หานลี่ย่อมไม่รู้ฉากที่เกิดขึ้นในส่วนลึกของวังธรณี แต่หลังจากที่ไม่รู้สึกประหลาดๆ ก็อดที่จะวางใจขึ้นสองสามส่วนไม่ได้
ยามนี้พวกเขาสี่คนเดินออกมาจากสวนดอกไม้ มาถึงจัตุรัสเล็กๆ ที่ดูธรรมดาๆ แห่งหนึ่ง
ตรงข้ามจัตุรัสมีตำหนักขนาดสองสามหมู่ตั้งตระหง่านอยู่ ดูแล้วเงียบสงัด ไม่มีสุ้มเสียงเลยสักนิด
“แปลกจัง จิตสัมผัสไม่อาจเข้าไปได้ หรือว่ากระตุ้นเขตอาคมนี้ไม่ได้” ลี่ว์สือเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ไม่ใช่ว่าเขตอาคมไม่มีผล แต่เป็นเพราะตำหนักหลังนี้ใช้วัตถุดิบพิเศษจากแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราสร้างขึ้น นี่เป็นวัตถุดิบที่เรียกว่า ‘ทรายแม่น้ำยมโลก’ มีสรรพคุณในการกั้นจิตสัมผัส สหายลี่ว์สือไม่อาจตรวจสอบด้านในได้ ย่อมไม่แปลกเลยสักนิด” เป่าฮวาที่อยู่ด้านข้างพิจารณาตำหนักสองแวบ กลับหัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยขึ้น
“ไม่ถูก ที่นี่ดูเหมือนจะมีกลิ่นอายของแมลงพิษ!”
บรรพชนลี่ว์สือกลับไม่ได้วางใจเพราะคำพูดของเซี่ยเหลียน กลับย่นจมูกสองครั้ง หน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมแล้วเอ่ย ในเวลาเดียวกันมือหนึ่งก็ตะปบไปกลางอากาศ ไอสีเขียวพันรัดดาสั้นแล้วปรากฏขึ้นอย่างเงียบเชียบ
“กลิ่นอายแมลงพิษ! สหายลี่ว์สือไม่มีทางเข้าใจผิด” เซี่ยเหลียนได้ยินพลันตกตะลึง แล้วใช้นิ้ววาดไปด้านหน้า วงแหวนทรงกลมสีเงินอ่อนเปล่งแสงสว่างวาบแล้วปรากฏขึ้น
“หึ ตาเฒ่าฝึกฝนวิธีร้อยชีวิตไม่เหลวไหล ขอแค่ตั้งใจแม้ว่าจะเป็นมนุษย์ที่อยู่ห่างออกไปยี่สิบสามสิบลี้ก็แยกแยะกลิ่นอายได้อย่างชัดเจน ยามนี้ก็นับว่าได้อันใดแล้ว!” บรรพชนลี่ว์สือแค่นเสียงหึ แล้วเอ่ยอย่างมั่นใจมาก
หานลี่ได้ยินก็ขมวดคิ้วมองไปยังตำหนักที่อยู่ตรงข้ามชั่วครู่ ฉับพลันนั้นก็ร่ายมือทั้งสองข้าง แล้วชูขึ้นอีกครั้ง
เสียงฟ้าผ่า “เปรี้ยง” ดังขึ้นสองครั้ง ประจุไฟฟ้าสีทองสองสายดีดตัวออกมา จากนั้นพลันหมุนวน กลายเป็นงูเหลือมสีทองยาวสิบจั้งเศษ เปล่งแสงสว่างวาบแล้วกระโจนเข้าไปประตูในตำหนัก
พริบตานั้นในตำหนักก็มีเสียงฟ้าร้องดังขึ้น มองเห็นสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดออกลางๆ
“อัสนีหลีกหนี!” เซี่ยเหลียนเห็นสายฟ้าสีทองมีท่าทีน่าตกตะลึงก็อดที่จะหน้าเปลี่ยนสีไม่ได้
แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วอัสนีเทวาปัดเป่าภยันตรายจำไม่มีผลควบคุมบรรพชนศักดิ์สิทธิ์เผ่ามารอย่างพวกนางนัก แต่หากออกมาจากหานลี่ที่เป็นสิ่งมีชีวิตในระดับเดียวกัน ย่อมมีผลไม่น้อย
และในยามนี้ท่ามกลางเสียงอัสนีในตำหนักก็มีเสียงกรีดร้องแหลมสูงดังขึ้น จากนั้นเสียง “พรึ่บๆ” ก็ดังขึ้น เงาสีดำห้าดวงเปล่งแสงสว่างวาบพุ่งออกมา เปล่งแสงสว่างวาบแล้วเรียงตัวกันร่อนลงมาเหนือจัตุรัสขนาดย่อม เผชิญหน้ากับหานลี่และสิ่งมีชีวิตระดับมหายานสองสามคนพอดี
“เป็นแมลงพิษเหล่านั้นจริงๆ ด้วย!” ลี่ว์สือมองเห็นโฉมหน้าเงาสีดำเหล่านั้นอย่างชัดเจน ก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นเยียบ
เงาสีดำห้าดวงคือแมลงยักษ์หน้าคนตัวเป็นแมลงห้าตัว ทุกตัวล้วนมีความสูงสามสี่จั้ง บนคอยาวบางมีใบหน้าของบุรุษอัปลักษณ์ปรากฏอยู่
และแขนหน้าของพวกมันก็กุมอาวุธที่เหมือนกับกระบองหนาๆ เอาไว้
ทว่านอกจากแมลงหน้าคนตัวใหญ่สุดที่ยืนอยู่ตรงกลางแล้ว เกราะเป็นสีฟ้าอ่อน อีกสองตัวล้วนมีร่างกายสีดำ คล้ายกับซากแมลงหน้าคนที่หานลี่และพวกเห็นมาก่อนหน้า
แมลงหน้าคนสีฟ้าที่เป็นผู้นำเห็นหานลี่และพวกทั้งสี่ ใบหน้าพลันเผยสีหน้าโหดเหี้ยมออกมา และพ่นคำพูดมนุษย์ออกมาพลางหัวเราะประหลาดๆ ออกมา
“คิกๆ…เยี่ยมจริงๆ…คาดไม่ถึงว่าจะเป็นชนต่างเผ่า…และกินเลือดเนื้อเป็นอาหาร…คิกๆ…”
“ใช่แล้ว…คิดถึงรสชาติโลหิตจริงๆ…ครั้งที่แล้วที่กินไปก็นานมากแล้ว…คิกๆ…”
แมลงหน้าคนตัวอื่นๆ เผยก็เผยสีหน้าละโมบออกมา
หานลี่และคนอื่นๆ ย่อมมองเห็นแมลงหน้าคนเหล่านั้นอย่างชัดเจน
เซี่ยเหลียนได้ยินพลันมีสีหน้าเคร่งขรึม มือหนึ่งชี้ไปกลางอากาศ วงแหวนสีเงินสามวงตรงหน้าส่งเสียงอึกทึกท่ามกลางลำแสงเจิดจ้า
หานลี่มองแมลงหน้าคนห้าตัวแล้วกลับเอ่ยกับเซี่ยเหลียนและลี่ว์สือด้วยรอยยิ้ม
“คาดไม่ถึงว่าจะพบถึงห้าตัว นี่กล่าวได้ว่าทั้งไม่นับว่าดีมาก และไม่นับว่าแย่มากกระมัง ข้าและพี่เซี่ยต่อกรกับสามตัวนี้ ที่เหลืออีกสองตัวก็มอบให้สหายทั้งสอง น่าจะไม่มีปัญหาสินะ”
“ไม่มีปัญหาแน่นอน สหายเซี่ยและพี่หานไม่ใช่ระดับมหายานทั่วๆ ไป ก็นับว่ารบกวนแล้ว” เซี่ยเหลียนหัวเราะหึๆ แล้วตอบรับ
บรรพชนลี่ว์สือย่อมไม่คัดค้าน โบกใบมีดสั้นในมือ ชั่วขณะนั้นไอสีเขียวพลันม้วนวนกลายเป็นมังกรวารี กระโจนไปยังแมลงหน้าคนอีกคน
แมลงหน้าคนตัวนั้นเห็นเช่นนั้นกลับไม่หวาดกลัวเลยสักนิด หลังจากอ้าปากออกก็พ่นไอสีเทาขาวออกมา
เสียงอึกทึกดังขึ้น!
