เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] – ตอนที่ 126 กำไรสุทธิ

ตอนที่ 126 กำไรสุทธิ

แม้คำพูดนั้นเสียดแทงจ้าวเหวินเทาหนึ่งประโยค แต่ที่จริงแล้วก็เป็นการชื่นชมได้เหมือนกัน ออกมาทำค้าขาย ก็ต้องยอมเปิดหน้าตาถึงจะทำเงินได้ ได้เงินมาแล้ว หน้าตาที่เสียไปก็จะได้กลับคืนมา

สำหรับความพยายามนี้ เห็นได้ชัดว่าจ้าวเหวินเทาคือผู้มีฝีมือชั้นยอด

จางหมิงหยิบจอกเหล้าขึ้นแสดงท่าทางชนแก้วกับจ้าวเหวินเทา กล่าวด้วยรอยยิ้ม “งั้นพวกเราตกลงตามนี้นะ?”

อีกฝ่ายพอใจขนาดนี้ จ้าวเหวินเทาจะไม่มีความสุขได้อย่างไรกัน เขารีบใช้สองมือยกจอกเหล้า “ขอบคุณนะพี่จาง ผมขอดื่มหมดจอกเป็นการคารวะ!”

ส่วนเรื่องที่ถูกอีกฝ่ายพูดว่าเป็นคนหน้าหนา จ้าวเหวินเทาไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้

หน้าจะหนาหรือไม่ แล้วอย่างไรล่ะ?

เดินทางเข้ามาในตัวจังหวัดเที่ยวนี้เก็บเกี่ยวได้ไม่น้อยเลยจริง ๆ

สิ่งที่สำคัญที่สุดในทำการค้าขายคือแหล่งทรัพยากรและลู่ทางค้าขาย โดยเฉพาะลู่ทางค้าขายนี้สำคัญกว่าแหล่งทรัพยากรเสียอีก มีแหล่งทรัพยากรที่มั่นคงก็จะได้กำไรที่มั่นคง!

หลังรับประทานอาหารที่บ้านจางหมิงเสร็จแล้ว จ้าวเหวินเทาและเย่หมิงเป่ยก็รีบขับรถกลับ

“โชคของนายนี่หมดคำจะพูดจริง ๆ” เย่หมิงเป่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันกับจางหมิงไม่ได้ติดต่อกันนานมากแล้ว หลังจากเขากลับเมืองก็ไม่เจอกันอีกเลย ปกติก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้ามาในเมือง คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะได้มาเจอเขา”

จากนั้นก็เปิดช่องทางค้าขายผักใบเขียว จัดหาสวัสดิการให้หน่วยงาน ลดปัญหาได้มากกว่าขายแบบรายคนเยอะเลย

เขาไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี

จ้าวเหวินเทามีความสุข “พี่สาม หรือว่าพวกเราจะไปสถานีส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรในอำเภอดี? ลองดูว่าสามารถขายของที่นั่นได้หรือเปล่า ถึงยังไงตอนนี้ก็กลับบ้านดึกอยู่แล้ว”

“เอาสิ” เย่หมิงเป่ยไม่ได้มีความเห็นต่าง

ทั้งสองคนจึงขับรถมาถึงสถานีส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรในอำเภอ

จากนั้นทั้งสองคนก็มาค้างที่บ้านพี่สาวห้าจ้าวหนึ่งคืน

พี่สาวห้าจ้าวย่อมต้อนรับอยู่แล้ว ทั้งยังถามด้วยว่าพวกเขาไปทำอะไรกันมา?

จ้าวเหวินเทาก็ไม่ได้ปิดบังหล่อน

พี่สาวห้าจ้าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พวกนายสองคนถือว่าฉลาดเชียวนะ ตอนนี้ก็กำลังขาดแคลนของพวกนี้อยู่พอดีไม่ใช่เหรอ? พรุ่งนี้พวกนายก็ลองขับไปดู ของบนรถนั้นก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว”

พี่สาวห้าจ้าวพูดได้ไม่ผิดเลย เช้าวันรุ่งขึ้นจ้าวเหวินเทาและเย่หมิงเป่ยก็เดินทางมาถึงสถานีส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตร เพื่อถามว่ามีใครต้องการอุปกรณ์การเกษตรและเมล็ดพันธุ์หรือไม่?

