ตอนที่ 2024 : เสี่ยวซี
ราชา ซือหมิงหยุดและพูดกับเสี่ยวซี นี่คือชายแดนระหว่างเขตฉิวหวังและเขตข่งจู้ ข้างหน้าคือเขตข่งจู้ เมื่อผ่านช่องทางนี้ไป ท่านจะได้เข้าไปสู่เขตข่งจู้
เสี่ยวซีมองไปยังทหารรับจ้างโดยรอบและถามขึ้นมาด้วยความสงสัย พวกนี้เป็นใครกัน ?
พวกนี้น่าจะเป็นทีมจากเขตข่งจู้ บางคนเป็นพวกทหารรับจ้าง ซือหมิงพูดขึ้น ข้าได้รับข้อมูลมาก่อนบอกว่ามันมีทหารและคนของเขตข่งจู้ที่เดินทางมายังเขตฉิวหวังเพื่อปล้นผู้คน ข้าคิดจะจัดการเรื่องนี้แต่ไม่คิดเลยว่าจะพบกับท่านก่อน…
เมื่อได้ยินแบบนั้น เสี่ยวซีก็ยักคิ้ว พวกเขาคิดว่าคนของเขตฉิวหวังเป็นมนุษย์รึไง ?
ต้องรู้ก่อนว่าคนของเขตฉิวหวังก็เป็นคนเผ่าสวรรค์เช่นกัน คนของเขตข่งจู้ถึงกับมาปล้นพวกตัวเองเลยรึ ? นี่… ซือหมิงลังเลไปชั่วครู่ นี่คือวิถีของโลก คนอ่อนแอต้องตกเป็นเหยื่อ ยิ่งกว่านั้นเขตฉิวหวังก็โดนทำลาย จักรพรรดิฉิวหวังหายตัวไป เมื่อไม่มีจักรพรรดิฉิวหวังคอยปกป้องจึงเป็นธรรมดาที่พวกนั้นจะไม่เกรงกลัว
เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องผิดเพราะเผ่าสวรรค์ใช้กฎเอาตัวรอดแบบนี้มานานแล้ว
หากเป็นเขา เขาก็คงทำแบบเดียวกัน มันแค่ว่าพวกนี้แค่โชคดีที่ก่อนจะโดนซือหมิงหมายหัว ซือหมิงก็ตกเป็นลูกน้องของเสี่ยวซีก่อน เป็นธรรมดาที่ ซือหมิงจะทำอะไรต่อไม่ได้
อันที่จริงแล้วไม่ใช่แค่เผ่าสวรรค์เท่านั้นแต่มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ด้วยไม่ใช่รึ ? ทะเลโกลาหลนั้นต้องพึ่งความแข็งแกร่ง ซือหมิงพูดขึ้น ตอนนั้นจักรพรรดิทั้งห้ายังอยู่มันมีแม่ทัพบลูและแม่ทัพล็อค เราจึงไม่คิดทำอะไรกันเองนัก แม้ว่าจะมีเหตุผลดีแค่ไหนแต่ก็ไม่กล้าจะลงมือ ก่อนที่จักรพรรดิทั้งห้าจะกำเนิดขึ้นมา ทั้งทะเลโกลาหลนั้นคืออาณาเขตของมนุษย์ จนกระทั่งจักรพรรดิเผ่าสวรรค์กำเนิดขึ้นมา พวกเขาก็ค่อยๆยึดพื้นที่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาจะสนใจการลงมือกับพวกเดียวกันเองทำไม ?
มันเหมือนจะจริง เสี่ยวซีคิดตาม
ตั้งแต่ที่มันเข้าร่วมสำนักคังเฉียง วิธีการคิดของมันก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ความคิดตอนที่เป็นกฎสวรรค์ได้สลายไปแต่แก่นแท้แล้วมันก็ยังเป็นกฎสวรรค์อยู่ คำพูดและการกระทำของเผ่าสวรรค์นั้นไม่ได้แปลกอะไรกับมันเลย
หากเทียบกับสำนักคังเฉียงแล้ว เผ่าสวรรค์นี้เหมือนกับบ้านของมันทำให้มันรู้สึกสบายกว่า
เมื่อมองไปยังแม่ทัพขั้นกลางกว่าสิบคนและแม่ทัพขั้นสูง 2 คนในพื้นที่ เสี่ยวซี ก็เริ่มใจสั่นและถามขึ้นมา เหล่านี้ไม่น่าจะเป็นคนของกองทัพของพวกจักรพรรดิสินะ ?
น่าจะไม่ใช่ ซือหมิงตอบกลับ คนของกองทัพได้เข้าไปในเขตแล้ว บอกกันว่าจักรพรรดิทั้งสี่ได้สั่งการออกมากว่าครึ่งปีที่แล้วบอกให้ทหารทั้งหมดกลับไปยังเขตและไม่ให้ออกไปไหนอีก คนส่วนมากที่อยู่ด้านนอกนั้นไร้สังกัดไม่ก็เป็นทหารรับจ้าง
จักรพรรดิทั้งสี่สั่งการเช่นนั้นรึ ? เสี่ยวซีสงสัย ทำไมกัน ?
ซือหมิงเงียบไปสักพักแล้วพูดขึ้น บางทีอาจจะเป็นเพราะทีมคังเฉียง
นี่… เสี่ยวซีอึ้ง มันเกี่ยวข้องอะไรกับทีมคังเฉียงกัน ?
ซือหมิงถอนหายใจออกมาและพูดขึ้น เพราะมีข่าวลือกว่าความแข็งแกร่งของทีมคังเฉียงนั้นน่าทึ่ง หากจักรพรรดิไม่ลงมือก็คงไม่อาจจะจัดการกับทีมคังเฉียงได้ แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าข่าวลือนั้นจริงรึไม่แต่ความแข็งแกร่งของทีมคังเฉียงนั้นต้องไม่แย่แน่ๆ หากทีมคังเฉียงและเผ่ามนุษย์ร่วมมือกันแล้ว งั้นเผ่าสวรรค์ก็ต้องตกที่นั่งลำบาก ดังนั้นจักรพรรดิจึงสั่งการให้ทหารเข้าไปในเขตและปิดเขตเอาไว้เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของทีมคังเฉียงและมนุษย์
งั้นรึ ? พวกเขาไม่คิดแม้แต่จะป้องกัน พวกเขายอมแพ้ไปเลยรึ ? เสี่ยวซีแปลกใจ
บางทีอาจจะเพราะทีมคังเฉียงนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก ซือหมิงพูดขึ้นด้วยท่าทีสงสัย
บางทีจักรพรรดิทั้งสี่เชื่อว่าการต้านทานนั้นไร้ความหมาย มันมีแต่จะเสียกองกำลังของตัวเองไป เห็นได้ว่าเหล่าจักรพรรดิยำเกรงทีมคังเฉียงอย่างมาก ไม่งั้นแล้วพวกเขาจะทิ้งอาณาเขตที่ยึดครองมาได้ยังไง ต้องรู้ก่อนว่าหากไม่มีอาณาเขตเหล่านี้ ความสูญเสียของเผ่าสวรรค์ก็ไม่อาจจะประเมินได้ มันอาจจะส่งผลถึงชื่อเสียงของจักรพรรดิทั้งสี่
พวกนั้นไม่กลัวว่าหลังจากที่มนุษย์โจมตีแล้ว อีกฝ่ายจะโจมตีโกลาหลของเผ่าสวรรค์ทั้งหมดในทะเลโกลาหลรึ ? เสี่ยวซีถามขึ้นมา
ยกตัวอย่างเช่นหากมนุษย์มาถึงพื้นที่ของพวกเขาแล้วทำลายโกลาหลของพวกเขาทิ้ง งั้นพวกเขาก็ไม่อาจจะพัฒนาตัวได้อีกไปตลอดชีวิต นอกซะจากว่าจะสร้างโกลาหลขึ้นมาใหม่
ซือหมิงส่ายหน้า กังวลไปก็ไม่มีประโยชน์ ชีวิตน่ะสำคัญแต่พวกเราต้องอยู่อย่างไม่มีความหวัง…
เขาเงียบไปชั่วครู่ เผ่ามนุษย์อาจจะไม่ทำลายโกลาหลของเราก็ได้
ทำไมกัน ?
เพราะตราบใดที่โกลาหลเหล่านั้นยังอยู่ มันก็จะหล่อเลี้ยงสมบัติโกลาหลและให้ทรัพยากรจำนวนมากกับเผ่ามนุษย์ หากไม่มีโกลาหลเหล่านั้น งั้นก็มีแต่ต้องสร้างขึ้นเอง แม้ว่าเผ่ามนุษย์จะยึดอาณาเขตของเราไปได้แต่ก็ต้องใช้เวลาหลายยุคกว่าจะได้ทรัพยากรเท่ากันได้ มันไม่ได้ส่งผลดีต่อมนุษย์เลย
ความแค้นเคืองระหว่างเผ่าสวรรค์และมนุษย์นั้นไม่อาจจะแก้ไขได้ในหนึ่งรึสองวัน ไม่ว่าเผ่ามนุษย์จะเกลียดเผ่าสวรรค์แค่ไหนแต่ก็ไม่อาจจะระบายความแค้นเคืองต่อเผ่าสวรรค์ทั้งหมดได้
การทำลายโกลาหลพวกนั้นเท่ากับการส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของตัวเอง
เข้าใจแล้ว เสี่ยวซีเห็นด้วยกับคำพูดของซือหมิง แต่เมื่อพวกนี้ไม่ใช่ทหาร งั้นก็คงไม่มีปัญหาอะไรหากข้ารับพวกนี้เข้ามา
ซือหมิงสะดุ้ง ราชา แม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่ใช่ทหารของกองทัพแต่ก็น่าจะภักดีต่อใครสักคน หากท่านรับพวกนี้เข้าพวก ข้ากลัวว่าอาจจะทำให้แม่ทัพของพวกเขาไม่พอใจได้… เขาไม่ได้คัดค้านความคิดของเสี่ยวซีแต่จำเป็นต้องหาก่อนว่าพวกนี้เป็นใครแล้วค่อยคิดว่าจะรับพวกนี้เข้าพวกดีรึไม่
ไม่พอใจแล้วยังไง ? เสี่ยวซียิ้มออกมา พวกต่ำกว่าจักรพรรดินั้นข้าไม่เคยกลัวผู้ใด !
ทันทีที่พูดจบ เสี่ยวซีก็ได้แผ่คลื่นพลังออกมาครอบคลุมทุกคนเอาไว้และพูดขึ้นมาช้าๆ ข้ามีคนไม่พอ ตอนนี้ข้าอยากได้คนเพิ่มใครตกลง ใครคัดค้าน ?
นายพลทั้ง 13 คนและนายพลขั้นสูงอีก 2 คนพากันมองหน้ากัน
พวกเขารู้สึกได้ถึงคลื่นพลังของเสี่ยวซีที่แกร่งอย่างมาก มันเหนือกว่าพวกเขา คลื่นพลังนี้ต้องเป็นของแม่ทัพ
เมื่อไม่มีใครพูดอะไร งั้นข้าก็จะถือว่าพวกเจ้าตกลง เสี่ยวซีพูดขึ้นอีกครั้ง
ตอนนั้นก็มีนายพลคนหนึ่งพูดขึ้นมา ท่านแม่ทัพ ข้าเป็นคนของแม่ทัพบาม โชคร้ายที่ข้าไม่อาจจะรับใช้ท่านได้
บามรึ ? ใครกัน ? เสี่ยวซีมองไปที่ซือหมิง
แม่ทัพของเขตข่งจู้แต่เขาไม่ได้เข้าร่วมกองทัพ เขาไร้สังกัด ซือหมิงเคยได้ยินเรื่องบามมาก่อน
ไร้สังกัดรึ ? เสี่ยวซีผ่อนคลายขึ้นมา เขามองไปที่เหล่านายพล ไม่ว่าพวกเจ้าจะเป็นคนของใครมาก่อนแต่ข้าก็อยากให้พวกเจ้ารับใช้ข้าในอนาคต พวกเจ้าคัดค้านอะไรรึไม่ ?
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นนายพลขั้นสูงก็อดไม่ได้ที่จะคิ้วขมวดและแสดงท่าทีไม่พอใจออกมา ท่านแม่ทัพ ท่านทะนงตนเกินไปแล้ว…
ก่อนที่นายพลคนนั้นจะพูดจบก็พบไฟสีดำที่พุ่งมาจากเสี่ยวซี ในพริบตาไฟก็เผาไหม้ตัวเขาแผ่พลังอันน่ากลัวออกมา ร่างของเขาโดนกำจัดไปทันที จิตเองก็เช่นกัน ตัวเขาระเหยไปในพริบตา
ทุกคนพากันมองไปที่เสี่ยวซีด้วยความกลัว
นายพลขั้นสูงที่เหลืออีกคนและนายพลที่เหลือพากันเหงื่อตก
พูดว่าข้าแข็งแกร่งมันยากนักรึไง ? เสี่ยวซีพูดขึ้นมา น่าสงสารจริงๆที่ต้องตาย !
ตอนนั้นทุกคนต่างก็ตัวแข็งทื่อไป ทุกคนต่างก็พากันเงียบ