ทันทีทนี่เฉิงอี้รับเคส เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องภายในสถาบันก็เริ่มติดต่อกับฉินชวนและโรงพยาบาลที่แม่ของฉินชวนรักษาตัวอยู่
ในเวลานี้ฉินชวนกำลังนั่งอยู่ในรถประจำทางออกจากสถาบัน
เขาชะงักไปชั่วขณะเมื่อเขาได้รับโทรศัพท์
“คุณฉิน คุณฟังโทรศัพท์อยู่หรือเปล่า คุณฉิน”
“ครับ พูดได้เลยครับ” ฉินชวนฟื้นคืนสติ น้ำเสียงตื่นเต้นของเขานั้นยากที่จะปิดไว้ได้
“เราจำเป็นที่จะต้องย้ายแม่ของคุณมายังสถาบันวิจัยของพวกเรา โปรดเตรียมการทุกอย่างให้พร้อมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในการย้ายผู้ป่วยและการดำเนินงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง”
“ตกลงครับ ผมเข้าใจแล้ว”
“คุณฉีมีคำถามอะไรอีกไหม ถ้าไม่ พวกเราก็จะรอจนกว่าแม่ของคุณได้รับการเคลื่อนย้ายมาจากโรงพยาบาลก่อนแล้วเราค่อยปรึกษากันอีกที”
“ผมขอถามสักคำถามได้ไหม”
“บอกผมมาเลย”
“ทำไมพวกคุณถึงอยู่ดีๆตัดสินใจที่จะรับเคสแม่ของผมล่ะ”
“ขอโทษคุณฉิน ผมเป็นเพียงผู้ประสานงานในการติดต่อกับคุณ ส่วนที่ว่าทำไมจึงรับเคสของแม่คุณนั้น นั่นเป็นการตัดสินใจโดยนักวิจัยของสถาบันของพวกเรา ผมไม่รู้”
“ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณมากครับ”
เมื่อวางสายแล้ว ฉินชวนก็ยังคงไม่รู้ว่าทำไมสถาบันถึงตกลงที่จะรับเคสแม่ของเขาอย่างปุบปับอยู่ดี
เขาไม่รู้ว่าทำไมเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉินชวนจะนึกถึงฉากตอนที่เขาพบกับเจี่ยนอีหลิงที่ทางเข้าสถาบันวิจัยเมื่อก่อนหน้านี้
แต่ฉินชวนก็ไม่สามารถที่จะคิดออกได้ว่าเรื่องนี้จะมีความเกี่ยวข้องกันตรงไหน
สถาบันวิจัยฮุ่ยหลิงนั้นไม่เคยไว้หน้าใคร ถึงแม้ว่าจะเป็นตระกูลใหญ่อย่างเช่นตระกูลเจี่ยนหรือตระกูลหยู ก็ไม่สามารถที่จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของสถาบันวิจัยได้
แล้วการตัดสินใจของสถาบันวิจัยจะได้รับอิทธิพลจากเพียงแค่เจี่ยนอีหลิงได้อย่างไรกัน
###
วันจันทร์ เจี่ยนอีหลิงไปที่โรงเรียนตามปกติ
ทันทีที่เธอไปถึงห้องเรียน หูเจียวเจียวก็ดูกระวนกระวาย
“อีหลิง แย่แล้ว ผลการสอบประจำเดือนจะออกมาในวันนี้” หูเจียวเจียวมองดูเจี่ยนอีหลิงด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
หูเจียวเจึยวยังพอที่จะปลอบใจตัวเองได้เมื่อตอนที่ผลการสอบยังคงไม่ออกมา แต่เมื่อผลการเรียนออกมา เธอก็ต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง
หูเจียวเจียวร้องไห้และกระวนกระวายอยู่ตั้งนาน แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะหลบซ่อนตัวที่ไหนได้
กระดาษข้อสอบถูกส่งออกมาให้กับแต่ละคน
หูเจียวเจียวมองไปยังผลของวิชาหนึ่งพร้อมกับร่ำไห้ในใจ
“ลมพัดหนาว หิมะเคว้ง ใจข้าเอง อ่อนเหนื่อยล้า”
หูเจียวเจียวร้องออกมาอย่างเศร้าสร้อย พร้อมกับฟุบหน้าลงบนโต๊ะ
หลังจากที่ร้องคร่ำครวญอยู่พักหนึ่ง เธอก็พยายามทำใจให้เข้มแข็งขึ้นมา จากนั้นก็หันไปมองกระดาษคำตอบของเจี่ยนอีหลิง
คณิตศาสตร์ 90 เต็ม 150
อังกฤษ 90 เต็ม 150
ฟิสิกส์ 72 เต็ม 150
เคมี 60 เต็ม 150
…
ผ่านพอดีไม่มีขาดไม่มีเกิน
พูดว่าผ่านก็ผ่าน
หูเจียวเจียวทั้งประหลาดใจและอิจฉา “อีหลิง เธอบนกับเทพเจ้าองค์ไหนก่อนสอบเหรอ ทำไมเธอจึงผ่านคาบเส้นทุกวิชาเลย”
ก่อนการทดสอบหูเจียวเจียวได้บอกเจี่ยนอีหลิงว่าให้พยายามเต็มที่ให้ผ่านการสอบให้ได้
และผลลัพธ์ก็คือเจี่ยนอีหลิงผ่านการทดสอบจริงๆ
ทั้งยังเป็นการผ่านแบบคาบเส้นทุกวิชา
“เธอพูดว่าให้พยายามเต็มที่ให้ผ่านการสอบ” เจี่ยนอีหลิงตอบ
“อือ..” หูเจียวเจียวรู้ว่าเธอไม่สามารถแย้งได้
เธอพูดเช่นนั้นจริงๆ เธพูดว่าพวกเธอจะต้องมีความฝัน เผื่อบางทีจะโดนผีเข้า*
ปัญหาก็คือ เจี่ยนอีหลิงโดนผีเข้า แต่เธอไม่โดน
หูเจียวเจียวรู้สึกเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
หูเจียวเจียวเห็นคะแนนภาษาจีนของเจี่ยนอีหลิงอยู่ที่ 96 คะแนน ซึ่งคะแนนผ่านอยู่ที่ 90 จากคะแนนเต็มทั้งหมด 150 คะแนน ซึ่งเจี่ยนอีหลิงได้มากกว่าคะแนนผ่านอยู่ 6 คะแนน
นี่เป็นความผิดพลาดของเจี่ยนอีหลิง เจี่ยนอีหลิงสามารถประเมินแต้มของวิชาทางวิทยาศาสตร์อย่างเช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ได้อย่างแม่นยำ แต่เธอไม่สามารถประเมินได้แม่นยำสำหรับวิชาภาษาจีน
———————————————————-
ผู้แปล * โดนผีเข้า = เกิดปาฏิหาริย์