EP 12: จอมใจ จอมอหังการ
เดนิเรลแทบจะเหวี่ยงโทรศัพท์ในมือทิ้งด้วยความเดือดดาล ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะต้องของขึ้นทุกครั้งเวลาที่ได้ปะทะฝีปากกับยายเด็กนรกอย่างดานีน นี่ถ้าไม่ติดว่าเขาสนใจในตัวมุนินอยู่ล่ะก็ เขาคงให้คนไปจับยายเด็กปากตลาดนี้มาตบสั่งสอนให้ปากแตกไปนานแล้ว
ชายหนุ่มเดินกลับไปกลับมาอยู่ภายในห้องรับแขก ถอนใจครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความเคร่งเครียด ความจริงคืนนี้เขามีแผนจะควงมุนินไปงานบอลล์ด้วยกัน แต่ยายดานีนจอมแสบทำเสียเรื่องหมด แล้วที่นี่เขาจะเอาสาวสวยที่ไหนควงไปงานดีล่ะ ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้นรดารักษ์ก็เดินผ่านมาพอดี
“รดา…”
เท้าบอบบางชะงัก ก่อนที่ใบหน้าขาวใสจะหันมามองยังต้นเสียง พอเห็นว่าเป็นใครรอยยิ้มบางๆ ติดเศร้าเล็กน้อยก็แต่งแต้มกลีบปากสีแดงระเรื่อ
“มีอะไรกับรดาคะคุณแดน…”
หนุ่มหล่อควักมือเรียกให้สาวน้อยเดินเข้าไปหา “เข้ามาหาฉันหน่อยสิ”
แม้จะยังงุนงงอยู่แต่หญิงสาวก็จำต้องทำตามคำสั่งของเจ้านายหนุ่มอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ในที่สุดก็เดินมาหยุดตรงหน้าของเดนิเรล
“หมุนตัวให้ดูหน่อย…”
“ว่าไงนะคะ?” เอ่ยถามหน้าตาตื่น เดนิเรลเห็นท่าทางตกใจของสาวใช้คนสวยก็หัวเราะลั่น
“ฉันไม่ใช่คนโรคจิตหรอกน่า แค่มีบางอย่างอยากให้เธอช่วยเท่านั้น เอ้า… หมุนตัวให้ฉันดูเร็วสิ…”
หญิงสาวทำตามอย่างว่าง่าย หมุนหนึ่งรอบแล้วก็หยุดหันมาเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงสงสัย “ให้รดาหมุนตัวทำไมคะ คุณแดนมีอะไรหรือเปล่า”
ชายหนุ่มระบายยิ้มพึงพอใจออกมา “หุ่นเธอสวยมากนะรดา…”
สาวน้อยเบิกตากว้าง สีหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ หากคำชมนี้หลุดออกมาจากปากของราฟาลคงจะดีไม่น้อย แต่นี้เป็นจากปากของเดนิเรลผู้ชายที่หล่อกินกันไม่ลง แต่หล่อนกลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเขาเลย นอกจากเคารพ
หนุ่มหล่อหัวเราะร่วน “มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกน่า ฉันแค่… อยากชวนเธอไปงานบอลล์คืนนี้ด้วยกันเท่านั้นเอง…”
“เอ่อ รดาคงไปไม่ได้…”
รดารักษ์ปฏิเสธโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยแม้แต่สักเสี้ยววินาทีเดียว ด้วยรู้สถานภาพของตัวเองดีว่าต่ำต้อยเรี่ยดินแค่ไหน ขืนไปงานบอลกับเดนิเรลในคืนนี้ หากราฟาลมารู้เข้าความเกลียดชังที่เขามีต่อหล่อนมากล้นอยู่แล้วคงจะเพิ่มระดับสูงขึ้นจนทะลุหลังคาโลกอย่างแน่นอน
