ตอนที่ 22 ผู้ใหญ่คุยกัน
“เห้ย!”
“ฉันถามแกทำไมแกถึงไม่ตอบ?!”
“แกอยากตายใช่ไหมรีบตอบมาเร็วเข้า?!”
“ฉันบอกให้แกตอบ” ปลายสายยังระเบิดอารมณ์ต่อ
ท่ามกลางพายุอารมณ์จากอีกฝ่ายชายหนุ่มสวมแว่นหาได้สนใจสิ่งที่เขามอบความสนใจให้มีเพียงอย่างเดียว
นั่นคือหัวหน้าผมแดง
“…” สภาพร่างเนื้อว่างเปล่าคล้ายกำลังหวนคืนกลับมา
ซึ่งต้นสายปลายเหตุคงไม่พ้นต้องเป็นซุ่มเสียงเดือดดาลคุ้นเคยคุันหูซุ่มเสียงที่มันเคยได้ยินมาตลอดหลายต่อหลายปี
ปลายนิ้วชี้ข้างหนึ่งเกิดกระตุกขึ้นมากะทันหัน
“…” ทราเวียร์ยิ้มมุมปาก
ก่อนเริ่มเปิดปากกล่าวต่อ
“ดูเหมือนเขาจะหงุดหงิดน่าดู”
“…”
“ให้ฉันจัดการไหมคะ?”
“ไม่ต้องหรอก”
“เธอไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น”
“…” ไอรีนนิ่งเงียบ
แม้ว่าในใจของหล่อนต้องการปิดฉากเรื่องราวทั้งหมดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้แต่ด้วยคำพูดคำเดียวของเขา
ต่อให้หล่อนอยากมากมายแค่ไหนเพียงใดก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าหากเป็นช่วงปรกติธรรมดา
หล่อนอาจแข็งขืนไม่เชื่อฟัง
แต่หากเขาเข้าโหมดสุภาพเรียบร้อยขึ้นมาเมื่อไหร่ต่อให้หล่อนกล้าหาญเพียงใดก็ไม่อาจขัดขืนเขาได้
การไปมีปัญหากับทราเวียร์ตอนนี้เปรียบเสมือนโยนตัวเองเข้าไปในกองไฟนอกจากร้อนแล้วยังยากจะดับอีกต่างหาก
เพราะฉะนั้นหลีกได้สมควรหลีก
เลี่ยงได้สมควรเลี่ยง
…‘ทำไมต้องเวลานี้ด้วยหะ!’
“…” ไอรีนกัดปากตัวเอง
ก่อนหยุดลงเมื่อได้ยินคำพูดจากชายหนุ่มสวมแว่น
“ไม่สิมีงานที่อยากให้เธอทำอยู่พอดี”
“…เป็นงานแบบไหนคะ?”
“ขึ้นไปเก็บกวาดขยะด้านบนให้หน่อย”
“แล้ว—”
“เล่นพอสมควรไม่ต้องให้ถึงตาย”
“…” หล่อนพยักหน้าเดินจากไปทันที
บรรยากาศแรงกดดันที่หล่อนปลดปล่อยออกมาช่างรุนแรงเหลือเกินดูท่าวันเวลาของอันธพาลน้อยทั้งหลาย
คงยากจะผ่านพ้นไปง่ายดาย
“อย่าให้ถึงตายเด็ดขาด”
“ถ้าพิการละ?”
“แค่อย่าให้ตายก็พอที่เหลือล้วนทำได้หมด”
“…รับทราบค่ะ” ไอรีนพยักหน้า
ปากบอกรับทราบแต่แววตาของหล่อนมันช่างรุนแรงยิ่งนักรุนแรงจนทราเวียร์ต้องออกปากเตือนอีกครั้ง
กันไม่ให้หล่อนเดือดดาลจนลงมือเกินเลย
“ไอรีนอย่าเล่นหนักเกินไปละ”
“…”
“ผู้หญิงอารมณ์ร้อนมักน่ากลัวเสมอ” ทราเวียร์ยิ้ม
สิ่งที่ต้องพูดก็พูดไปแล้วส่วนจะได้ยินหรือไม่อันนี้ก็ต้องไปลุ้นอีกทีตอนนี้สมควรมีเรื่องอื่นต้องจัดการให้เรียบร้อย
เขายกโทรศัพท์ขึ้นมาพูดคุยต่อ
“สวัสดียามเช้าครับ”
“…” ปลายสายขมวดคิ้วนิ่งเงียบ
เรื่องราวที่ทั้งสองหนุ่มสาวทราเวียร์กับไอรีนแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันล้วนหลุดมาให้มันได้ยินเต็มสองรูหู
มันพอเข้าใจได้ทันทีว่ากำลังเกิดเรื่องบ้าบออะไรขึ้นในตอนนี้ดูท่าเรื่องราวที่มันคาดหวังในตอนแรกจะไม่ง่ายดายแล้ว
ด้วยโทรศัทพ์เครื่องนี้เป็นมันที่มอบให้กับหัวหนัาผมแดงโดยตรงเพราะฉะนั้นคนที่จะรับสายได้ก็ต้องเป็นคนของมัน
ในกรณีที่ใครคนอื่นหยิบมารับสายทั้งยังกล่าวทักทายสบายอารมณ์แบบนี้มีอยู่สองกรณีเท่านั้น
หากไม่เป็นศัตรูก็เป็นมิตรสหายคนอื่น
ปลายสายถามกลับมาตามตรง
“…แกเป็นใคร?”
“คนที่คุยอยู่กับคุณไง”
“อย่ามาเล่นตลกฉันถามว่าแกเป็นใคร?!”
“…” ทราเวียร์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
ตอบคำถามด้วยคำตอบมันปรกติธรรมดาเกินไปทราเวียร์เลือกที่จะไม่ตอบคำถามด้วยคำตอบ
เขากับโยนคำถามกลับไปให้มัน
ให้มันได้ตอบคำถามของเขาบ้าง
“เรื่องของผมช่างมันเถอะ”
“ว่าแต่ไม่สนใจคุยกับเจ้าของโทรศัพท์หน่อยเหรอ?”
“…” เป็นฝ่ายมันบ้างที่นิ่งเงียบ
เงียบไปหลายวินาที
“…เจ้าของโทรศัพท์อยู่ไหน?”
“ฉันต้องการคุยกับมัน” สิ้นเสียงความเงียบเข้าปกคลุมทันที
ทราเวียร์ก้มหน้ามองหัวหน้าผมแดงแววตาของมันหวนคืนกลับมามีสติอีกครั้งแต่กลับมาส่วนใหญ่
หลงเหลืออีกเพียงนิดหน่อยเท่านั้น
“อยู่ตรงหน้าผมครับ”
“แต่ถ้าจะให้พูดคุยด้วยคงไม่ได้ครับ”
“…ทำไม?”
“พอดีเขาไม่อยู่ในสภาพเปิดปากพูดคุยได้น่ะครับ”
“เอาเป็นว่ามาคุยกับผมดีกว่า”
“…” ดวงตาอีกฝ่ายเบิกกว้าง
ราวกับมีอะไรบางสิ่งอย่างขาดสะบั้นมันเริ่มร้องตะโกนลั่นด้วยโทสะเดือดดาลขั้นสุด
ไม่มีกักเก็บอารมณ์ไม่มีอดทนอดกลั้นให้เหนื่อยเปล่า
“แก!”
“แกทำอะไรกับพวกมัน?!”
“ยังไม่ได้ทำอะไรครับ”
“ก็อยากจะบอกแบบนั้นแต่คุณไม่เชื่ออยู่ดี”
“…”
“เอาเป็นว่าผมยังไม่ได้ทำอะไรพวกเขาหรอกครับ”
“อย่างน้อยที่สุดก็ตอนนี้”
“…” ปลายสายเนื้อตัวสั่นสะท้านไปหมด
หมากตานี้มันเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และผู้พ่ายแพ้ก็ต้องจ่ายราคาชีวิตที่สูงลิบเพื่อเอาตัวรอดกลับมา
มันเชื่อว่ามันจ่ายไหว
“ต้องการอะไร?”
“…ต้องการอะไร”
“เปล่าเลยเปล่าต้องการครับ”
“คุณต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องการ” ทราเวียร์ยิ้มหัวเราะ
ระหว่างเขากำลังเปิดปากพูดคุยกับปลายสายขากางเกงก็ถูกดึงกะทันหันทั้งยังมีเสียงอ่อนแรงสายหนึ่งดังขึ้น
ซุ่มเสียงที่ถูกปลดปล่อยช่างน่าสงสารจับใจ
“พะ พี่ใหญ่”
“…ใจเย็นครับขอใหัผมได้คุยกับเขาก่อนนะ”
“เดี๋ยวพอถึงเวลาผมจะให้คุยด้วย”
“พี่ใหญ่!”
“น้องเล็ก!”
“พี่ช่วยผมด้วย”
“ช่วยผม—” หัวหน้าผมแดงกล่าวยังไม่ทันจบ
รวดเร็วเกินกว่าตอบสนองได้ทันฝ่ามือฟาดเข้าที่กลางใบหน้าด้วยเรี่ยวแรงของทราเวียร์
ส่งร่างของมันกลิ้งไปหลายตลบ
ตึง!
“…” หลังจากโดนฟาดปากเข้าไป
มันก็นอนแน่นิ่งอยู่กับพืันไม่มีปากมีเสียงสภาพของมันในตอนนี้เข้าขั้นน่าสมเพชเวทนาขั้นสุด
ทราเวียร์ถอนหายใจเหนื่อยหน่าย
“ตื่นมาก็ปากมากเลย”
“แกทำอะไร!”
“แกทำอะไรกับน้องเล็กของฉันหะ!”
“ทุบตีสั่งสอนมารยาทนิดหน่อยครับ”
“…แกกล้าลงมือกับเขา!”
“ฉันจะตามล่าแก”
“คนที่อยู่รอบตัวแกพี่น้องของแกครอบครัวของแก”
“ฉันจะตามเล่นงานมันทั้งหมด—”
ครั้งก่อนมันได้ยินเสียงทุบตีจึงกล่าวเดือดดาลกลับไปแต่ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงทุบตีมันเป็นซุ่มเสียงอื่น
ทั้งยังเป็นเสียงที่มันคุ้นเคยเป็นที่สุด
ปัง!
“…อ๊ากกกกกกกกก!”
“น้องเล็ก!”
“ช่วยผม—” ยังไม่ทันกล่าวจบประโยค
ปากกระบอกปืนร้อนวูบก็ถูกยัดเข้าไปในปากอีกฝ่ายปิดกัันโอกาสส่งเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือ
ถึงจะโดนปืนอุดปากยังไงมันก็ยังส่งเสียงโหยหวนไม่เลิกราจนกระทั่งพบเจอสายตาเย็นชาจับจิตจดจ้องเข้า
ต่อให้มันไม่อยากยังไงก็ต้องหุบปากให้แน่น
…‘ตะ ตายแน่’
“…” ฟันทั้งปากกัดปากกระบอกปืน
พยายามข่มเสียงให้น้อยเท่าที่จะน้อยได้
“นั่นแหละ~”
“เงียบหน่อยนะครับ”
“ผู้ใหญ่เขาจะคุยกัน”