ไอสองกลุ่มปะทะกัน แล้วหมุนวนทันที พลางพุ่งไปยังที่สูง ราวกับว่ามังกรวารีสีเขียวและเทาสองตัวกำลังกัดทึ้งกันไปมาไม่หยุด
วงแหวนสีเงินสามวงตรงหน้าเซี่ยเหลียนเปล่งแสงสว่างวาบ แล้วหายไปติดๆ
ครู่ต่อมาเหนือแมลงยักษ์อีกตัวพลันมีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น วงแหวนสีเงินสามวงเลือนรางแล้วปรากฏขึ้น พลางร่อนลงมาด้านล่างอย่างรุนแรง
ใบหน้าของแมลงหน้าคนด้านล่างพลันเผยสีหน้าโหดเหี้ยมออกมา แค่โบกกระบองหนาๆ สองกระบองที่กุมไว้ในมือไปมา ชั่วขณะนั้นบรรยากาศรอบๆ ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น พลังมหาศาลสีขาวสองกลุ่มปะทะเข้ากับวงแหวนสีเงินสามวงราวกับคลื่นโหมกระหน่ำ
ลำแสงของวงแหวนสีเงินสามวงพลิ้วไหว คาดไม่ถึงว่ายามนั้นจะถูกต้านทานจนไม่อาจร่อนลงมาได้
แมลงหน้าคนสีฟ้าที่อยู่ตรงกลางเห็นเช่นนั้น ปากก็หัวเราะประหลาดๆ ออกมาอีกครั้ง สะบัดกระบองสีดำในมือเช่นกัน ขาหลังที่ยืนอยู่พลันขยับ ร่างทั้งร่างเลือนรางจมหายไปกลางอากาศ
นักพรตเซี่ยเห็นเช่นนั้นแววตาพลันเปล่งประกาย เอ่ยอย่างราบเรียบว่า ‘มอบให้ข้า’ ผิวมีสายฟ้าสีเงินปรากฏขึ้นแล้วเสียงฟ้าผ่าพลันดังขึ้นพลางสลายหายไป
ครู่ต่อมากลางอากาศพลันมีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้น นักพรตเซี่ยและแมลงยักษ์สีฟ้าพลันปรากฏตัวขึ้นจากอากาศที่สั่นเทาท่ามกลางระเบิดดังสนั่น
นักพรตเซี่ยตะปบมือไปกลางอากาศโดยไม่ปริปาก ประจุไฟฟ้าสีเงินพันรัดรวมตัวกัน กลายเป็นใบมีดยักษ์สีเงินระยิบระยับสองเล่ม จากนั้นร่างกายก็ขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดสิบจั้งเศษ แล้วสาวเท้าไปด้านหน้าพร้อมกับเสียงอึกทึกแล้วสับลงไปที่ศีรษะของแมลงยักษ์ที่พุ่งเข้ามา
แมลงยักษ์สีฟ้าส่งเสียงร้อง ร่างกายพลิ้วไหวใหญ่ขึ้นสองสามเท่า มือโบกกระบองยักษ์ พุ่งเข้ามาอย่างไร้ซึ่งความหวาดกลัว
เสียงอึกทึกราวกับฟ้าดินกำลังถล่มทลายดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองล้วนไม่หลบหลีก เผชิญหน้ากับการโจมตีด้วยใบมีดที่กำลังร่ายรำมา
ใบหน้าของนักพรตเซี่ยไร้ซึ่งความรู้สึก แต่มือกลับโบกใบมีดสีเงินคู่หนึ่ง ราวกับกรงล้อสีเงินสองกรงวนล้อมรอบศัตรูไปมา
แมลงยักษ์หน้าคนสีฟ้ากลับหัวเราะเสียงประหลาดไม่หยุด กระบองยักษ์สีดำในมือกลายเป็นไอสีดำหนาๆ สายหนึ่งพันรอบตัวของเขาไปมา ใบหน้าอัปลักษณ์คล้ายกับจะบ้าคลั่ง
ทั้งสองในยามนี้กลับแยกความสูงต่ำไม่ออก
ยามนี้แผ่นหลังของเซี่ยเหลียนพลันมีเงาลวงตาดอกไม้สีเขียวยักษ์ปรากฏขึ้น แค่กะพริบวาบสองสามครั้ง ก็กลายเป็นใบมีดลำแสงสีเขียวนับพันสาย ภายใต้การกระตุ้นก็กลายเป็นทะเลใบมีดม้วนวนไปยังแมลงยักษ์ฝั่งตรงข้าม
และบรรพชนลี่ว์สือพลันมีตราประทับยักษ์สีทองเรืองรองเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็สุดจะรู้ได้ มือหนึ่งชี้นิ้วไป ตราประทับยักษ์กลายเป็นภูเขาสีทองทับไปที่คู่ต่อสู้ของตนเองไม่หยุด
แม้ว่าแมลงยักษ์หน้าคนที่มันเผชิญจะมีร่างกายแข็งแกร่ง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่าตกตะลึงนี้ ก็ทำได้เพียงหลบหลีกอย่างต่อเนื่องเท่านั้นไม่กล้าตั้งรับตรงๆ
หานลี่เห็นสองคนนี้สำแดงอิทธิฤทธิ์พันรัดแมลงหน้าคนสองตัว ทันใดนั้นสายตาก็กวาดไปยังแมลงหน้าคนสองตัวที่เหลืออยู่
แมลงสองตัวสุดท้ายเผยสีหน้าลังเลออกมา เห็นได้ชัดว่ายังคิดไม่ออกว่าจะช่วยสนับสนุนสหายก่อนหรือว่าต่อกรกับศัตรูตรงหน้าก่อน
หานลี่เห็นเช่นนั้นพลันหัวเราะน้อยๆ ออกมาไม่ได้พูดจา มือหนึ่งร่ายอาคม อักขระสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนบินออกมา
แต่เสียงฟ้าร้องพลันดังขึ้น อักขระยันต์กลายเป็นประจุไฟฟ้าเจิดจ้าสีทอง ห่อหุ้มเรือนร่างของหานลี่ไว้
แต่อาคมในมือหนึ่งของเขาพลันเปลี่ยนไป มือหนึ่งตะปบไปกลางอากาศอย่างรวดเร็ว
ประจุไฟฟ้าสีทองทั้งหมดพันรัดรวมตัวอยู่ใจกลางฝ่ามือของเขา คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นลูกบอลอัสนีสีทองเรืองรองในพริบตา ใจกลางฝ่ามือของเขามีเสียงอึกทึกดังขึ้นไม่หยุด และแผ่กลิ่นอายที่น่ากลัวยิ่งออกมา
แมลงหน้าคนสองตัวเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็สัมผัสได้พลังคุกคามของหานลี่ แทบจะในเวลาเดียวกันก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น ปีกที่แผ่นหลังของทั้งสองกระพือ คาดไม่ถึงว่าจะกระโจนมาหาหานลี่พร้อมกับเงาที่ไม่สมบูรณ์
แมลงหนึ่งในนั้นอ้าปาก พ่นของเหลวสีดำที่มีกลิ่นคละคลุ้งออกมา
แมลงอีกตัวกลับร่ายมือทั้งสอง กระบองหนาๆ สองกระบองในมือส่งเสียงกรีดร้อง คาดไม่ถึงว่าจะหลุดมือแล้วทุบไปทางหานลี่
กระบองยังไม่ทันได้ตกลงมาจริงๆ พายุน่ารังเกียจสองกลุ่มที่แทบจะหายใจไม่ออกพลันโชยมา
หานลี่พลันเลิกคิ้ว ยักไหล่ทั้งสองเบาๆ ร่างทั้งร่างกลายเป็นลำแสงวิญญาณสลายหายไปราวกับฟองสบู่
กระบองหนาๆ ทั้งสองและของเหลวสีดำร่วงลงมาจากบนท้องฟ้า!