“กลัวพี่ราฟว่าหรือไง” เดนิเรลเอ่ยถามอย่างรู้ทัน และนั่นก็ทำให้หญิงสาวก้มหน้านิ่ง
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่า เรื่องพี่ราฟนะ พวกเราไม่มีวันยุ่งเรื่องส่วนตัวของกันและกันเธอก็รู้นี่ และอีกอย่างที่ฉันพาเธอไปด้วยนี่ก็เพราะว่าคู่ควงของฉันดันเบี้ยวนัด ฉันไม่อยากเดินคนเดียว ไปเป็นเพื่อนฉันนะรดา”
“ไม่มีทางที่คุณแดนจะเดินคนเดียวหรอกค่ะ คุณแดนหล่อจะตาย…” รดารักษ์พูดขึ้นอย่างรู้จริง แต่ชายหนุ่มกลับส่ายหน้าดิก เพราะเขาไม่ต้องการแค่ผู้หญิงคนไหนก็ได้ แต่เขาต้องการผู้หญิงที่สวยยิ่งกว่านางฟ้าเพื่อไปเย้ยมุนินที่บังอาจเบี้ยวนัดเขาแล้วไปกับผู้ชายคนอื่น
“แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่าฉันเถื่อน ฉันหยาบคาย…” ชายหนุ่มอดนึกถึงคำพูดจาน่าตบปากของดานีนไม่ได้ และนั่นก็ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้งทันที
“ผู้หญิงคนนี้ใช่ไหมคะที่คุณแดนอยากจะเอาชนะ”
“ไม่ใช่ พี่สาวของเธอต่างหาก ยายนี่ก็แค่เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเท่านั้น” เดนิเรลเดินไปกระแทกตัวลงนั่งบนโซฟาแรงๆ ด้วยความขัดใจ
“ถ้าฉันไปคนเดียว… ยายเด็กบ้านั่นจะต้องหัวเราะฉันแน่”
“แต่ผู้หญิงในอิสตันบูลหรือแม้แต่ในตุรกีทุกคนแทบจะวิ่งลืมตายมาหาคุณแดนหากคุณแดนติดต่อไปนะคะ”
“แต่ไม่มีใครสวยหยาดเยิ้มเท่าเธอรดา… ช่วยฉันหน่อยเถอะนะ” ฟังเผินๆ เหมือนเป็นคำขอร้องก็จริง แต่สีหน้าและแววตาของเดนิเรลกลับไม่ได้บอกอย่างนั้น
“แล้วถ้ารดาปฏิเสธล่ะคะ…”
“ม่าย… เธอจะไม่ปฏิเสธฉัน จริงไหมรดา…”
รดารักษ์ถอนใจออกมายาวๆ ด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ ผู้ชายการ์รัสโซ่ทุกคนได้สายเลือดของความเอาแต่ใจอยากได้อะไรก็ต้องได้มาเป็นกระบุ้งโกยเลยทีเดียว โดยเฉพาะพ่อหนุ่มคนนี้
“ก็ได้ค่ะ…”
“ขอบใจมาก…” หนุ่มหล่อดีดนิ้ว ยิ้มกว้าง ขณะที่รดารักษ์ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ความกังวลใจถล่มยับอยู่ภายในอก
“แต่รดาไม่อยากให้คุณราฟรู้เรื่องนี้ คุณแดนช่วยปิดหน่อยได้ไหมคะ”
คนถูกเรียกไหวไหล่กว้างทรงพลังน้อยๆ “ได้สิ ว่าแต่เธอรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ เดี๋ยวอีกสักครึ่งชั่วโมงฉันจะให้คนเอาชุดไปให้ รับรองว่าเธอใส่แล้วจะเป็นยิ่งกว่านางฟ้าอีก…”
นางฟ้าที่ราฟาลไม่เคยชายตามองนะสิ… รดารักษ์หยันเยาะตัวเองอยู่ภายในด้วยความขมขื่น ปากพยายามฉีกยิ้มแม้ว่าภายในอกจะเจ็บปวดทรมานแค่ไหนก็ตาม
“คุณแดนเตรียมชุดไว้แล้วหรือคะ”
คนฟังส่ายหน้า “เปล่า แต่ฉันกำลังจะให้คนไปซื้อ…”
หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆ แสดงความเข้าใจ แต่ก็ยังไม่ได้ขยับเดินออกไปไหน เดนิเรลจึงเร่งขึ้น “รีบไปอาบน้ำ แต่งตัวเถอะน่า แต่งหน้าด้วยนะ เอาเข้มๆ หน่อย เพราะหากแต่งบางๆ กลางคืนมันจะมองไม่เห็น”
“รดาแต่งหน้าไม่เป็นค่ะ เอ่อ แล้วก็ไม่มีของพวกนั้นด้วย…”
เดนิเรลยกมือขึ้นเกาหัวแกรกอย่างเหลือเชื่อ แต่พอเห็นสายตาแป๋วๆ ของหญิงสาวก็เชื่อสนิทใจทันที งั้นไอ้แก้มที่แดงระเรื่อ ปากสีกุหลาบนี้ก็เป็นของที่ธรรมชาติให้มาทั้งหมดสินะ ชายหนุ่มอดชื่นชมไม่ได้ เขาจ้องมองหญิงสาวอย่างพิจารณาแล้วก็สรุปกับตัวเองอย่างงงงวย
รดารักษ์สวยไปทั้งเนื้อทั้งตัวแบบนี้ แต่ทำไมเขาถึงไม่ได้รู้สึกวูบวาบซาบซ่านอะไรเลยเวลาอยู่ใกล้ๆ เจ้าหล่อน ตรงกันข้ามกับยายเด็กปากตลาดนั้น อยู่ใกล้ทีไรเลือดลมของเขาเดือดพล่านทุกที แต่เดือดเพราะโทสะนะ ไม่ใช่เพราะตัณหาราคะ
“เอาล่ะ… งั้นฉันจะให้ช่างแต่งหน้ามาจัดการให้ แล้วอย่าปฏิเสธเชียวนะ เพราะหากเธอช้า พี่ราฟลงมาจากห้องนอนก่อนไม่รู้ด้วย…”
“คุณราฟกลับมาแล้วหรือคะ?” หญิงสาวร้องถามเสียงสูง ตัวสั่นขึ้นมาในทันที
เดนิเรลหัวเราะด้วยความขบขัน “ทำไมต้องทำท่าราวกับพี่ราฟเป็นมัจจุราชแบบนั้นด้วยล่ะ นี่ถามจริงเถอะรดากลัวอะไรพี่ราฟนักเหรอ หรือว่าพี่ราฟทำอะไรเธอ…”
ฉากจูบร้อนระอุระหว่างหล่อนกับราฟาลผุดขึ้นมาในสมองทันที และมันก็ทำให้ใบหน้าที่ซีดเผือดอยู่แดงจัด เดนิเรลหรี่ตามองอย่างจับพิรุธ
“มีอะไรที่ฉันไม่รู้หรือเปล่า?”
“ไม่มีค่ะ ไม่มีจริงๆ รดาไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
หญิงสาวปฏิเสธเสียงสูงลิบ จากนั้นก็รีบเผ่นแน๊บออกจากห้องโถงอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางก็ทิ้งพิรุธเอาไว้เพียบพาบ เดนิเรลจ้องมองไปด้วยสายตาแคลงใจ
“ใครโทรมาหรือดานีน…”
มุนินสาวสวยหวานผู้เป็นพี่เอ่ยถามขึ้นเมื่อน้องสาวของตัวเองทันที เมื่อเจ้าหล่อนเดินเข้ามากระแทกตัวลงนั่งบนที่นอนแรงๆ ทำราวกับว่าไม่กลัวก้นระบมยังไงยังงั้น
“คนเถื่อนน่ะพี่นิน อย่าไปเสวนาด้วยเลย…”
เจ้าของชื่อตอบเสียงสะบัด ใบหน้าผ่องใสจนเห็นเส้นเลือดฝาดงอง้ำ ผู้เป็นพี่สาวเห็นแล้วก็อดระบายยิ้มออกมาไม่ได้ เพราะหากน้องสาวแสดงท่าทางแบบนี้ออกมาล่ะก็ คนที่โทรมาคงไม่พ้นเดนิเรล
“แต่น้องดาก็เสวนากับเขามาจนหน้าบูดหน้าบึ้งไม่ใช่หรือ”
“ไม่จริงอ่ะ อย่ามาล้อดาแบบนี้นะ ดาก็แค่ไม่อยากให้พี่นินยุ่งกับผู้ชายที่เห็นผู้หญิงเป็นอาหารหวานจ้องแต่จะสวาปามอย่างเดียว พอกินก็จ่ายเงินแล้วทุกอย่างก็จบแบบนายนั่นนี่”
“แต่เขาหล่อ แล้วก็รวย… แถมยังมีเสน่ห์มากด้วย”