บลู เป็นแม่ทัพของข่งจู้งั้นสินะ ? จางลู่ยิ้มออกมา ช่องทางนี้เชื่อมต่อกับเขตข่งจู้ เราน่าจะเจอกับบลูในไม่ช้า
ซิงฮัวไม่เข้าใจว่าทำไมจางลู่ที่รู้ว่าอาจจะพบกับ บลู ถึงได้ดูผ่อนคลายเช่นนี้ได้
มันเพราะบลูเป็นแม่ทัพของจักรพรรดิข่งจู้ ข้าจึงตัดสินใจนำทัพมาป้องกันที่นี่เอาไว้ หากให้คนอื่นนำทีม ข้าคงไม่อาจจะสบายใจได้ ซิงฮัวพูดขึ้นมา แม้ว่าความแข็งแกร่งของข้าอาจจะไม่ได้เท่ากับบลู แต่อย่างน้อยก็พอสู้ได้บ้าง หากต้องสู้กันจริงๆแล้ว มันอาจจะเป็นไปได้ที่จะลดความสูญเสียได้มากที่สุด
ยิ่งสถานที่อันตรายและสำคัญเท่าไหร่ มันยิ่งมีแนวป้องกันที่ดีเท่านั้น
น่าเสียดายที่มีแม่ทัพขั้นสูงในฝั่งเราน้อยเกินไป มีแค่ข้ากับแรนดอฟเท่านั้น ไม่งั้นแล้วโอกาสสำเร็จของแผนนี้คงไม่ได้อยู่ที่ 6-7จากใน 10 ซิงฮัวถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีเสียดาย มันคือโอกาสที่ดีที่พวกเขาจะจัดการกับแม่ทัพฝั่งสวรรค์แต่เพราะจำนวนแม่ทัพขั้นสูงที่น้อย แผนจึงมีช่องโหว่ มันต้องอาศัยโชคที่พวกเขาจะทำตามแผนได้สำเร็จ
หากบลูกับล็อค ไม่ได้หนีออกมาตามช่องทางที่พวกเขาคาดเอาไว้ งั้นบางทีผลลัพธ์อาจจะเปลี่ยนไป พวกเขาอาจจะต้องเสียลูกปัดจิตไปบางส่วน
สบายใจได้ พวกนั้นหนีไม่ได้หรอก จางลู่ยิ้มออกมา ครั้งนี้จะไม่มีแม่ทัพเผ่าสวรรค์หนีไปได้สักคน บลูกับล็อคก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ซิงฮัวไม่รู้ว่าจางลู่เอาความมั่นใจมาจากไหนกัน นางได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ข้าหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น
…
ที่เผ่าสวรรค์
ไปกันเถอะไปพบกับแม่ทัพบลูก่อน ทันทีที่แม่ทัพของเทียนตู้เข้ามาในเขตต้นกำเนิด พวกเขาก็ได้มุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่เทียนตู้ได้บอกเอาไว้ เมื่อไปถึงที่นั่นพวกเขาจะได้เข้าร่วมกับทีมจากเขตข่งจู้ แล้วค่อยเข้าไปเก็บลูกปัดจิตทางเหนือในเขตต้นกำเนิด
ทีมเขตหย่วนเหยี่ยนและเล่ยรับหน้าที่ในการเก็บลูกปัดจิตทางใต้
แม่ทัพของทั้งสี่เขตของเผ่าสวรรค์พากันผ่อนคลายอย่างมาก พวกเขาไม่ได้สนใจแม่ทัพมนุษย์เลยแม้แต่น้อย คนเดียวที่พวกเขากลัวคือเรนไน ตราบใดที่ไม่พบกับเรนไนพวกเขาก็ไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายใดๆ
เขตต้นกำเนิดนั้นกว้างใหญ่ นอกซะจากว่าจะโชคร้ายจริงๆแล้ว มันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะพบ เรนไน
จำไว้ว่าหากพบกับเรนไน ก็อย่าสู้กับเขาและหนีมาทันที หัวหน้าเขตเทียนตู้สั่งการกับแม่ทัพทุกคน พวกเขากลัวว่าจะได้สู้กับ เรนไน ในอดีตนั้นพวกเขาเสียแม่ทัพไปหลายคนเพราะเรนไน นอกจากบลูกับล็อคแล้วก็ไม่อาจจะมีใครเทียบกับเรนไนได้
ในเวลาเดียวกันบลูกับล็อคเองก็นำทีมไปยังจุดนัดพบ
ข้าไม่รู้ว่าจะได้พบกับเรนไนรึไม่ สายตาของบลูแสดงท่าทีคาดหวังออกมา ครั้งที่แล้วที่ข้าสู้กับเขา ข้าเสียเปรียบเล็กน้อยหากข้าได้พบกับเขาในครั้งนี้ข้าจะทวงความแค้นคืนเรนไนไม่ใช่แค่เป็นแม่ทัพสูงสุดแต่ประสบการณ์ในการต่อสู้ก็ยังน่ากลัวอย่างมาก เขามีประสบการณ์มากมาย แม้แต่หมูที่อยู่มาหลายล้านปีก็ยังถือว่ามีฝีมือนี่ไม่ต้องนับเรนไนเลย
ทั้งบลูและล็อคต่างก็เคยสู้กับเรนไนมาไม่น้อยกว่า 10 ครั้ง
พวกเขาได้สู้กับเรนไนมาหลายครั้งแต่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็แค่เสมอ
นอกซะจากว่าทั้งสองจะร่วมมือกัน งั้นพวกเขาคนเดียวก็ไม่อาจจะสู้กับเรนไนได้เลยแม้แต่น้อย คนที่เก่าแก่ที่สุดในทะเลโกลาหลไม่ได้มีดีแค่ชื่อ !
น่าเสียดายที่คนในเขตฉิวหวังตายไปหมดแล้ว ไม่งั้นแล้วด้วยข้อได้เปรียบที่เรามี ทำไมเราต้องระวังตัวเช่นนี้…ยุ่งยากจริงๆ การทำลายเขตซีเหมิงทำให้เผ่าสวรรค์อ่อนแอลงไปแต่ก็ยังถือว่าได้เปรียบฝั่งมนุษย์อยู่ มันคือข้อได้เปรียบที่ไม่อาจจะลบไปได้ง่ายๆ
หากพวกเขาโชคร้าย อย่างมากก็แค่ต้องหนีออกมา ยังไงซะแม่ทัพฝั่งมนุษย์ก็ไม่อาจจะประมาทได้ !
ในอีกด้านล็อคเองก็ไปยังจุดนัดพบทางใต้ หากเทียบกับบลูแล้ว ล็อคนั้นเยือกเย็นกว่า แม้ว่าเขาจะคาดหวังที่จะสู้กับ เรนไน แต่เขาสนใจผลประโยชน์ของเผ่ามากกว่า เขาหวังว่าจะเก็บลูกปัดจิตให้ได้มากที่สุด การต่อสู้กับเรนไนเป็นแค่เรื่องรอง
มันดีหากได้พบกับเรนไนแต่หากไม่ได้พบกับเรนไนงั้นล็อคก็ไม่ได้ผิดหวัง เพราะเมื่อไม่มีเรนไนมาขัดขวาง เขาก็สามารถได้ลูกปัดจิตมามากขึ้น มันถือว่าเป็นเรื่องดี
รวมตัว ล็อคพูดขึ้นมา หน้าที่ของเราครั้งนี้สำคัญกว่าเก่า ไม่ใช่แค่ต้องชิงลูกปัดจิตมาเท่าเดิมแต่ยังต้องรวบรวมมันแทนคนของเขตฉิวหวังที่หายไปด้วย เราไม่อาจจะปล่อยให้ใครดูหมิ่นเผ่าสวรรค์ได้…
แม้ว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นแต่เหล่าแม่ทัพก็ยังมั่นใจอยู่ดี
พวกเขาเชื่อว่าตราบใดที่พวกเขาเอาจริง แม้ว่าจะไม่มีแม่ทัพเขตฉิวหวังแต่พวกเขาก็ยังเหนือกว่าฝั่งมนุษย์ได้อยู่
ในการต่อสู้กับเผ่ามนุษย์ พวกเขาชนะมาอย่างต่อเนื่องจนเกิดความเชื่อมั่นในใจ
เมื่อมองทั้งเขตต้นกำเนิดจะเห็นได้ว่าทีมจากเขตต่างๆได้เดินทางเข้าไปในเขตต้นกำเนิด
ทั้ง 8 ทีมที่ประกอบด้วยคนของสำนักคังเฉียงและมนุษย์ของทะเลโกลาหลรวมถึง 4 ทีมจากเผ่าสวรรค์รวมเป็น 12 ทีมได้เดินทางเข้ามาในเขตต้นกำเนิดแต่แม่ทัพเผ่าสวรรค์คงไม่คิดไม่ฝันว่าครั้งนี้แม่ทัพฝั่งมนุษย์ไม่ได้มาเพื่อแย่งลูกปัดจิตแต่มาเพื่อปิดทางออกเขตต้นกำเนิดและสู้กับพวกเขา
เวลาผ่านไปช้าๆ เผ่ามนุษย์ยังไม่ไปถึงที่หมายแต่ทีมเผ่าสวรรค์ได้ไปถึงที่หมายแล้ว
แม่ทัพบลู ! หัวหน้าแม่ทัพเขตเทียนตู้มาถึงจุดนัดพบ เมื่อเห็นบลูและคนอื่นๆ พวกเขาก็โล่งอกขึ้นมาทันที
พวกเขาแค่ต้องติดตามบลูไป แม้ว่าจะพบกับเรนไนแต่พวกเขาก็ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต ครั้งนี้การทำงานจะง่ายกว่าในอดีต
บลูมองไปรอบๆแล้วถามขึ้นมา ระหว่างทางที่มาที่นี่ พวกเจ้าพบกับแม่ทัพมนุษย์รึไม่ ?
หัวหน้าแม่ทัพเขตเทียนตู้ส่ายหน้า
แปลก บลูคิ้วขมวดและแสดงสายตาสงสัยออกมา พวกเขาไปไหนกัน ?
แม้ว่าจำนวนแม่ทัพมนุษย์จะไม่มากแต่ก็มีถึง 30-40 คน ระหว่างทางนั้นพวกเขาไม่พบกับแม่ทัพมนุษย์เลยสักคน ไม่ใช่แค่แม่ทัพจากเขตเทียนตู้แต่รวมถึงพวกเขาก็ด้วย
ประหลาด….
แม่ทัพมนุษย์กลับหายตัวไป
จักรพรรดิมนุษย์วางแผนจะทิ้งการแข่งขันนี้รึไม่ ? บลูคิด หากเป็นเช่นนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเขา พวกเขาจะได้ทำตามภารกิจที่จักรพรรดิมอบหมายมาได้ง่ายๆแต่เขารู้สึกว่ามันไม่ธรรมดาแบบนั้น มันมีเหตุผลที่จะบอกว่าแม่ทัพมนุษย์และแม่ทัพของจักรพรรดิคังเฉียงนั้นมีถึง 20 กว่าคน หากร่วมมือกันแล้ว พวกเขาต้องสร้างแรงกดดันกับเราอย่างมาก พวกเขาจะยอมแพ้ได้ยังไง …
แม่ทัพบลู แม่ทัพคนหนึ่งพูดขึ้นมา ท่านสงสัยว่ามีอะไรผิดปกติกับเผ่ามนุษย์ใช่รึไม่ ?
บลูพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง ต้องมีอะไรผิดปกติแน่แต่ข้า แต่ไม่อาจจะบอกได้ในตอนนี้ ตอนนี้เราไม่อาจจะใส่ใจอะไรมาก ตราบใดที่เราระวังตัว พวกนั้นก็ไม่อาจจะทำอะไรเราได้…ต่อหน้าความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าแล้ว แผนการใดๆก็ล้วนไร้ค่า บอกทุกคนว่าต้องระวังตัวจากการโจมตีเอาไว้
ตราบใดที่พวกเขาไม่เผยจุดอ่อนและไม่เปิดโอกาสให้ฝั่งมนุษย์ งั้นไม่ว่ามนุษย์จะวางแผนมาดียังไงแต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรพวกเขาได้
การตอบโต้การเปลี่ยนแปลงคือไม่เปลี่ยนแปลง
ในเวลาเดียวกัน ล็อคก็รับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติและสั่งการออกมาคล้ายๆกัน
แม่ทัพเผ่สวรรค์ทั้งหมดต่างก็ระวังตัวและไปรอยังจุดนัดหมาย
แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าพวกเขาที่กังวลถึงการซุ่มโจมตีจากมนุษย์นั้น ทีมของมนุษย์ทั้ง 8 ทีมต่างก็ไปที่ทางเข้าของเขตต่างๆโดยเฉพาะทางเข้าสู่เขตของเผ่าสวรรค์ ทางเข้าเหล่านี้สำคัญที่สุด ในหมู่ทางเข้าเขตเผ่าสวรรค์นั้น เขตข่งจู้และเขตหย่วนเหยี่ยนสำคัญที่สุด มันมีซิงฮัวและแรนดอฟนำทีมไปดูแลที่นั่น
ระหว่างนี้คนของสำนักคังเฉียงไม่ได้ขัดอะไร พวกเขาเชื่อฟังราวกับลูกแกะ และไม่ได้แสดงท่าทีคัดค้านใดๆออกมาแม้แต่น้อย