บทที่ 170 เราทำได้ !
ม่านพลังแปดชั้นของรูปแบบแปดอสูรก็กระจายไปจากการระเบิดของผลึกอสูรสีฟ้า
พลังของผลึกอสูรอื่น ๆอีก 7 ก็ลดลงอย่างมากด้วยการระเบิดของผลึกอสูรสีฟ้า แสงม่านพลังค่อยๆจางลงและหายไป
เมื่อเห็นรูปแบบแปดอสูรหายไป ฉื่อหยานก็ว่ายเข้าไปจับไข่มุกรวมวิญญานอย่างไม่ลังเล
” เดี๋ยวก่อน ! ” จู้ๆเปลวเหมันเยือกแข็งก็พูดดังขึ้นจากในแหวนสายโลหิต
ฉื่อหยาน ก็ตกใจเล็กน้อย และหยุดมือกลางทาง
จู่ๆ วิญญานที่ดุร้ายจำนวนมาก ก็ลอยลงมาจากทั่วบ่อรวมวิญญาน , เป็นรูปแบบของเส้นแสงสีดำนับร้อย เข้าไปในไข่มุกรวมวิญญาน
” ไข่มุกรวมวิญญานจะอ่อนแอที่สุดก็ต่อเมื่อกำลังดูดกลืนวิญญาน ตอนนี้แหละ , ไปเลย ! และอย่าลืมใช้วิญญานปลอมของเจ้าเพื่อรับมือกับการดูดกลืนวิญญานด้วยหละ ! ” เปลวเหมันเยือกแข็งสั่ง ” จำไว้ ! เมื่อเจ้าสัมพัสไปที่ไข่มุกรวมวิญญาน อย่าลืมเรียกวิญญานปลอมออกมา ! ! ! ! เมื่อเจ้าสัมพัสมันได้แล้ว ไข่มุกรวมวิญญานก็จะไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้อีกต่อไป ! “
” บัดซบ ! จะให้ข้าเรียกใช้ตอนนี้ ในน้ำเช่นนี้นะรึ ! “
” ข้าจะใช้น้ำแข็งสร้างสิ่งกีดขวางเพื่อแช่แข็งน้ำไม่ให้ทำอะไรเจ้าเมื่อเจ้าสัมพัสไปที่ไข่มุก “
” ตกลง ! “
หลังจากการสื่อสารกันสั้นๆกับเปลวเหมันเยือกแข็ง ฉื่อหยานก็ว่ายไปที่ไข่มุกรวมวิญญานและจับไปที่มันทันที
พลังวิญญาณจำนวนมากโจมตีไปที่วิญญานของฉื่อหยานเหมือนกับคมดาบมากมาย มันพุ่งออกมาจากไข่มุก !
พลังวิญญาณในไข่มุกทะลักออกมา พวกมันพยายามโจมตีไปที่ฉื่อหยานที่สัมพัสกับไข่มุกอยู่ พวกมันแล่นไปตามแขนของฉื่อหยานและพุ่งเข้าไปในจิตใจ
ช่วงเวลาที่สําคัญนี้ ฉื่อหยานก็ทำจิตใจให้ว่างเปล่าโดยไม่คิดสิ่งใด
วิญญานปลอมปรากฏขึ้นมาในจิตใจของเขา ตอนนั้นเอง มันก็เริ่มส่งผลกระทบ และปล่อยความเกลียดชังที่รุนแรงออกมา !
วิญญานนับล้านนับพันไหลออกมาจากไข่มุกรวมวิญญาน ทันทีที่พวกมันพบเป้าหมาย พวกมันก็โจมตีไปที่วิญญานปลอมที่อยู่ในจิตใจของฉื่อหยาน
ฉื่อหยานรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้นในจิตใจของเขา : ภาพลวงตาที่ถูกสร้างโดยจิตวิญญานปลอมก็ถูกทำลายภายใต้การโจมตีของวิญญาณจากไข่มุกรวมวิญญานและฉื่อหยานก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับถูกฆ่าไปแล้วนับร้อยครั้ง
สักพัก ฉื่อหยาน จิตใจก็ว่างเปล่า ด้วยเป็นจิตวิญญานปลอมที่ถูกทำลายไป ทำให้เขารอดตาย อีกครั้ง และอีกครั้ง วิญญานแท้จริงของเขาก็ออกมาและเขาก็หมดสติลง
” ซูม ! “
ขณะนั้นเองก็มีความหนาวเย็นส่งออกมาจากเปลวเหมันเยือกแข็งที่อยู่ในแหวนสายโลหิต
ฉื่อหยานก็ลืมตาขึ้นทันที และพบว่า น้ำรอบๆตัวเขาถูกแช่แข็ง ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว
โดยไม่ลังเล ฉื่อหยานยืนมือไปคว้าไข่มุกรวมวิญญานเข้ามาในมือของเขา
ปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้น !
ทันทีที่สัมพัส ก็เกิดเป็นชั้นแสงบางๆขึ้นรอบๆไข่มุก , ครอบคลุม 1ใน5 ของพื้นผิวไข่มุก
” ฟาดไปที่มัน ! แต่อย่าผนึกมันจนสมบูรณ์ ! ” เปลวเหมันเยือกแข็งกระตุ้นอีกครั้ง
โดยไม่ลังเล ฉื่อหยานฟาดไปที่ไข่มุกอีกสองครั้ง และชั้นแสงบางๆก็เกิดขึ้นรอบๆไข่มุก ตอนนี้มันครอบคลุม 3ใน 5 ของไข่มุกแล้ว
หลังจากฟาดไปสองครั้ง ฉื่อหยานก็คิดว่ามันไม่เพียงพอ และเขาก็กำลังจะฟาดอีกครั้ง
” พอ ! ไม่งั้น เมื่อม่านแสงบางๆครอบคลุมพื้นผิวทั้งหมดของไข่มุก พลังของไข่มุกรวมวิญญานจะถูกผนึกชั่วคราว ! ” เปลวเหมันเยือกแข็ง เตือน ฉื่อหยาน เพื่อให้เขาหยุด
ฉื่อหยานหยุดและจ้องมองไปมราไข่มุกรวมวิญญานที่อยู่ในมือของเขา
พลังในการดูดวิญญานที่รวมอยู่ในไข่มุกไหลออกมา 2 ใน 5 เพราะว่าส่วนนั้นของไข่มุกยังไม่ถูกปกคลุมด้วยม่านแสงบางๆ
วิญญานที่ดุร้ายจำนวนมากถูกดูดเข้ามาและรวมกันอยู่ในไข่มุกรวมวิญญาน
วิญญาณที่ลอยอยู่ในน้ำถูกดูดขเามา น้ำที่แต่เดิมเป็นสีดำเหมือนกับหมึก ก็กลายเป็นชัดเจนและชัดเจนขึ้น หลังจากวิญญานถูกดูดเข้าไปในไข่มุกรวมวิญญาน บ่อน้ำก็กลับคืนสู่สภาพปกติ