ผลลัพธ์ที่ได้คือสถานีส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรยอมซื้อของเหล่านี้ไว้ ดูจากสีหน้านั้นของพวกเขา จ้าวเหวินเทาก็ทราบได้ว่าพวกเขาส่งของพวกนี้ได้เหมาะเจาะพอดี

นี่ก็ใกล้จะถึงช่วงเพาะปลูกฤดูใบไม้ผลิแล้ว ปีนี้แตกต่างจากทุกปี ตรงที่แบ่งที่นาให้ทำกันเองแล้ว ถึงจะไม่ใช่ทุกคนแต่ก็เกือบทั้งหมดต่างต้องจัดเตรียมอุปกรณ์การเกษตรนิดหน่อย เมล็ดพันธุ์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง กำลังขาดแคลนอย่างหนักเลยทีเดียว

พวกเขานำของเหล่านี้มาส่ง อันที่จริงนั้นยังไม่พอหรอก เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาความต้องการแบบเร่งด่วนก็เท่านั้น

ดังนั้นคนของสถานีส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรจึงพูดว่า อีกสองวันจะสามารถขนของพวกนี้มาอีกได้หรือไม่? โดยเฉพาะเมล็ดพันธุ์

จ้าวเหวินเทาย่อมแสดงออกว่าไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

นอกจากนี้เขายังแจกบุหรี่ที่เตรียมไว้อย่างดีที่หน้าประตูใหญ่ไปสองสามกล่อง แม้แต่ลุงที่เฝ้าประตูเขาก็คุ้นเคยแล้ว เขาไม่ได้ดูถูกคนเฝ้าประตูแม้แต่น้อย ทั้งยังเรียกลุงไม่ขาดปาก

ทำเอาลุงที่เฝ้าประตูถึงกับเอ่ยปากพูดว่าเจ้าเด็กคนนี้ไม่เลวเลย ครั้งหน้าถ้ามาลุงจะเปิดประตูให้นายเอง

งานนี้เย่หมิงเป่ยทำไม่ได้ ไม่เช่นนั้นตอนที่จางหมิงพูดว่าหนังหน้าของน้องเขยคนนี้ทำเอาคนอื่นตามไม่ทัน เย่หมิงเป่ยจะหัวเราะออกมาทำไมล่ะ

เป็นเพราะว่าต่อให้เป็นเขาวิ่งรถออกมาพร้อมกันขนาดนี้แล้ว แต่เขาก็ยังทำเหมือนกับน้องเขยไม่ได้ แน่นอนว่าจ้าวเหวินเทาสามารถพูดได้อย่างเปิดกว้างและน่าฟัง ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยกย่อง

เมื่อตีสนิทกับสถานีส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรประจำอำเภอแล้ว ทั้งสองคนก็ขับรถกลับบ้าน

ระหว่างทางทั้งสองคนรู้สึกดีไม่น้อย เพราะการเดินทางมาในครั้งนี้พวกเขาได้เงินมาถึงหนึ่งร้อยหยวน

เดินทางไปกลับหนึ่งรอบได้เงินมาหนึ่งร้อยหยวน หลังจากแบ่งกันอย่างเท่าเทียมก็แค่มาคนละห้าสิบหยวน นี่ไม่ใช่เงินน้อย ๆ เลย

จ้าวเหวินเทาแอบเสียดาย กล่าวว่า “ได้เงินมามันก็ดีอยู่หรอก แต่ก็คงทำได้ไม่นาน”

หลังแบ่งที่ดินทำกันเองแล้วจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์การเกษตรและเมล็ดพันธุ์ ใครๆ ก็อยากเพาะปลูกในที่ดินส่วนแบ่งของตัวเองได้ให้ดี แน่นอนว่าย่อมเสียดายอยู่แล้ว แต่อุปกรณ์การเกษตรเหล่านั้นไม่ได้ซื้อทุกปี เมล็ดพันธุ์ยิ่งแล้วใหญ่ นับตั้งแต่ปีนี้คงเก็บไว้เอง