แต่แมลงยักษ์สองตัวเองก็มีสติสัมปชัญญะ เมื่อเห็นฉากนี้ ทันใดนั้นปีกที่แผ่นหลังก็กระพือ ร่างเลือนรางหายไปจากกลางอากาศเช่นกัน
ครู่ต่อมาสองฝั่งของจัตุรัสก็มีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น แมลงยักษ์สองตัวพลันปรากฏออกมาอย่างเงียบเชียบ
ฉากที่แปลกประหลาดยิ่งกว่าพลันปรากฏขึ้น
จุดที่หานลี่หายไปมีลำแสงสีเขียวรวมตัวกัน เงาร่างคนสายหนึ่งปรากฏขึ้นอีกครั้งลางๆ
เมื่อครู่หานลี่ไม่ได้ไปจากที่นี่จริงๆ แค่สำแดงวิชาลวงตา ปิดบังแมลงสองตัวนั้นได้อย่างง่ายดาย
แมลงยักษ์สองตัวเห็นฉากนี้ก็รู้ว่าแย่แล้ว ทันใดนั้นก็ร้องคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว แล้วกระโจนมาหาหานลี่อีกครั้ง
แต่ยามนี้หานลี่พลันกระตุ้นอาคม โยนลูกบอลอัสนีในมือไปกลางอากาศ
ลำแสงสีทองเปล่งแสงสว่างวาบ ลูกบอลอัสนีจมหายไปกลางอากาศอย่างไร้ร่องรอย แต่เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นพลันดังมา
อักขระยันต์สีทองจำนวนนับไม่ถ้วนแผ่ออกมาจากกลางอากาศ เสาอัสนีสีทองหนาเท่าถังน้ำเปล่งแสงสว่างวาบ โจมตีไปที่แมลงหน้าคนตัวนั้นอย่างแม่นยำ
นั่นก็คือเคล็ดลับวิชาบวงสรวงอัสนีที่หานลี่เพิ่งเรียนได้ไม่นาน!
เสียงกรีดร้องคร่ำครวญดังขึ้น!
แมลงพิษตัวนี้ส่งเสียง “ครืดๆ” ท่ามกลางลำแสงสีทองไม่ทันแม้กระทั่งจะดิ้นรนก็กลายเป็นผุยผงสลายหายไป
คาดไม่ถึงว่าเคล็ดวิชาบวงสรวงอัสนีจะร้ายกาจเพียงนี้ แม้แต่แมลงหน้าคนก็ยังไม่อาจต้านทานการโจมตีได้!
แมลงยักษ์อีกตัวเห็นเช่นนี้ก็ทั้งตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว ไม่รอให้ตนเองกระโจนมา ก็ส่งเสียงกรีดร้องแหลมสูงออกมา ระลอกคลื่นไร้รูปร่างกลุ่มหนึ่งม้วนมาทางหานลี่