ด้วยเหตุนนั้น , รอยแตกก็ได้ปรากฏึ้นบนกระจกวิญญาณ โดยปราศจากวิญญานนับหมื่น กระจกก็กำลังจะทะลายลง
” อีกไม่นาน วิญญานทุกดวงจะถูกเข้่ามาในไข่มึก และกระจกก็จะหายไป ” เปลวเหมันเยือกแข็งตื่นเต้น , ” มีเพียงข้าเท่านั้นที่รู้วิธีการผนึกไข่มุกรวมวิญญาน ถ้าใครหยดเลือดบนไข่มุก มันจะถูกฆ่าโดยไม่เหลือร่องรอยของวิญญาน ไข่มุกรวมวิญญานแตกต่างจากสมบัติปกติใด ๆ ไม่สามารถเป็นเจ้าของมันได้ด้วยเลือด มันจะถูกผนึกก็ต่อเมื่อถูกฟาดเท่านั้น ทุกครั้งที่เจ้าต้องการใช้มันเจ้าก็แค่นำส่วนหนึ่งของม่านพลังบางๆออก “
ฉื่อหยานถือไข่มุกรวมวิญญานไว้และวิญญานทั้งหลานก็ถูกดูดเข้ามาในไข่มึก . ทุกอย่างเป็นไปตามแผน และเปลวเหมันเยือกแข็งเองก็ดูเหมือนจะตื่นเต้น
ฉื่อหยานรู้สึกโล่งใจและเขาก็เก็บรวบรวมผนึกอสูรอีกเจ็ดอัน ที่ใช้สร้างรูปแบบแปดอสูร หลังจากนั้นเขาก็เริ่มว่ายไปยังพื้นผิวของบ่อน้ำ
เหนือท้องฟ้าบนเกาะเมฆา
ในเมฆอสูรที่หนาแน่น วิญญานของอสูรได้ต่อสู้กับโม่ต้วนหุนอยู่หลายครั้ง แต่มันก็ไม่สามารถทำลายวิญญานของโม่ต้วนหุนได้เลย และตอนนี้เอง , มันได้รับข้อความจาก กู่ลี
โมจิโต้ก็ไปจากโม่ต้วนหุนด้วยความกลัวและพุ่งไปยังหุบเขาที่มีบ่อรวมวิญญานตั้งอยู่
หลังจากที่ส่งข้อความไปแล้ว กู่ลีก็ไม่ กล้า ที่จะอยู่ในหุบเขาอีกต่อไปและไปซ่อนอยู่ที่มุมหนึ่งของเกาะพร้อมกับกู่เจียงเกอ ด้วยความกลัวว่าจะถูกเปลวเหมันเยือกแข็งโจมตี
ทั้งกู่ลี และกู่เจียงเกอ รู้ถึงพลังที่น่ากลัวของเปลวเหมันเยือกแข็งดี โดยเฉพาะตอนนี้เปลวไฟนภานี่ได้มีร่างกานแล้ว; มันจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุดในโลก
ทั้งกู่ลี และ กู่เจียงเกอ นั้นก่อนหน้านี้คิดว่าเปลวเหมันเยือกแข็งได้ยึดร่างของฉื่อหยานแล้ว แต่หลังจากที่พวกมันได้รู้ว่าฉื่อหยานสามารถใช้พลังความเย็นจากเปลวเหมันเยือกแข็งได้ โดยพวกมันนั้นคิดไม่ถึงว่าฉื่อหยานจะควบคุมเปลวเหมันเยือกแข็งได้ด้วยแหวนสายโลหิต ด้วยจำสำนึกของมันถูกผนึกอยู่ พลังที่มันปล่อยออกมาจึงมีจำกัด
