การประมูลเจิ้งหยวนชิงกับฉินเฟยเฉินได้เริ่มขึ้นแล้วเมื่อเทพตำรามาถึง
แม้การประมูลจะจัดขึ้นอย่างเร่งรีบพ่อค้าจำนวนมากก็ได้มาถึงแล้ว คนจำพวกนี้มักจะมาโลกเทพโจรสลัดเต็มไปหมด มีหลายคนที่รู้ว่าเจิ้งหยวนชิงเป็นบุตรสาวเทพเจิ้งแห่งพันธมิตรบูรพา เหล่าพ่อค้ามองนางเป็นสินค้าแปลก
ราคาประมูลเจิ้งหยวนชิงนั้นไปถึงแปดสิบล้านเหรียญพันธมิตรแล้วแม้ฉินเฟยเฉินจะไม่ได้ราคาเท่าเจิ้งหยวนชิง แต่ก็มีผู้ประมูลมากมายที่สนใจเขาเพราะตระกูล เขาได้ราคาสิบล้านเหรียญพันธมิตร
เทพตำรามองทั้งสองที่ถูกประมูลพวกเขาถูกปิดบังใบหน้ากันและกันเอาไว้ด้วยพลังเทพของเทพโจรสลัด เทพตำราขานราคา
ฉินเฟยเฉินยี่สิบล้านเหรียญพันธมิตร บนเวทีเฉินเฟยเฉินมิอาจขยับตัว เขาทำได้แค่ฟังและมองดู เขาพูดไม่ได้ ไม่ได้แม้แต่แสดงสีหน้า
อะไรนะยี่สิบล้านรึ?
การไล่ราคาของเทพตำราทำให้ผู้ประมูลตกใจ
การจ่ายยี่สิบล้านซื้อลูกหลานเทพมักจะไม่ให้กำไรนัก
แต่ไปดูที่เจิ้งหยวนชิงนางในตอนนี้มีราคาอยู่ที่แปดสิบล้าน ต่อให้ต้องจ่ายหลายร้อยล้านก็ยังคุ้มค่า ไม่ใช่เพราะฐานะของนางแต่เป็นเพราะแหล่งกำเนิดพลังเทพของนางด้วย เพราะนางจะได้กลายเป็นเทพอย่างแน่นอน
จากนั้นเหล่าคนที่กำลังหมายตาฉินเฟยเฉินก็ยอมแพ้แต่ในตอนนั้นเอง มีเสียงดังขึ้น
ฉินเฟยเฉินสามสิบล้าน
เทพตำราเหลือบมองเขาเห็นคนที่เอ่ยราคาเป็นชายหนุ่มผมสีเงินที่มีรอยยิ้มไร้อารมณ์
สี่สิบล้าน
เทพตำราไม่แยแสเขาเพิ่มราคาขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ห้าสิบล้าน!
แต่ทันทีที่เขาเอ่ยออกไปชายหนุ่มผมสีเงินก็ขึ้นราคาทันควัน
เทพตำราขมวดคิ้ว
หกสิบล้าน!
เจ็ดสิบล้าน!
แปดสิบล้าน!
เก้าสิบล้าน!
เจ้าชนะ
เมื่อเทพตำราเอ่ยราคาเก้าสิบล้านอันน่าตกใจซือหยูก็ยิ้มพร้อมเดินจากไป
เทพตำราเหลือบมองซือหยูพลางครุ่นคิด
ที่หลังเทวีโรงประมูลซือหยูคิดถึงเก้าสิบล้านเหรียญพันธมิตรที่เทพตำราจะจ่าย เจ้าเทพตำราคนนี้แปลกๆ!
เขากระโดดเข้าไปร่วมวงประมูลไม่ใช่เพราะโลภในเงินตรา แต่เขาอยากจะทดสอบเทพตำรา
เทพตำรานั้นเฉลียวฉลาดมากอพที่จะสงสัยว่ามีบางอย่างแปลกใจเมื่อมีคนลึกลับปรากฏตัวมาเพิ่มราคาประมูล
แต่ตั้งแต่ต้นจนจบเทพตำรานั้นสุขุมเยือกเย็นและไม่เป็นกังวลเลย
ใกล้จะได้เวลาเริ่มแล้ว
ซือหยูมิอาจเข้าใจได้ว่าเทพตำราจะทำอะไรแต่เวลาไม่คอยท่าเขา
เทพตำราประมูลฉินเฟยเฉินได้สำเร็จและไปที่หลังเวทีเพื่อทำการแลกเปลี่ยนทันทีจากนั้นเขาก็จากไปโดยเดินเคียงข้างเทพรากษส
เมื่อมาถึงโลกเทพกาลกิณีเทพตำราจึงปลดพลังเทพที่ล้อมรอบฉินเฟยเฉิน
แต่ทันทีที่ฉินเฟยเฉินถูกปล่อยเขาก็เริ่มตะโกนทันที
รีบหนีเร็ว!เรื่องทั้งหมดเป็นแผนของซือหยู!
แต่อนิจจามันสายไปแล้ว
เมื่อพลังวิเศษถูกปลดสร้อยหยกในตัวฉินเฟยเฉินทำงาน
ตู้ม!
มันเป็นพลังที่รุนแรงมากราวกับภูเขาไฟที่ระเบิดออก
มันรุนแรงถึงขนาดที่ว่ามีเพียงเทพพ่อค้าที่เป็นเทพอันดับสองแห่งพันธมิตรเท่านั้นที่จะใช้พลังนี้ได้
พลังระเบิดออกมาทันทีเทพรากษสถูกแรงระเบิดไปพร้อม ๆ กัน
อะไรกัน!
เทพรากษสกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งร่างของเทพรากษสปกคลุมไปด้วยชั้นเหรียญทองแดง โลหิตสีทองไหลหลากออกมาจากร่างของนาง มันคือเลือดของเทพรากษส!
เพียงนางหายใจได้สามครั้งเลือดเกินกว่าครึ่งก็ไหลออกมาแล้ว ที่แย่ยิ่งกว่าก็คือแหล่งพลังเทพของนางยังไหลออกมาจากทวารอีกด้วย
พลังเทพพ่อค้า!
เทพรากษสชักสีหน้านางไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมฉินเฟยเฉินถึงใช้สิ่งที่เทพพ่อค้ามีได้ นางไม่รู้เลย
ใเวลาสำคัญเทพรากษสตะโกน เกิดเงาผีที่ด้านหลังของนาง มันคล้ายกับอสูร
เงานั้นกำลังกดโลหิตและพลังเทพที่ไหลออกมาจากร่างนางให้ช้าลง
เทพตำรานี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
เทพรากษสร้องเสียงแหลมแต่ตรงหน้านางก็ไม่ใช่เทพตำรา! มีเพียงตำราเก่า ๆ ลอยอยู่ตรงหน้านาง
เป็นตำราเล่มนี้ที่ตามเทพรากษสไปที่โรงประมูล เทพตำราเจ้าหลอกใช้ข้า!!!
เทพรากษสกรีดร้องนางเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อรู้ว่ามีอันตรายในการเดินทางเทพตำราซ่อนเร้นตัวเองและหลอกเทพรากษสด้วยตำราเพื่อช่วยให้เทพรากษสเอาตัวลูกชายเขากลับมา
ตำราเก่าๆ ถูกพลังของเทพพ่อค้าทำลายไม่เหลือชิ้นดี แต่ด้านในหน้ากระดาษนั้นมีพลังเทพที่ทำลายไม่ได้ได้เข้าล้อมตัวฉินเฟยเฉิน
ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ปรากฏตัวแต่เขายังพาบุตรชายกลับมาได้ ความเสี่ยงทั้งหมดถูกเทพรากษสรับเอาไว้
เทพตำราเจ้าเล่ห์มาก!
ฟึ่บ!
เพียงไม่นานเทพทั้งเก้ารวมถึงเทพพ่อค้าที่ควรจะถูกเทพโจรสลัดเอาชนะได้ปรากฏตัวล้อมเทพรากษสเอาไว้
เทพรากษสหวาดกลัวนางถอนหายใจแรง
พวกเจ้าวางกับดักนี้เรอะ!เทพโจรสลัดถูกพวกเจ้าใช้งานเพื่อสังหารข้า! ข้าจะได้ตายตาหลับแล้วสินะ
นางต้องยอมรับว่าศัตรูนางฉลาดเกินไป!ฉลาดจนนางไม่รู้ตัวเลย!
บางทีเทพตำราอาจจะรู้ถึงอันตรายนี้เช่นกันแต่เขาคงไม่คิดว่าเทพโจรสลัดจะกลายเป็นศัตรูไปด้วย!
เทพพ่อค้ามองเทพรากษสที่กำลังจะตายอย่างไร้อารมณ์จิตสังหารปรากฏในแววตา เขายกดัชนีและกลืนกินเทพรากษสเข้าไป
น่าเสียดายที่เทพตำราหนีไปได้ฉินเฟยเฉินเองก็ด้วย
เทพพ่อค้าขมวดคิ้ว
แผนของซือหยูนั้นไร้ที่ติแต่สติปัญญาของเทพตำราเองก็เหนือกว่าใคร
ช่วยรึ?มันจะง่ายอย่างนั้นหรือ?
ซือหยูเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม ที่ตำหนักเทพกาลกิณีในห้องลับ
พลังเทพสองสายที่มีฉินเฟยเฉินอยู่ภายในแล่นเข้าสู่ห้องลับ
ท่านพ่อข้าไร้ความสามารถ ข้าเกือบสร้างปัญหาให้ท่านและถูกซือหยูหลอก!
ฉินเฟยเฉินหลั่งน้ำตาเมื่อเห็นเทพตำราในสองปีนี้ เขาได้เปลี่ยนจากผู้นำตระกูลมาเป็นสินค้าในงานประมูลแทน และเขาเกือบจะทำให้พ่อตัวเองมีเอี่ยวด้วย
เทพตำรายิ้มอย่างใจดีไม่ว่าจะอย่างไรฉินเฟยเฉินก็คือผู้สืบสายโลหิตคนเดียวของเขาบนโลก แม้ว่าจะเกินเยียวยา แต่เขาก็ต้องลอง
เฟยเฉินเจ้า…
เทพตำราเรียกฉินเฟยเฉินเขาหรี่ตาและขมวดคิ้ว
เขาแนบหูที่ตัวฉินเฟยเฉินเขาได้ยินเสียงแปลก ๆ ราวกับมีอะไรหัก จากนั้นลำแสงก็พุ่งออกมาจากร่างฉินเฟยเฉินและเข้าดูดกลืนเทพตำรา
ฉินเฟยเฉินตอบสนองไม่ทันร่างของเขากลายเป็นพิรุณโลหิตในทันที
เทพตำราร้องครางด้วยความเจ็บปวด!
เมื่อแสงหายไปเทพตำราถูกตำรามากมายปกคลุมตัวและปลอดภัยดี
ตำราเหล่านั้นปกป้องเขาจากแสงป้องกันเหรียญทองแดงเอาไว้
เขามองพิรุณโลหิตใบหน้าเยือกเย็นของเทพตำราไม่มีอยู่อีกแล้ว เขาตะโกนร้อง
ซือหยู!
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าชายหนุ่มผมสีเงินที่มาประมูลฉินเฟยเฉินด้วยก็คือซือหยู!
แผนลวงให้เขาออกมาจะต้องเป็นแผนของซือหยูแน่นอน
เจ้าทำลายสายเลือดตระกูลเทพตำราสังหารบุตรเขยข้า ทำลายขุมทรัพย์เทพตำราที่ต้องใช้เวลาหลายยุคสมัยสร้างขึ้น ทุกสิ่งถูกทำลายด้วยมือเจ้า! ซือหยู ตระกูลข้าเคยทำอะไรให้เจ้ากัน?
เทพตำรามองท้องนภาเขาถอนหายใจด้วยความชิงชัง
นับแต่นี้ไปสายโลหิตเทพตำราจะไม่มีการสืบเชื้อสายอีกแล้ว
เจ้าคิดกลอุบายร่วมกับเทพโจรสลัดใช้ดินแดนแห่งเทพล่อใจให้พวกเทพสังหารกันเองเพื่อให้เจ้าได้เปรียบ! ข้าจะออกไปทดสอบเจ้า อยากจะรู้นักว่าเจ้ามีพลังจริงหรือไม่!
เทพตำราโกรธเกรี้ยวเขาเข้าไปพบเทพกาลกิณี
เทพกาลกิณีเป็นชายชราตัวผอมใบหน้าเขาแก่มากราวกับอยู่มานานหลายปี
เทพกาลกิณีข้าอยากให้ท่านช่วยข้าสังหารใครบางคน!
เทพตำรากล่าว
คนที่ฆ่าลูกชายเจ้ารึ?
เทพกาลกิณีถามอย่างไม่ใส่ใจทั้งที่หลับตา
เทพตำราตอบ
ถูกแล้วมีเพียงท่านที่สังหารแม้จะไม่มีใครเห็นตัวได้!
เทพกาลกิณีตอบทั้งที่ยังหลับตา
ข้าขอปฏิเสธ
ข้อตกลงของเราเพียงแค่ให้เจ้าอยู่ที่นี่เพื่อเจ้าจะถ่ายทอดตำราไร้อักษรให้กับข้า ข้าไม่จำเป็นต้องช่วยเจ้าสังหารผู้ใด
เทพตำราตะโกน
ข้าจะถ่ายทอดตำราไร้อักษรให้ท่านอีกสามบท!
เทพกาลกิณีหยุดคิด
เขาลืมตาขึ้นดวงตามีแสงเปล่งประกาย
ตกลง!
เขายืนขึ้นร่างของเขาเริ่มไหลเวียนไปตามสายลม เขาล่องหนอยู่แต่ก็ดูยิ่งใหญ่
แม้แต่เทพตำรายังก้าวถอยหลังหวาดกลัวที่จะเข้าใกล้
รูปลักษณ์อายุ พลัง ตำแหน่ง
เทพตำรามอบรายละเอียดกับเทพกาลกิณีในทันที
เทพกาลกิณีพยักน้าเบาๆ และหายตัวไปโดยไม่เหลียวมองกลับ
เทพตำรามองเทพกาลกิณีที่กำลังจากไปและส่ายหน้าเบาๆ
มันกลับมาไม่ได้แต่ข้าจะมีเวลามากพอในการวางกับดักรอพวกมัน!
ลูกข้าไม่ใช่เป้าหมายที่ดีนักที่จะเลือกฆ่าและตัวข้าเองก็เลวร้ายยิ่งกว่า!
เทพตำราหายตัวไปเขามุ่งหน้าไปยังโลกของตัวเอง
…
เทพกาลกิณีมาถึงจุดที่เทพทั้งเก้ารวมตัวกัน
แต่กลับไม่มีใครอยู่เว้นแต่ซือหยู แปลกมากทุกคนไม่อยู่ แต่เหลือเจ้าเอาไว้
เทพกาลกิณีมองชายหนุ่มผมสีเงินตรงหน้าชายคนนี้คือเป้าหมายของเขา
ซือหยูพูดด้วยความใจเย็น
เทพคนอื่นย่อมมีหน้าที่อื่นส่วนข้าอยู่ที่นี่เพียงคนเดียวเพื่อเผชิญหน้าท่าน เทพกาลกิณี
โอ้?เจ้ารู้ด้วยหรือว่าข้าคือเทพกาลกิณี และเจ้าก็รู้ว่าข้ามาด้วยสินะ?
ใบหน้าชราของเทพกาลกิณีแสดงความสนใจซือหยู
ซือหยูตอบ
ถูกแล้วข้ารู้ว่าท่านจะมา ข้าจึงอยู่รอที่นี่ ข้าว่าท่านอย่าถูกเทพตำราหลอกจะดีกว่า หากไม่เชื่อจงกลับไปดู เทพตำราจะต้องออกจากโลกของท่านไปแล้ว
เทพกาลกิณียิ้มพลางหัวเราะรอยยิ้มทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าเขาดูน่ากลัวขึ้น ข้ารู้ว่ามันใช้ข้าจัดการเจ้าแต่มันให้สิ่งที่ข้าต้องการ ข้าเต็มใจถูกใช้
แต่ท่านก็ต้องมีชีวิตรอดถึงตอนนั้นด้วย…
ซือหยูตอบอย่างใจเย็น
หึหึหึ…เจ้าหนุ่มน้อยข้าไม่ได้เจอเด็กอย่างเจ้ามานานแล้ว หากเทพตำราไม่อยากฆ่าเจ้า ข้าอาจจะเปลี่ยนใจปล่อยให้เจ้ารอด
เทพกาลกิณีหัวเราะ
น่าเสียดายไม่มีใครให้สิ่งที่เทพตำราให้กับข้าได้ ข้าทำได้แค่สังหารเจ้า
ซือหยูตอบ
ท่านก็ลองดูสิ
เทพกาลกิณียิ้ม
ข้าเริ่มไปแล้ว!เจ้าแค่ยังไม่รู้ตัว
เขาเป็นเทพที่ลึกลับที่สุดไม่มีใครรู้ว่าเทพกาลกิณีใช้พลังเช่นใด
ในตอนนั้นเองมีจุดคล้ำจาง ๆ ที่ระหว่างคิ้วของซือหยู เห็นได้ชัดว่าพลังของเทพกาลกิณีมาถึงตัวซือหยูแล้ว
นั่นคือจุดจบของร่างกายเจ้าเจ้าจะบ้าคลั่งในอีกสามลมหายใจ เจ้าจะระเบิดและตาย
เขาไม่ได้โกหกซือหยุสัมผัสได้จริงว่ามีพลังแข็งแกร่งที่จะทำให้ร่างกายของเขาเสียการควบคุม และพลังในร่างกายของเขาก็กำลังจะบ้าคลั่ง มันแผ่ขยายไปทุกทิศทาง มันกำลังจะทำลายซือหยูจากภายใน
นี่เป็นพลังประหลาดของเทพกาลกิณีมันทำให้ผู้คนตายได้โดยสาเหตุประหลาดได้หลากหลายวิธี
แต่ซือหยูยังคงเยือกเย็นเขาพูดเบา ๆ
สมกับเป็นเทพกาลกิณีคนธรรมดาพบท่านคงตายอย่างแน่นอน ไม่น่าจะมีใครหนีได้พ้น แม้แต่เทพเองก็มิอาจหนีได้ แต่…ท่านไม่ควรได้พบกับข้า