เจี่ยนอีหลิงเขียนเรียงความไม่กี่บรรทัดอย่างลวกๆ คิดว่าเธอคงจะไม่ได้แต้ม แต่อาจารย์ถึงกับให้คะแนนเธอมากมายกับ “ความพยายาม”
และที่เธอคิดว่าตอบได้ถูกต้องสำหรับคำถามความเข้าใจที่ถูกต้องในการอ่านนั้น เธอได้ศูนย์คะแนนทั้งหมด
หูเจียวเจียวก็เพิ่งเห็นคำตอบความเข้าใจที่ถูกต้องในการอ่านของเจี่ยนอีหลิง
ทันทีที่เธอเห็นคำตอบของเจี่ยนอีหลิงได้ชัดเจน หูเจียวเจียวถึงกับมีสีหน้าแข็งทื่อ
คำถาม – ในย่อหน้าสุดท้าย ทำไมพระเอกจึงมีตาแดง
คำตอบของเจี่ยนอีหลิง – เมื่อหลอดเลือดของเยื่อบุตาขาวและเนื้อเยื่อตาขาวขยายออกเบียดกัน จะทำให้เกิดเลือดคั่งภายใต้สถานการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นสีขาวในดวงตาอาจจะดูเป็นสีแดง
คำถาม – คุณคิดอย่างไรกับประโยคที่ว่า “ปลายนิ้วที่ถือร่มของเขานั้นมีสีขาวขึ้นบ้างเล็กน้อย และทันใดนั้นเองเขาก็รู้สึกว่าฤดูใบไม้ร่วงนั้นย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม”
คำตอบของเจี่ยนอีหลิง – โดยทั่วไปแล้ว มันเกิดจากการที่เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ถ้าหากว่าเขาไม่ต้องการที่จะเข้ารับการรักษาเป็นพิเศษ เขาก็ควรจะรักษาร่างกายให้อบอุ่น ไม่ออกกำลังกายอย่างหักโหม และหลีกเลี่ยงการยกของหนัก”
ดวงตาของหูเจียวเจียวนั้นถึงกับจ้องเขม็ง
ระบบสมองของเจี่ยนอีหลิงประหลาดเกินไปแล้ว
สมาชิกคณะกรรมการนักเรียนหลิวเหวิน เดินเข้ามาหาและพูดกับหูเจียวเจียวว่า “หูเจียวเจียว ฉันคิดว่าเธอคงต้องกลับบ้านไปเก็บค่าเช่าแล้วจริงๆล่ะ”
หูเจียวเจียวตกไปหกจากเก้าวิชาในครั้งนี้
หูเจียวเจียวสะอื้น “พี่เหวิน อย่ากดดันฉันเลย ฉันยังจะต้องกลับบ้านในวันนี้และต้องทนแบกรับความรักอันหนักหน่วงจากแม่ของฉัน น้ำตาของฉันเหมือนแม่น้ำที่เชี่ยวกราก บาปของฉันเป็นเหมือนกับฝุ่นสีแดงที่คละคลุ้ง”
หลิวเหวินยอมปล่อยหูเจียวเจียว แล้วหันมาพูดกับเจี่ยนอีหลิงว่า “เพื่อนนักเรียนเจี่ยนอีหลิงมีพัฒนาการที่ดีมาก ขอให้มุ่งมั่นยิ่งขึ้นไปในการต่อสู้ครั้งหน้า และพยายามสอบให้ได้ในครั้งต่อไป ฉันให้เธอยืมบันทึกและปรึกษาได้ตลอดเวลา”
ในการสอบประจำเดือนนี้เจี่ยนอีหลิงผ่านการสอบ เมื่อเปรียบเทียบกับการสอบเดือนแรก เจี่ยนอีหลิงได้มีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด ถือว่าเธอหลุดออกจากกลุ่มนักเรียนที่สอบตกของห้องแปดอย่างเป็นทางการ
หลิวเหวินยังคงมีท่าทางมั่นคง ทัศนคติที่เธอมีต่อเจี่ยนอีหลิงนั้นขึ้นกับผลการเรียนของเจี่ยนอีหลิง
ส่วนสำหรับเรื่องวุ่นวายในฟอรัมของโรงเรียนนั้น หลิวเหวินไม่เคยสนใจมันแม้แต่น้อย ทั้งยังไม่มีผลต่อทัศนคติที่มีต่อเจี่ยนอีหลิงด้วยเช่นเดียวกัน
หูเจียวเจียวพลันฟื้นคืนขึ้นมามีชีวิตชีวาอย่างรวดเร็ว “พี่เหวิน ฉันต้องการบันทึกด้วยเหมือนกัน ฉันต้องผ่านการสอบ ฉันต้องหาทางผ่านการสอบ ห้ามทอดทิ้งฉันไปอย่างนี้ อย่าปล่อยให้ฉันถูกพวกวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทับถมอยู่เพียงลำพัง”
หลิวเหวินตอบกลับว่า “เธอกลับไปจ้างครูสอนพิเศษสิ ฉันได้ยินว่าก่อนหน้านี้อีหลิงได้จ้างครูสอนพิเศษ ดูเหมือนว่าจะมีประสิทธิภาพเป็นอย่างดี”
“อย่าพูดอะไรแบบนั้น ครูสอนพิเศษของอีหลิงนั้นไม่ได้มีประโยชน์อะไร อีหลิงบอกว่าเธอเกลียดครูสอนพิเศษคนนี้”
หูเจียวเจียวได้ถามเจี่ยนอีหลิงเมื่อสองวันก่อน
ขณะที่หูเจียวเจียวกำลังพูดกับหลิวเหวิน ข้อความจากใครบางคนที่เธอได้ติดต่อมาก่อนก็เด้งขึ้นที่หน้าจอโทรศัพท์ของเจี่ยนอีหลิง
[Dr.FS พวกเรามีเบาะแสกับเรื่องที่คุณต้องการสืบสวนแล้ว ผมไม่รู้ว่าผมจะสามารถแลกเปลี่ยนกับคุณได้ไหม]
ครั้งที่แล้วเจี่ยนอีหลิงติดปัญหา อีกฝ่ายนั้นได้พยายามที่จะติดต่อกับเจี่ยนอีหลิงแต่ว่าถูกเจี่ยนอีหลิงปฏิเสธไป
และความจริงก็ปรากฏว่าเรื่องของเจี่ยนอีหลิงครั้งนั้นก็ไม่ต้องการให้พวกเขาช่วย
และเงื่อนไขของเจี่ยนอีหลิงนั้นก็ชัดเจน มีเพียงแต่หากว่าเธอพบกับสิ่งที่เธอต้องการ เธอก็อาจจะพิจารณาเงื่อนไขที่อีกฝ่ายเสนอมาให้
[วิดีโอเหรอ]
[ใช่ แต่พวกเรายังไม่ได้มันมา พวกเราเพียงแค่มั่นใจว่ามันอยู่ในมือของเหอเยี่ยน เหอเยี่ยนเก็บมันไว้ในเมมโมรี่การ์ด แล้วก็ยังไม่ได้ทำลายมันทิ้ง]
[แหล่งข้อมูลจากไหน]
[พวกเราเจอคนที่ดูแลกล้องวงจรปิดที่โรงแรมเฮ่อหยุนซานซึ่งถูกเหอเยี่ยนซื้อตัวไว้ และพวกเราบอกให้เขารับสารภาพ]