ถ้ามันไม่ได้ถูกผนึกโดยแหวนสายโลหิต มันจะเป็นเรื่องง่ายมากที่พลังความเย็นของเปลวเหมันเยือกแข็งจะปิดผนึกเกาะเมฆา แต่ตอนนี้มันแช่แข็งได้แค่หุบเขาเท่านั้น เพราะพลังของมันอ่อนแอลง
กู่ลี กู่เจียงเกอ ต้องไม่รู้แน่นอนว่าเปลวเหมันถูกผนึกอยู่ พวกมันรู้เพียงความน่ากลัวของเปลวเหมันเยือกแข็ง และคิดว่าฉื่อหยานต้องตายแล้วแน่นอนจากนั้นก็ถูกเปลวเหมันเยือกแข็งยึดร่างไป แต่มาตอนนี้พวกมันกลับเห็นฉื่อหยาน ที่กล้ากระโดดลงไปในบ่อรวมวิญญาน
ทั้งสองนั้นรู้จักและรู้ถึงความน่ากลัวของบ่อวิญญานดี ถ้าฉื่อหยานเป็นเพียงนักรบในระดับหายนะธรรมดา มีหรือจะกล้ากระโดดลงไปในสระ
กู่ลี กู่เจียงเกอ เลือกที่จะหลบซ่อนและ รอปรมจารย์อสูรโมจิโต้มาช่วย
เหนือเกาะเมฆา โม่ต้วนหุน ใบหน้าซีดเซียวขณะ ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า เขาปล่อยพลังวิญญาณของเขาเพื่อสำรวจไปรอบๆ
เปลวเหมันเยือกแข็งได้แช่แข็งหุบเขา และวิญญานของปรมจารย์อสูรโมจิโต้ก็ได้มุ่งหน้าไปที่หุบเขานั่น โม่ต้วนหุน แน่นอนก็ได้ปล่อยพลังวิญญาณของเขาไปที่หุบเขา เมื่อเขารู้สึกได้ถึงพลังความเย็น เขาก็นึกถึงเรื่องที่เซี่ยซินหยาน เคยบอกกับเขา
ทันทีที่เขารู้ได้ว่า ฉื่อหยานต้องอยู่ในหุบเขาแน่นอน !
ฉื่อหยานถูกลากเข้าไปบ่อน้ำลึกโดยเปลวเหมันเยือกแข็ง พลังความเย็นที่รุนแรงนี่จะต้องเป็นของเปลวเหมันเยือกแข็งแน่นอน ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ โม่ต้วยหุนรู้ว่าฉื่อหยานนั้น ยังไม่ตาย และจะปรากฏตัวบนเกาะเมฆา หยางชิงตี้ได้พยากรณ์ไว้เช่นนั้น จากนั้น หากวิเคราะห์เรื่องเหล่านี้ทั้งหมด โม่ต้วนหุนก็แน่ใจแล้วว่าฉื่อหยานต้องอยู่ในหุบเขาแน่นอน
โม่ต้วนหุนก็สีหน้าก็ซับซ้อน ลอยอยู่บนท้องฟ้า ความคิดมากมายอยู่ในใจของเขา
” คนๆนั้นจะเป็นหัวหน้าของตระกูลหยางในอนาคต ! ไม่ว่ายังไง เจ้าก็ต้องพาฉื่อหยานกลับมาที่เกาะอมตะอย่างปลอดภัยให้ได้ “
เป็นคำพูดของหยางชิงตี้ที่ดังก้องอยู่ในหัวของโม่ต้วนหุน หลังจากลังเลช่วงเวลาสั้น ๆเขาก็กลายเป็นแสงสีเขียวพุ่งไปยังหุบเขา
นักรบทั้งหมดที่อยู่ในเหมืองทั้งสามของตระกูกู่ก็ถูกฆ่าตายทั้งหมดด้วยฝีมือของ นักรบชูร่า เซี่ยซินหยาน และเหอซิงเหมิน .
