธอคงไม่รู้หรอกว่าคำพูดนั้นมันมีความหมายลึกซึ้งจับใจผมมาก
สำหรับผมที่เป็นคนง่อยๆไม่ได้มีอะไรเด่นดังเลย การที่เธอตกหลุมรักผมได้ แปลว่าเธอต้องรักผมที่เป็นตัวผมจริงๆ ไม่เกี่ยวกับรูปลักษณ์หรือฐานะ
“แล้วก็นะ…..นานะ..ชั้นรู้นะว่าเธอแอบฟังอยู่ เลิกแกล้งทำเป็นไม่อยู่ในห้องแชทได้แล้ว”
“ฮะฮะฮะ ความแตกซะแล้ว”
คุรุมิซากะส่งเสียงหัวเราะกลบเกลื่อน
“ชั้นไม่ได้เข้าใจทั้งหมดหรอก แต่พอจะเดาได้เลาๆว่าเธอวางแผนอะไรไว้อยู่สินะ”
เช้ดดดด รินกะหัวดีชิบเป๋ง สมแล้วที่เป็นสาวคูล
ถึงแม้ว่า เรื่องที่ผมกับคุณคุรุมิซากะร่วมมือกัน เธอจะไม่รู้เนื้อหาทั้งหมด แต่จากความฉลาดของเธอคงเดาได้บ้างแน่
“ขอโทษนะรินจัง ชั้นไม่ได้มีเจตนาร้ายนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ตั้งแต่เมื่อก่อนละ นานะทำเรื่องแปลกทีไร นั่นหมายความว่าเธอต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อชั้นแน่”
“รินจัง…”
คุรุมิซากะเรียกชื่อรินกะด้วยน้ำเสียงตื้นตัน
“แต่ก็นะ..อย่างน้อยก็เพลาๆหน่อยละกัน”
“ได้เลยจ้า ตอนนี้ความสัมพันธ์ทั้งสองคนก็ดีขึ้น ชั้นก็ดีใจมากๆจ้า คาสึคุง ฝากดูแลรินจังด้วยน้า”
“ห๊ะ ฝากดูแลหมายความว่าไง..”
ติ๊งติง
เสียงแจ้งเตือนบอกว่า คุรุมิซากะออกจากห้องสนทนาแล้ว
ทำไมไอดอลแต่ละคนนี่มีนิสัยไม่ชอบฟังคู่สนทนาพูดให้จบประโยคก่อนอยู่เรื่อยเลยฟะ
“คาสึโตะคุง เธอน่าจะนึกภาพออกนะ เพราะว่านานะปรากฏตัวมาเล่นเกมด้วยกันปุ๊บ คาสึโตะคุงก็สารภาพความรู้สึกออกมาทันที มองง่ายๆแค่นี้ก็เดาออกแล้วว่าพวกเธอร่วมมือกัน มันไม่มีทางบังเอิญว่าอยุ่ๆเธอจะสารภาพความรู้สึกแน่ๆ”
“เอ่อ..คือว่า”
“ช่วยสารภาพเรื่องราวทั้งหมดที่นานะร่วมมือกับคาสึคุงให้ฟังหน่อยนะ”
“เอ่อ ถ้างั้นขอเป็นแชทข้อความแทนได้มั้ย”
“เหตุผลคือ?”
ผมรู้สึกว่าคุยกับ ริน ในโลกเกมออนไลน์ มันง่ายกว่าคุยกับ รินกะในโลกความจริง น่ะสิ แต่ผมไม่มีทางบอกเรื่องนี้กับเธอแน่
“พิมพ์แชทมันอธิบายได้ง่ายกว่าน่ะ”
“งั้นเหรอ เอางั้นก็ได้”
รินกะกับผมปิดห้องแชท เข้าไปใช้แชทเกมแทน
รินกะพิมพ์หาผมมาว่า
“คาสึ อธิบายเรื่องทุกอย่างทั้งหมดห้ามปิดบังแม้แต่นิดเดียวนะ”
ผมเลยพิมพ์แชทหาเธอ เตรียมบอกรายะละเอียดทั้งหมดให้ฟัง
***
จบ CH4-2
ตอนหน้าน้องรินกะก็มีบทแล้วจ้า ใครชอบโลลิไม่ควรพลาดจริงๆ (ตอนหน้าจะเท่ากับ ตอน 14 ของฉบับเว็บโนเวลละ )
รอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon