Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1826 พี่ชายคนนี้ เหี้ยมนัก

แต่ว่าตอนที่สัมผัสถึงสายตาของหลิ่วชิงเยียน หลินสวินก็ลืมตาจากการนั่งสมาธิ กล่าวเจือรอยยิ้มว่า “เป็นอย่างไร ตอนนี้เชื่อแล้วกระมัง”

หลิ่วชิงเยียนพยักหน้า ริมฝีปากเอิบอิ่มฉายรอยยิ้มขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง “จนป่านนี้ข้ายังรู้สึกเหมือนฝันอยู่เลย”

หลินสวินอึ้งไปค่อยกล่าวว่า “นี่ก็เรียกว่าฟ้าย่อมมีทางออกเสมอ แม่นางชิงเยียน ตอนนี้หอเสียงสวรรค์มีเรื่อง ตัวเองยังยากจะเอาตัวรอด สำหรับเจ้ากับอาจารย์กลับยิ่งมีแต่จะปลอดภัยขึ้น”

หลิ่วชิงเยียนร้องอืมคราหนึ่ง แววหมองหม่นที่ปกคลุมหว่างคิ้วไม่จางหายเสี้ยวนั้นก็พลอยลดลงไม่น้อย ทั้งตัวแผ่กลิ่นอายเปล่งประกายน่าตะลึงออกมาวูบหนึ่ง

นางมานั่งลงข้างๆ หลินสวิน หันหน้าถาม “ผู้อาวุโสอวี่เสวียน ท่านคิดว่าฆาตกรที่ทำเรื่องเช่นนี้จะเป็นใคร”

น้ำเสียงไพเราะเสนาะหูดุจเสียงสวรรค์

นัยน์ตาสุกใสของนางดุจดารา คิ้วตาดั่งภาพวาด ว่างเปล่าหลุดพ้น เพียงแค่ฟังนางเอื้อนเอ่ยก็เป็นความเพลิดเพลินที่หาได้ยากอย่างหนึ่ง

หลินสวินหยิบน้ำเต้าเปลือกเขียวขึ้นดื่มสุราอึกหนึ่ง พูดติดตลกว่า “ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร บางที… อาจจะเป็นยอดฝีมืออาวุโสที่รักหยกถนอมบุปผา ไม่อาจทนเห็นแม่นางชิงเยียนถูกทำร้ายก็ได้ แต่ว่า แม่นางชิงเยียนไม่อาจเรียกอีกฝ่ายว่า ‘ฆาตกร’ ได้ นี่เป็นถึงพระโพธิสัตว์มีชีวิตที่ช่วยขจัดทุกข์บรรเทาโศกคนหนึ่งเชียว”

หลิ่วชิงเยียนเหลือบมองหลินสวินปราดหนึ่ง นัยน์ตาสุกใสทอประกาย ทั้งเง้างอดทั้งดีใจ งามจนทำให้ผู้คนใจสั่น

นางขบคิดแล้วกล่าว “ไม่ว่าจะเป็นโพธิสัตว์มีชีวิตหรือไม่ ข้ารู้เพียงว่าผู้อาวุโสอวี่เสวียนออกไปข้างนอกเที่ยวหนึ่งก็นำข่าวดียิ่งกลับมาให้ข้า ภายหน้าหากมีโอกาส ข้าจะต้องตอบแทนผู้อาวุโสเต็มที่อย่างแน่นอน”

“ไม่ต้องรอภายหน้าหรอก ตอนนี้เลยแล้วกัน”

จู่ๆ หลินสวินก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา เอ่ยว่า “ข้าได้ยินมานานแล้วว่าพรสวรรค์ด้านดนตรีของแม่นางชิงเยียนเป็นเลิศ หนำซ้ำยังเป่าเครื่องดนตรีหายากที่ชื่อว่าขลุ่ยวิญญาณโบราณได้อีกด้วย ไม่ทราบข้าจะโชคดีได้ฟังสักเพลงหรือไม่”

หลิ่วชิงเยียนเล่าวอย่างตกใจ “ขลุ่ยวิญญาณโบราณ? ผู้อาวุโสได้ยินจากผู้ใดหรือ ตั้งแต่เข้ามาฝึกปราณที่หอเสียงสวรรค์ ข้ายังไม่เคยเผยเครืองดนตรีชิ้นนี้มาก่อนเลย”

ในใจหลินสวินลอบอุทานว่าซวยแล้ว ขณะที่กำลังจะอธิบาย หลิ่วชิงเยียนก็ยิ้มพลางพยักหน้า “แต่ว่าหากผู้อาวุโสชื่นชอบ ข้าน้อยแสดงฝีมืออันต่ำต้อยสักหน่อยจะเป็นไรไปเล่า”

กล่าวพลางนางก็หยิบเครื่องดนตรีที่รูปทรงคล้ายหยดน้ำ ขนาดเท่าฝ่ามือ ด้านบนมีเก้ารู พื้นผิวเผยความวาววามเกลี้ยงเกลาประหนึ่งหยกเขียวออกมา

ขลุ่ยวิญญาณโบราณ!

ส่วนลึกกลางนัยน์ตาหลินสวินวาบแววเหม่อนลอยอย่างยากจะสังเกตเห็น

ปีนั้นยามอายุเจ็ดปี ในคุกใต้เหมือง

นั่นเป็นราตรีคืนหนึ่ง หิมะหนาปลิวว่อน ท่านลู่นั่งอยู่เพียงลำพัง ยกน้ำเต้าสุรานั่งดื่มกลางพายุหิมะ

จนกระทั่งเมาได้ที่ ท่านลู่หยิบขลุ่ยวิญญาณโบราณที่พกติดตัวตลอดออกมา จากนั้นก็เรียกหลินสวินที่ตอนนั้นอายุเพียงเจ็ดปีมานั่งข้างกาย

ไม่มีบทสนทนา ท่านลู่ทำเพียงเริ่มเป่าขลุ่ยวิญญาณโบราณ

เสียงเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวนั้นลอยล่องกลางพายุหิมะทั่วฟ้าดิน เผยความเงียบเหงาและร้าวรานอย่างบอกไม่ถูก

หลินสวินที่เพิ่งอายุเจ็ดปี สิ่งแรกที่รู้คือในท่วงทำนองนี้มีความโศกเศร้าที่ไม่มีใครรู้ ความอ้างว้างที่ไม่อาจระบายอย่างหนึ่ง

ในตอนท้ายของเพลง ท่านลู่สบสายตากับหลินสวินกล่าวว่า ‘จำเพลงนี้เอาไว้ นี่เป็นร่องรอยสุดท้ายที่เหลืออยู่ก่อนที่แม่เจ้าจะจากไป’

และตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา หลินสวินก็จดจำขลุ่ยวิญญาณโบราณ จดจำบทเพลงนั้นเอาไว้

หลิ่วชิงเยียนไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินสวิน สิบนิ้วขาวกระจ่างดุจต้นหอมของนางกดลงบนขลุ่ยวิญญาณโบราณ ริมฝีปากแดงเผยอเบาๆ เริ่มเป่าบรรเลง

ท่วงทำนองไพเราะดุจดั่งเสียงสวรรค์ดังขึ้น เหมือนเสียงลมที่พัดผ่านกลางฟ้าดาราเป็นสายๆ ลอยล่องก้องกังวานอยู่ท่ามกลางสายน้ำแห่งกาลเวลาอันเวิ้งว้าง…

หลินสวินดื่มสุราเงียบๆ ความทรงจำที่ถูกผนึกประหนึ่งถูกเปิดออก ในใจนึกถึงท่านลู่ขึ้นมา นึกถึงวันเวลาในคุกใต้เหมืองสมัยยังเป็นเด็กในปีนั้น

เรือนพักอันเงียบสงบ ท้องฟ้ายามค่ำคืนดุจสีหมึก แสงดาวส่องสะท้อน ทำนองดนตรีอันไพเราะราวกับเชือกรัดรึงหัวใจผู้คน ดังสะท้อนลอยล่อง

“เพื่อสหายยอมพลีชีพ เพื่อโลกหล้ายอมเปื้อนเลือด”

เรือนพักอีกแห่งหนึ่ง เด็กหนุ่มชุดผ้าป่านเอนบนเก้าอี้โยกอย่างเกียจคร้าน

ศีรษะเขาหนุนสองแขน ไขว้ขายกกระดก ปากก็พึมพำ “อื้อ ไม่ถูก ควรจะเป็นยิ้มร่ำสุรา ฆ่าคนกลางเมืองต่างหาก”

เด็กหนุ่มชุดผ้าป่านเองก็ได้ยินเหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้นบนยานลมกรดแล้วเช่นกัน ปฏิกิริยาแรกก็คือตบต้นขาหนึ่งฉาด อุทานงึมงำ ‘พี่ชายคนนี้ เหี้ยมนัก!’

คนของเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ บอกจะฆ่าก็ฆ่า ยังไม่เหี้ยมอีกหรือ

ตอนนั้นเด็กหนุ่มชุดผ้าป่านยังคิดอยากไปหาหลินสวิน ไปพูดคุยกับคนดุร้ายคนนี้สักหน่อย ถ้าได้ดื่มสักจอกจะดีที่สุด

หากหลินสวินไม่ตกลง เขาก็จะเอาความลับไปแฉ

ถึงอย่างไรบนยานลมกรดในยามนี้ เกรงว่ามีแต่เขาคนเดียวที่รู้ชัดว่าฆาตกรในเหตุนองเลือดครั้งนี้เป็นอริยเทพคนไหน

แต่สุดท้ายเขาก็ถูกหญิงชราคนนั้นห้ามไว้ กำชับเป็นพันหนห้ามไม่ให้เขาไปยุ่มย่ามในคลื่นลมระลอกนี้เด็ดขาด แค่ยืนชมอยู่ข้างๆ ก็พอแล้ว

สิ่งนี้ทำเอาเด็กหนุ่มชุดผ้าป่านหมดสนุกยิ่ง เวลานี้เอนกายลงบนเก้าอี้โยก ฟังเสียงดนตรีที่แว่วรางๆ ออกมาจากเรือนพักไกลๆ ราวกับได้ยินเสียงสวรรค์ ภายในใจยิ่งอัดอั้นมากขึ้นอีกหน่อย

หลังจากเจ้าหมอนั่นฆ่าคนเสร็จก็สะบัดแขนเสื้อจรจาก ทั้งยังมีคนงามเคียงข้าง ฟังบทเพลงแสนวิเศษผ่อนคลายสุดๆ

ย้อนกลับมาดูตน ขนาดเรือนพักยังถูกห้ามไม่ให้ออกไป ช่างเหงาหงอยเสียนี่กระไร

เสียงเคาะประตูดังขึ้นระลอกหนึ่ง

เสียงสวบดังขึ้น เด็กหนุ่มชุดผ้าป่านพลันหยัดตัวลุกพุ่งพรวดไปเปิดประตู ปากก็เอ่ยว่า “ท่านยาย ข้าจะออกไปดูว่าเป็นใครมาเยี่ยม รับรองจะไม่ก่อเรื่องเด็ดขาด ท่านอย่าแทรกเชียว”

หญิงชราคนนั้นจนปัญญาไปครู่หนึ่ง นางรู้ดีว่านิสัยของเจ้าเด็กคนนี้ซุกซนที่สุด ไม่ได้ออกไปข้างนอกหลายวันปานนี้ จวนจะทำให้เขาอึดอัดจะแย่แล้ว

“ใครน่ะ”

เด็กหนุ่มชุดผ้าป่านเปิดประตูแล้วเดินไปรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

นอกประตูมีผู้แข็งแกร่งของหอเสียงสวรรค์กลุ่มหนึ่งยืนอยู่ ผู้นำเป็นผู้อาวุโสระดับราชันอริยะคนหนึ่งนามว่าเฉิงเวิน

“คุณชาย พวกเรามีคำถามบางอย่างอยากถามท่านหน่อย”

เฉิงเวินหน้าขรึมเคร่ง เอ่ยปากเสียงแข็ง “นอกจากนี้หากไม่ถือสา พวกเรายังจะทำการค้นที่พักของท่านด้วย คุณชายน่าจะรู้ดี คืนนี้เกิดเรื่องอุกฉกรรจ์บางอย่าง หวังว่าคุณชายจะให้ความร่วมมือ”

คำพูดแข็งกระด้าง เจือแววไม่ยอมให้ขัดคำสั่ง

สิ่งนี้ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าเด็กหนุ่มชุดผ้าป่านหุบลง กล่าวเสียงไร้แรงอยู่บ้าง “ที่แท้ก็เป็นเรื่องนี้เอง ขออภัย ข้าไม่เกี่ยวด้วย”

ปึง!

เขาปิดประตูลงตรงๆ ปากก็บ่นพึมพำ “ดันสงสัยนายน้อยอย่างข้าจริงๆ ด้วย เจ้าสมองกลวงพวกนี้ช่างมีตาหามีแววไม่ชัดๆ”

หญิงชราที่อยู่ไกลออกไปกล่าวขึ้นว่า “นายน้อย ตอนนี้ท่านเข้าใจแล้วกระมัง เจ้าหมอนี่ก็คือตัวปัญหาคนหนึ่ง ใครยุ่งด้วยคนนั้นถึงฆาต”

เด็กหนุ่มชุดผ้าป่านถอนหายใจดังเฮ้อ “ก็แค่คุยกันเท่านั้นเอง”

เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง

เด็กหนุ่มชุดผ้าป่านเลิกคิ้ว เปิดประตูออกก็เห็นพวกเฉิงเวินแต่ละคนต่างมองเขาด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร เห็นได้ชัดว่าเดือดดาลยิ่ง

“โอย ไม่ถอดใจอีก”

เด็กหนุ่มชุดผ้าป่านกอดอก ใบหน้าเปื้อนยิ้มทะเล้น “แต่ละคนหน้าตาอึมครึมเป็นคนตายเชียว ร้องไห้หน้าศพกันรึไง”

“คุณชาย ท่านโปรดเคารพกันหน่อย!”

เฉิงเวินกัดฟัน โกรธจนเกือบบันดาลโทสะ “ที่นี่แม้เป็นเขารับแขก แต่ก็เป็นอาณาเขตของหอเสียงสวรรค์ของพวกเรา ไม่ว่าท่านจะมาจากไหน วันนี้หากท่านไม่ให้ความร่วมมือก็อย่าหาว่าพวกข้าไม่เกรงใจ!”

หญิงชราที่อยู่ไกลออกไปลอบร้องว่าแย่แล้ว

แต่ไม่รอให้นางห้ามปราม ก็เห็นเด็กหนุ่มชุดผ้าป่านยื่นมือออกไปทันใด

กร๊อบ!

ลำคอของผู้อาวุโสระดับราชันอริยะของหอเสียงสวรรค์อย่างเฉิงเวินถูกบิดเป็นเชือกป่าน

จากนั้นร่างของเขาก็เหมือนถูกผลาญเผา กลายเป็นเถ้าถ่านล่องลอยลับหายในชั่วพริบตา ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่ทันได้ตอบสนองด้วยซ้ำ!

“คนที่กล้าข่มขู่นายน้อยอย่างข้า ยามนี้ตายกันหมดแล้ว เจ้าน่ะ… ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น”

เด็กหนุ่มชุดผ้าป่านเอ่ยปากพลางแย้มยิ้ม นัยน์ตาคู่นั้นหรี่ลง ทำท่าไร้พิษสงโดยสิ้นเชิง

แต่ผู้แข็งแกร่งที่ติดตามมาพร้อมกับเฉิงเวิน ตอนที่เผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มชุดผ้าป่านอีกครั้ง ร่างกายล้วนแข็งทื่อราวกับตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง สีหน้าเปี่ยมแววหวาดผวา

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset