บทที่ 220 พบกับเด็กหญิงประหลาดอีกครั้ง
ตู้ม ตู้ม ตู้ม…!
เกาะมหาสมบัติกำลังจม มีเพียงยอดเขาที่สูงที่สุดเท่านั้นที่ยังคงอยู่เหนือผิวน้ำทะเล เขตปลอดภัยก็จมอยู่ใต้น้ำทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นของเขตร่วมหรือฮัวเซีย พวกเขาทั้งหมดหายไปแล้ว
บนยอดเขามีเพียงเซียวเฟิงเท่านั้น เขารายล้อมไปด้วยศพของผู้เล่นคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นผู้เล่นระดับสูงของเขตต่าง ๆ ซากศพบางส่วนกลายเป็นแสงสีขาวและหายไป ซึ่งอาจกลับไปที่เมืองเพื่อเกิดใหม่หรือออกจากระบบ
การต่อสู้ในวันนี้สร้างความตกตะลึงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้สำหรับผู้เล่นระดับสูงเหล่านี้ ผู้เล่นระดับสูงมากกว่า 30 คนล้อมผู้เล่นคนเดียว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาคอยระวังให้กันและกันในระดับหนึ่งและไม่สามารถปลดปล่อยสกิลได้ตามต้องการ ซึ่งทำให้ทั้งหมดไม่สามารถแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นมากกว่า 30 คนถูกฆ่าตายโดยคนคนเดียว ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นไม่ว่ากรณีใด ๆ
แต่มันเพิ่งเกิดขึ้น มีเพียงเซียวเฟิงเท่านั้นที่ยืนอยู่บนยอดเขา ล้อมรอบด้วยซากศพที่กระจัดกระจาย
ทำให้ผู้เล่นระดับสูงมากกว่า 30 คนได้แต่นิ่งเงียบ ในฐานะผู้เล่นที่มีชื่อเสียงในเขตของพวกเขาเอง พวกเขาก็สามารถบังคับลมและเมฆได้ แต่ไม่ว่าจะร่วมแรงร่วมใจกันแค่ไหน พวกเขาก็ยังถูกผู้เล่นคนเดียวฆ่าตาย!
ทั้งหมดเงียบโดยไม่พูดอะไร ศพที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นหายไปทีละคน ในไม่ช้า พวกเขาทั้งหมดก็ออกจากเกาะมหาสมบัติ
เซียวเฟิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นได้ค้นไอเทมจากผู้เล่นระดับสูงทั้งหมดรวมทั้งเซ็มบงซากุระ คนทั้งหมดถูกชายหนุ่มฆ่าโดยไม่ละเว้น แสงสีแดงเข้มที่อยู่ใต้หน้ากากกะโหลดก็เริ่มจางหายไป เขาบิดคอและถอดหน้ากากออก แล้วพูดกับผู้เล่นที่อยู่ข้างหลังเขาว่า “โอเค เธอเองก็ออกจากระบบได้แล้ว แผนที่นี้กำลังจะปิดในไม่ช้า”
ข้างหลังเซียวเฟิง ซือเยี่ยจิ๋งเผยตัวออกมา แต่ดวงตาของเธอยังคงทื่อ ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่หลุดจากภวังค์ เธอเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่มีชีวิตนอกเหนือจากเซียวเฟิง เพราะซ่อนตัวอยู่ในความมืดและไม่ถูกผู้เล่นระดับสูง 30 ของเขตร่วมล้อม
ในขณะเดียวกัน เธอก็ได้เห็นวิธีที่เซียวเฟิงใช้สังหารผู้เล่นระดับสูงร่วม 30 คนของเขตร่วม ความมุ่งมั่น ความโหดเหี้ยม ไร้ความปราณี ความเฉยเมย และจิตสังหารของเขา ทำให้ซือเยี่ยจิ๋งรู้สึกเหมือนยังอยู่ในความฝัน
“ช่วยฉันตามหาลูกพี่ลูกน้องของเธอและบอกเธอว่าอย่าเอาอาร์ติแฟกต์ของฉันไป”
เมื่อไม่ได้รับคำตอบจากซือเยี่ยจิ๋ง เซียวเฟิงพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดุดันขึ้น จนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้ยินอะไรจากหลิวเฉียงเหว่ยเลย
“นาย… ฮึ่ม!”
ตอนนั้นเองที่ซือเยี่ยจิ๋งรู้สึกตัวและพ่นน้ำลายใส่เซียวเฟิงอย่างไม่พอใจ
“ลูกพี่ลูกน้องของฉันเป็นนักธุรกิจหญิง หากนายอยากได้อาร์ติแฟกต์ ก็จงเตรียมพร้อมที่จะจ่ายด้วย”
หลังจากพูดแบบนั้น ซือเยี่ยจิ๋งก็ไม่อยู่อีกต่อไป เพราะน้ำทะเลได้จมถึงยอดเขาและขึ้นมาถึงเท้าของเธอแล้ว
เมื่อระบบแจ้งว่าออกจากระบบ ร่างของซือเยี่ยจิ๋งก็เปลี่ยนเป็นแสงสีขาวและจากไป
เหลือเพียงเซียวเฟิงอยู่เท่านั้น ชายหนุ่มปล่อยให้น้ำทะเลไหลท่วมเขาทีละน้อย ๆ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ก็กลายร่างเป็นแสงสีขาวและกำลังจะออกจากระบบ
ทว่าตอนที่เซียวเฟิงกำลังจะหายตัวไป ชายหนุ่มก็ต้องตกตะลึงจนตาจ้องเขม็งเพราะพบว่ามีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นบนยอดเขา!
ในขณะนี้ บนยอดเขาที่สูงที่สุด มีเพียงหินก้อนเดียวที่ยังคงอยู่บนพื้นผิวทะเล ซึ่งที่นั่นก็ควรจะมีเพียงเซียวเฟิงเท่านั้น ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจอย่างมาก
มันเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นโรคขาดสารอาหาร เธอสวมเสื้อผ้าเรียบ ๆ โทรม ๆ และขนาดไม่เข้ากับเธอกับผ้าขี้ริ้วสองสามผืน เธอนั่งอยู่บนโขดหิน เท้าของเธอแตะน้ำทะเล ขณะที่สายตามองไปยังเซียวเฟิงและถามว่า
“พี่ชาย เห็นตุ๊กตาหมีของหนูไหม?”
เซียวเฟิงไม่มีเวลาได้ตอบสนองใด ๆ ก่อนที่จะออกจากระบบ โลกเปลี่ยนไป เขากลับมาอยู่ในห้องของตัวเอง
เมื่อเขาถอดหมวกสำหรับเล่นเกม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เซียวเฟิงได้พบกับสาวน้อยประหลาดคนนี้ เขาเคยพบเธอมาก่อนในแดนทมิฬ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง
ทุกครั้งที่เขาได้พบกับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ เธอก็มักทำให้ชายหนุ่มตกใจเป็นอย่างมาก!
เธอปรากฏตัวในโลกของเกม แต่เธอไม่ใช่ทั้งผู้เล่นและ NPC เซียวเฟิงสามารถมองเห็นเธอได้ แต่ไม่สามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของเธอได้!
ความสามารถในการรับรู้ของเซียวเฟิงนั้นแข็งแกร่งอย่างแน่นอน แต่นอกเหนือจากประสาทสัมผัสทางสายตาแล้ว เขาไม่สามารถสังเกตเห็นการมีอยู่ของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ได้เลย
เซียวเฟิงสัมผัสถึงกระแสลมได้ แต่สามารถเดินผ่านร่างเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ได้โดยไม่รู้สึกอะไร ราวกับว่าไม่มีอะไรอยู่ข้างหน้าเขา
ครั้งที่สองที่ชายหนุ่มได้พบกับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ ก็ยิ่งตกใจมากกว่าเดิม
สถานที่นั้นเป็นแผนที่ของอีเวนต์ ซึ่งเป็นสถานที่พิเศษของระบบ ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหรือ NPC พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาได้ เมื่ออีเวนต์กำลังจะสิ้นสุด
ทว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้กลับปรากฏตัวขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ แต่ถูกเซียวเฟิงมองเห็นได้
มันทำให้เซียวเฟิงสงสัยในตัวตนของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้อีกครั้ง เธอเป็นข้อผิดพลาดในระบบของเกมหรือเปล่า?
เซียวเฟิงรู้สึกงงงวย ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ยังคงเป็นปริศนา รวมทั้งตัวตนของเธอและร่องรอยของการมีอยู่ของเธอ เซียวเฟิงเริ่มสงสัยว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาหรือไม่ เพราะเขาไม่สามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของเธอได้เลย
มันเป็นช่วงดึก เซียวเฟิงอาบน้ำอย่างรวดเร็วแล้วขึ้นไปนอนบนเตียง เขาเข้าสู่ระบบฟอรั่มทางการของเกมด้วยหมวกสำหรับเล่นเกมและค้นหาหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเด็กหญิงคนนั้น
ทว่าน่าเสียดายที่ไม่พบผลลัพธ์ใด ๆ เลย มีแต่หัวข้อที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
“ติ้ง!”
ในขณะนี้ โทรศัพท์ของเซียวเฟิงก็ได้รับข้อความ เนื่องจาก SMS ของเขาเชื่อมโยงกับหมวกเล่นเกม เซียวเฟิงจึงเห็นข้อความ ดังนั้นชายหนุ่มเลยอ่านมันด้วยหมวกเล่นเกม
“เปิดประตูหน่อย ฉันอยู่ที่หน้าประตูวิลล่า”
มันมาจากหลิวเฉียงเหว่ย ก่อนหน้านี้เซียวเฟิงติดต่อเธอไม่ได้ แต่ตอนนี้เธอแสดงตัวและตรงมาที่วิลล่าเอง
เซียวเฟิงค่อนข้างมีความสุข ผู้หญิงคนนี้มีสติพอที่จะไม่เล่นตุกติกกับเขา มิฉะนั้น ถ้าเธอคิดจะฉกอาร์ติแฟกต์ไปจริง ๆ เซียวเฟิงจะทำให้เธอเสียใจอย่างแน่นอน
หลังจากแต่งตัวเสร็จก็ลงไปข้างล่าง ห้องโถงของวิลล่าเงียบสงบและกว้างขวางในตอนกลางคืน ดูเหมือนว่าหนิงเคอเค่อและเฉียนโตวโตวจะเข้านอนกันหมดแล้ว และเซียวหลิงก็ไม่อยู่เล่นเกมจนดึกซึ่งก็เป็นเรื่องหาได้ยาก
เขาเปิดไฟและเดินไปเปิดประตู แม้ว่าตอนนี้จะเป็นฤดูร้อน แต่ก็มีลมในเวลากลางคืน เมื่อเปิดประตู เซียวเฟิงก็รู้สึกว่าลมเย็นพัดผ่านใบหน้าซึ่งมันทำให้เขารู้สึกสบายขึ้น
ที่ด้านนอกประตู มีหลิวเฉียงเหว่ยที่รูปร่างงดงามยืนอยู่ใต้ตะเกียง ผมยาวนุ่มสลวยซึ่งยาวลงมาถึงเอวพร้อมกับกระโปรงปลิวไสวตามลมที่พัดมา
ใบหน้าของเธอสวยอย่างเหลือเชื่อ เธอดูเหมือนจะกำลังหนาวนิดหน่อย ดูได้จากที่ใช้มือขาวและเล็กเรียวแตะไหล่ของตนเอง
ในที่สุดประตูก็เปิดออก เธอก็หันกลับไปมองที่เซียวเฟิงทันที
“ทำไมเธอถึงมาที่นี่ตอนดึกขนาดนี้ล่ะ? เธอคุยกับฉันในเกมก็ได้ไม่ใช่เหรอ?”
เซียวเฟิงเปิดประตูและส่งสัญญาณให้เธอเข้ามาและถามอย่างสับสน
“นายอยากได้อาร์ติแฟกต์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ไม่ใช่หรือไง?”
หลิวเฉียงเหว่ยละสายตาจากล็อกประตูและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เธอถือกระเป๋าใบใหญ่มา แสดงว่าต้องเอาหมวกเล่นเกมมาด้วยแน่ ๆ
“แน่นอนสิ แต่แลกเปลี่ยนในเกมก็ไม่ต่างกันนี่ รอแป๊ปนะ ฉันจะไปเอาหมวกเล่นเกม พอร์ตเน็ตอยู่หลังโซฟานะ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เซียวเฟิงก็ขึ้นไปบนห้องของเขาและนำหมวกสำหรับเล่นเกมมาด้วย
หลิวเฉียงเหว่ยก็เปิดกระเป๋าของเธอและหยิบหมวกเล่นเกมของเธอออกมา แต่เธอไม่จำเป็นต้องใช้พอร์ตเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต เห็นได้ชัดว่าหมวกสำหรับเล่นเกมของเธอนั้นล้ำหน้ากว่าของเซียวเฟิง มันเป็นแบบไร้สาย
“หมวกสำหรับเล่นเกมนี่ก็มีระดับต่างกันด้วย?”
เมื่อเซียวเฟิงนำหมวกเล่นเกมมาเชื่อมต่อกับพอร์ตอินเตอร์เน็ต เขาก็สังเกตเห็นและถามด้วยความสงสัย
“นายเป็นผู้เล่นจริง ๆ เหรอเนี่ย?” หลิวเฉียงเหว่ยจ้องไปที่เซียวเฟิง “แม้แต่แคปซูลเล่นเกมกับสายรัดก็ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา ทำไมนายถึงยังถามเรื่องนี้อีก?”
เซียวเฟิงเกาศีรษะด้วยรอยยิ้มจาง ๆ เขาไม่เคยสนใจเรื่องนี้มาก่อน แม้แต่หมวกเล่นเกมของตัวเองก็ได้มาจากคนอื่น ดูเหมือนว่าถึงเวลาที่ชายหนุ่มควรจะต้องเปลี่ยนอุปกรณ์เล่นเกมของเขาแล้ว หมวกเกมแบบมีสายนั้นหนักมาก ซึ่งมันก็ใช้ได้เวลาอยู่ในห้อง และมันไม่สะดวกที่จะใช้หมวกเล่นเกมที่อื่น
“มาเร็ว แลกเปลี่ยนออนไลน์เร็ว”
หลังจากเชื่อมต่อหมวกเล่นเกมแล้ว เซียวเฟิงก็รอไม่ไหวและเร่งหลิวเฉียงเหว่ย
“ฉันมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง”
ทว่าหลิวเฉียงเหว่ยก็พูดขึ้นมาอีกครั้งและจ้องไปที่เซียวเฟิง
“เงื่อนไขอะไร?”
เซียวเฟิงถามโดยไม่แสดงท่าทีใจร้อน
ในด้านหนึ่ง อาร์ติแฟกต์นี้หลิวเฉียงเหว่ยก็โชคดีได้มา หากไม่มีเธอ เซียวเฟิงก็ไม่น่าจะได้มัน ในทางกลับกันหลิวเฉียงเหว่ยมีเหตุผลพอที่จะเสนออาร์ติแฟกต์นี้ให้กับเขาด้วยตัวเธอเอง
เนื่องจากมันเป็นเรื่องของล้ำค่าอย่างอาร์ติแฟกต์ มันจึงยุติธรรมพอที่หญิงสาวจะเพิ่มเงื่อนไขบางอย่างในการแลกเปลี่ยนด้วย ดังนั้นชายหนุ่มจึงพร้อมที่จะยอมรับเงื่อนไขของเธอตราบเท่าที่เงื่อนไขนั้นไม่ไร้เหตุผลเกินไป
“ฉันต้องการกุญแจของวิลล่า”
น่าแปลกที่หลิวเฉียงเหว่ยเสนอเงื่อนไขดังกล่าวโดยไม่คิดหรือลังเล
“กุญแจของวิลล่า? แค่นั้นเหรอ?”
หลังจากนิ่งไปซักพักเซียวเฟิงก็ถามด้วยความประหลาดใจหลังจากที่ไม่ได้ยินหลิวเฉียงเหว่ยพูดอะไรเพิ่มเติม
“ใช่แล้ว นั่นคือเงื่อนไขของฉัน” หลิวเฉียงเหว่ยพยักหน้าด้วยสีหน้าที่เป็นธรรมชาติ
เซียวเฟิงคิดทบทวน เงื่อนไขก็ไม่ได้ไร้เหตุผลจนเกินไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะให้กุญแจของวิลล่ากับเธอ ดังนั้นจึงขึ้นไปชั้นบนและหยิบกุญแจหนึ่งดอกในห้องของตัวเองมา
กุญแจเข้าสู่วิลล่าบนยอดเขาเป็นแม็กการ์ดที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งสามารถใช้ได้ผ่านการป้อนข้อมูลลายนิ้วมือสู่ระบบเท่านั้น ดังนั้นแม้ว่าแม็กการ์ดจะสูญหายและถูกคนอื่นหยิบไป พวกเขาก็ไม่สามารถเปิดประตูวิลล่าได้หากไม่มีลายนิ้วมือที่บันทึกไว้
“ตกลง เข้าสู่ระบบและแลกเปลี่ยนทันที”
เมื่อเห็นว่าหลิวเฉียงเหว่ยกำลังเล่นกับแม็กการ์ดอย่างมีชีวิตชีวา เซียวเฟิงก็เร่งเธอ
“ตกลง”
หลิวเฉียงเหว่ยพยักหน้าและเก็บแม็กการ์ดไป จากนั้นก็นั่งบนโซฟาและสวมหมวกเล่นเกม
เซียวเฟิงสวมหมวกเล่นเกม นั่งข้างหลิวเฉียงเหว่ยและเข้าสู่ระบบ…
พวกเขามาถึงเมืองเทียนหลงซึ่งเป็นเมืองใหญ่เริ่มต้นของเซียวเฟิง หลังจากออกจากแผนที่ของอีเวนต์ เขามาอยู่ที่นี่หลังจากถูกระบบส่งตัวกลับมา
เมืองเทียนหลงยังคงเจริญรุ่งเรืองเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย หลังจากระบุทิศทางแล้ว เซียวเฟิงก็วิ่งไปที่เขตคลังสินค้า สวมชุดแฟชั่นแบบเดียวกับที่เขาสวมบนเกาะมหาสมบัติ คนอื่นแทบจำชายหนุ่มไม่ได้ บางทีอาจมีเพียงผู้เล่นฮาร์ดคอร์อันดับต้น ๆ ของเขตฮัวเซียที่เข้าร่วมกิจกรรมกับเขามาก่อนเท่านั้นที่จะสามารถจำเซียวเฟิงได้ด้วยการชำเลืองมองเพียงครั้งเดียว