ตอนนี้ นักรบชูร่าและราชสีห์ก็ยังบินอยู่บนท้องฟ้าเพื่อหา กู่ลีและ กู่เจียงเกอ ที่อยู่บนเกาะเมฆา
” แปลกนัก ! ” เซี่ยซินหยานก็ร้องออกมา “ทำไม ปรมจารย์อสูรโมจิโต้และท่านโม่ ทั้งสองคนถึงได้มุ่งไปยังหุบเขากัน ! “
เหอซิงเหมินลดหัวของนางมองเข้าไปในทิศทางของหุบเขา นางก็พบเหตุการณ์ประหลาด ” เกิดอะไรขึ้นกัน ปรมจารย์อสูรโมจิโต้นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ทำไมถึงมุ่งไปยังหุบเขาขณะที่สู้อยู่ และก็ท่านโม่ ทำไมเขาถึงไม่ออกจากเกาะเมฆา แต่กลับตามโมจิโต้ไป? “
” ตราบใดที่อาจารย์โม่ยังไม่ได้ใช้พลังของเขาเพื่อทำลายอสูรเพลิงที่ปิดผนึกเกาะเมฆาอยู่ เราก็ไม่สามารถออกจากเกาะได้ ” เซี่ยซินหยาน รู้สึกเสียใจและเข้า ไปใกล้ๆ เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่
” ดีละ ! ” เหอซิงเหมินกระแทกขาและราชสีห์วายุอัศนีก็รู้ทันที และมันก็บินไปยังหุบเขา
” หนาวจังเลย ! ” หลังจากนั้นไม่กี่นาที ‘ ช่วยไม่ได้ที่เหอซิงเหมินร่างกายจะสั่น ” เกิดอะไรขึ้น ทำไมหุบเขาถึงได้หนาวเย็นเช่นนี้ ? ท่านรู้หรือไม่พี่ซินหยาน ? “
เซี่ยซินหยาน ก็สั่นเช่นนกันและน้ำตาก็กำลังเอ่อล้นอยู่ในดวงตาของนาง นางพูดด้วยเสียงสะอื้น ” นั่น ! นั่นเขา เขาอยู่ในหุบเขา ! “
” ใครรึ ? ” เหอซิงเหมินตอนแรกก็สับสน และสักพักก็รู้แล้วว่า ใครกันที่นางพูดถึง ” ท่านหมายถึงฉื่อหยานงั้นรึ ? “
” ใช่ ต้องเป็นเขาแน่ๆ ! ” เซี่ยซินหยาน พยักหน้าอย่างมั่นใจ ยิ้มพร้อมกับร้องไห้ ” เขาเป็นชายที่ถูกฉุดลงไปในหลุมที่เปลวเหมันเยือกแข็งอาศัยอยู่ และ พลังความเย็นในหุบเขานี้ก็ชัดเจนว่าเป็นพลังของเปลวเหมันเยือกแข็ง ถ้าเปลวเหมันเยือกแข็งอยู่ที่นี่ เขาก็ต้องอยู่ที่นั่นด้วย “
” ถ้าเปลวเหมันเยือกแข็งอยู่ เขาก็อาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ ! ” เหอซิงเหมินรู้สึกประหลาดใจ หลังจากคิดอีกที นางก็กล่าวด้วยสีหน้าแปลกๆ” แต่ถ้าวิญญาณของเขาถูกควบคุมโดยเปลวเหมันเยือกแข็งไปแล้ว แต่ร่างกายของเขายังอยู่ . . . . . . . ก็เท่าเขายังไม่ตาย บางที หัวหน้าตระกูลหยางอาจจะหมายถึงเขายังมีชีวิตอยู่ แน่นั่นก็อาจจะไม่ใช่เขาก็ได้ “
ร่างของเซี่ยซินหยาน ก็สั่นสะท้าน นางจ้องไปที่นางด้วยความโกรธ ” ซิงเหมิน , หยุดพูดเช่นนี้เสียที ! มันไม่น่าขันเลยสักนิด ! “
เหอซิงเหมินก็แปลกใจ นางรู้ได้ทันทีว่า เซี่ยซินหยานนั่นโกรธแล้วจริงๆ นางปิดปากและไม่กล้าพูดอะไรอีก
นางถอนหายใจอย่างเงียบๆ ด้วยความเย็นนี่เห็นได้ชัดว่าเปลวเหมันเยือกแข็งตอนนี้ต้องอยู่ที่นี่แน่นอน เช่นนั้นแล้วนักรบในระดับหายนะเช่นฉื่อหยานจะรอดได้อย่างไร
ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ วิญญานของเขาก็คงถูกยึดครองไปแล้ว
––––––––––––––––––––––––
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 11 แล้ว มีถึงตอนที่ 440 แล้วจ้า ท่านใดสนใจเข้าร่วมกลุ่มอ่านเงือนไขได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยครับ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