ดังนั้นตอนนี้สามารถทำการค้าขายนี้ได้ก็จริง หลังจากนี้คงต้องคิดหาช่องทางอื่นอีก

แต่ตอนนี้ก็ต้องใช้เวลาเพื่อกอบโกยเงินให้มากหน่อย

พรุ่งนี้ไม่ขับรถออกไปแล้ว เขาจะไปดูสถานการณ์โดยรอบสักหน่อย ยกตัวอย่างเช่นขาดเมล็ดพันธุ์อะไรหรือขาดอุปกรณ์การเกษตรอะไร ใช้ประมาณเท่าไร? ภายในใจก็เริ่มมีแผนขึ้นมา เตรียมตัวเข้าไปในจังหวัดอีกครั้ง

ถ้าสถานีส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรไม่รับซื้อแล้ว ก็ยังสามารถขายในหมู่บ้านได้ไม่ใช่เหรอ? อย่างไรก็ไม่สามารถพึ่งพาสถานีส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรเป็นทางออกเพียงแห่งเดียวได้

ทั้งสองคนขับรถกลับมา เย่หมิงเป่ยส่งเขาที่บ้านจากนั้นก็ขับรถกลับบ้านตัวเอง

จ้าวเหวินเทามองดูพี่สามของภรรยาขับออกไป จึงหมุนตัวกลับเข้าบ้าน

ทันทีที่เข้าบ้านก็พบภรรยาตัวเอง เขาก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ภรรยา คุณคิดถึงผมไหม!”

เย่ฉูฉู่เห็นสภาพเขาเนื้อตัวมอมแมมเพราะฝุ่นก็แอบรู้สึกปวดใจ แต่เมื่อเห็นสีหน้ากระปรี้กระเปร่าของเขา เธอจึงพูดอย่างจนปัญญา “ในหม้อมีน้ำร้อนอยู่ คุณรีบไปอาบน้ำนะ ทำตัวให้อบอุ่นหน่อย เมื่อวานพวกคุณไปค้างที่ไหนมาเหรอ?”

“ไปค้างบ้านพี่สาวห้าน่ะ” จ้าวเหวินเทาหอมภรรยา จากนั้นก็วางกระเป๋าถือและตักน้ำร้อนไปอาบน้ำ

“คุณพ่อกับคุณแม่รู้เรื่องที่คุณจ้างชุยต้าไปปรับหน้าดินแล้วนะคะ” เย่ฉูฉู่หยิบผ้าขนหนูมาให้พลางกล่าว

“พ่อกับแม่โกรธแล้วเหรอ?” จ้าวเหวินเทาเก็บของพลางเอ่ยถาม

เย่ฉูฉู่ “ก็ไม่ได้โกรธหรอกค่ะ แต่แม่แอบกังวลใจ คุณเองก็รู้ว่าบ้านของคุณแม่เป็นชาวนาร่ำรวย ก่อนหน้านี้ก็ทุกข์ทรมานไปไม่น้อย”

เรื่องที่บ้านของคุณแม่จ้าวเป็นชาวนาร่ำรวย จ้าวเหวินเทาเป็นคนเล่าให้เธอฟัง

“ไม่ต้องห่วง ผมมีแผนในใจแล้ว” จ้าวเหวินเทาอาบน้ำเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว เขารู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย ไม่เช่นนั้นจะมีคนพูดว่าอยู่บ้านสบายกว่าได้อย่างไรกันล่ะ? ให้เป็นรังเงินรังทองก็ไม่เท่ากับรังสุนัขของตัวเอง

“ภรรยา เงินอยู่ในกระเป๋าถือนะ คุณไปนับแล้วเก็บไว้เถอะ พรุ่งนี้ผมกับพี่สามไม่ออกไปแล้ว” จ้าวเหวินเทากล่าว

เย่ฉูฉู่พยักหน้า จากนั้นก็นำเงินมานับ เธอรู้ดีว่าเขาเอาเงินออกไปเท่าไร ดังนั้นเมื่อได้นับก็ทราบได้ว่าได้เงินมาเท่าไร

เงินห้าสิบหยวน ไม่ขาดไม่เกิน

เย่ฉูฉู่ถามด้วยความประหลาดใจ “แป๊บเดียวก็ขายแล้วเหรอ? ขายให้ใครหมดเนี่ย?”

เธอรู้ดีว่าจ้าวเหวินเทาและพี่สามออกไปทำค้าขายอะไร แต่ก็คิดว่าคงต้องใช้เวลาสองสามวัน

จ้าวเหวินเทายิ้ม จากนั้นก็เล่าเรื่องที่เดินทางไปกลับในจังหวัดให้เธอฟังหนึ่งรอบ

ส่วนเรื่องที่เจอจางหมิง เขาเพิกเฉยไม่ได้กล่าวถึง เขาไม่ใช่คนโง่สักหน่อย ไม่มีทางช่วยคนอื่นรื้อฟื้นความรู้สึกต่อหน้าภรรยาของตัวเองเด็ดขาด ต่อให้เรื่องที่เคยจีบภรรยาจะผ่านไปแล้วก็ตาม ตอนนี้แต่งงานแล้ว แต่ภรรยาของเขาดีขนาดนี้ เขาไม่อนุญาตให้เธอจำเรื่องพวกนี้หรอก

เรื่องเหล่านี้ปล่อยให้มันหายไปกับความทรงจำของภรรยาเขาก็แล้วกัน!

ตอนที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกัน ก็ได้ยินคุณแม่จ้าวเดินเข้ามา “เหวินเทากลับมาแล้วเหรอ?”

“แม่ ผมกลับมาแล้ว!” จ้าวเหวินเทาพูดพลางออกจากห้อง

เมื่อเห็นลูกชาย คุณแม่จ้าวก็ถลึงมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ กล่าวว่า “เจ้าหก มีอะไรอยากจะพูดไหม?”

จ้าวเหวินเทาให้แม่เข้ามาในห้อง พูดด้วยรอยยิ้มว่า “แม่ แม่เองก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ยังจะให้ลูกชายพูดอะไรอีกล่ะ?”

คุณแม่จ้าวนั่งลง นางกลอกตาใส่ลูกชาย “แกช่วยทำให้คนอื่นเป็นห่วงให้มันน้อย ๆ หน่อยไม่ได้หรือไง? แม่กับพ่อก็อายุไม่น้อยแล้วนะ”

จ้าวเหวินเทายิ้ม “แม่ ผมรู้ว่าพ่อกับแม่อายุไม่น้อยแล้ว ผมก็กำลังคิดหาเงินเยอะ ๆ จะได้รีบสร้างบ้านขึ้นมา แล้วรับพ่อกับแม่ไปอยู่ด้วยกันนี่ไง พ่อกับแม่จะได้มีชีวิตที่สุขสบาย”

……………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

หน้าหนาสมกับเป็นพ่อค้าจริง ๆ เหวินเทา ไปตีสนิทกับหน่วยงานใหญ่ขนาดนั้นคงมีช่องทางสะดวกขึ้นแน่นอน

ไหหม่า(海馬)

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

Score 7.8
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] เย่ฉู่ฉู่บุตรสาวเสนาบดีกังฉินเกือบถูกรังแกในระหว่างทางที่โดนเนรเทศ​ แต่ได้ว่าที่ท่านอ๋องผู้หนึ่งมาช่วยนางไว้​และเก็บนางไว้ข้างกาย​ ในระหว่างการชิงอำนาจเพื่อปกป้องพระราชโอรสองค์เล็กของจักรพรรดิองค์ก่อน​ ว่าที่ท่านอ๋องผู้นี้ก็สิ้นชีพเพราะยาพิษประหลาด​ ครั้นพิธีศพถูกจัดขึ้น​ เย่ฉู่ฉู่ก็ได้โขกศีรษะกับโลงศพของเขาตายตกตามกันไป​ แต่นางกลับได้มาเกิดใหม่ในประเทศจีนยุค​ 1970 ในร่างของเจ้าของร่างผู้ได้ชื่อว่าเป็น​แม่เสือตามคำกล่าวของจ้าวเหวินเทาผู้เป็นสามี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset