โทรศัพท์ดังขึ้น เจี่ยนหยุ่นเฉิงเหลือบมองไปที่หมายเลขโทรศัพท์ และทำการรับสายในทันที
เสียงดังออกมาจากโทรศัพท์อย่างแจ่มใสและนุ่มนวล
“พี่ ผมอยู่ในห้องแล็บ ไม่ได้พกโทรศัพท์มือถือไว้เลยไม่มีคนรับสาย พี่โทรมาหาผมตั้งเจ็ดแปดรอบ มีอะไรสำคัญหรือเปล่า”
เดิมทีเป็นเจี่ยนหยุ่นเฉิงที่โทรไปหาก่อนหลายครั้ง
“ถ้าพอจะสะดวก ก็กลับมาเร็วหน่อยนะ”
“เป็นอะไรไป พี่ใหญ่ ทำไมถึงอยากให้ผมกลับมากะทันหัน”
“มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเซี่ยวหลิง”
“เซี่ยวหลิงเป็นอะไรไป เธอมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า หรือว่าป่วย”
เสียงของเจี่ยนหยุ่นโม่ในโทรศัพท์เต็มไปด้วยความตึงเครียด
“เธอไม่เป็นไร”
“ถ้าเธอไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” เจี่ยนหยุ่นโม่รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
“แต่มีบางอย่างที่ฉันอยากให้นายกลับมา” เจี่ยนหยุ่นเฉิงเน้นย้ำซ้ำๆ
“พี่ชาย ถ้าไม่มีอะไรผิด ผมก็จะยังไม่กลับไป … “
เสียงของเจี่ยนหยุ่นโม่เบาลง ราวกับว่ามีบางอย่างที่ไม่สะดวกกั้นขวางเขาอยู่
“เซี่ยวหลิงอารมณ์ไม่ดี เธอจะได้มีความสุขขึ้นบ้างถ้านายกลับมา”
“อารมณ์ไม่ดีเหรอ เกิดอะไรขึ้นกับเธอ มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ มันหนักหนาไหม”
เสียงของเขากลายเป็นกังวลอีกครั้ง
“ค่อนข้างหนักหน่อย ถ้านายสะดวก ก็กลับมาอยู่เป็นเพื่อนเธอหน่อยสิ”
“พี่ครับ ผม … ” เจี่ยนหยุ่นโม่ลังเลอยู่นาน
เจี่ยนหยุ่นเฉิงสังเกตเห็นบางอย่างแปลกไป “หยุ่นโม่ นายเป็นอะไรไป แต่ก่อนพอนายได้ยินว่าเซี่ยวหลิงมีบางอย่างผิดปกติ นายก็รีบกลับมาโดยไม่รั้งรอ แต่ปฏิกิริยาของนายตอนนี้แปลกไปอยู่บ้าง”
“ไม่มีอะไร เพียงแค่ผม…” เสียงของเจี่ยนหยุ่นโม่เบาลงและเบาลง น้ำเสียงนั้นเหมือนตำหนิตัวเองอย่างคลุมเครือ
“ถ้านายไม่สะดวกจริงๆที่จะกลับมา ก็ไม่ต้องกลับมาชั่วคราวก็ได้”
“ผมจะคิดเรื่องนี้อีกครั้ง”
###
ในที่สุดโม่ชืออวิ้นก็ได้เห็นฉินชวนอีกครั้ง
แต่คราวนี้ เป็นตอนที่เธออยู่บนรถบัสกำลังจะกลับบ้าน
เมื่อมีอันธพาลทำการลวนลามผู้หญิงคนหนึ่งบนรถบัส ฉินชวนเป็นคนที่ยืนขึ้นช่วยหญิงคนนั้น
โม่ชืออวิ้นมองไปที่เขาและรู้สึกว่านี่เป็นแสงสว่างเพียงจุดเดียวในชีวิตเธอในขณะนี้
ใช่แล้ว เธอได้พบกับสิ่งที่ไม่น่ายินดีและน่าผิดหวังมากมายเมื่อเร็วๆนี้
แต่เมื่อเธอได้พบกับเขา นั่นทำให้เธอรู้สึกวาบหวามเล็กน้อยเมื่อได้นึกถึง
เมื่อฉินชวนลงจากรถบัส โม่ชืออวิ้นก็เดินตามลงไป
ฉินชวนหยุดและหันหน้าไปมองโม่ชืออวิ้น
สำหรับฉินชวนแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นโม่ชืออวิ้น
เพราะว่าครั้งสุดท้ายตอนที่เขาอยู่ในหอประชุมของโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัว เขาต้องเผชิญหน้ากับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สามทั้งหมด
“ฉิน พี่ชายฉินชวน… “
โม่ชืออวิ้นแสดงความเขินอายออกมาในเมื่อนี่เป็นครั้งแรกของเธอที่ริเริ่มทักทายใครสักคน และความเขินอายทำให้แก้มเธอมีหมอกเมฆสีแดงสองก้อน
ปกติแล้วเธอจะเป็นคนที่มีพฤติกรรมในการสื่อสารระหว่างบุคคลอย่างเป็นธรรมชาติ
แต่ไม่รู้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ มันผิดปกติ เธอรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติมาก และเธอก็ไม่สามารถที่จัดการกับมันได้อย่างเยือกเย็น
“เธอรู้จักฉันเหรอ” ปฏิกิริยาของฉินชวนเย็นชาอย่างมาก
“ก็ … พี่มาที่โรงเรียนของเราเพื่อกล่าวสุนทรพจน์ในวันนั้น”
“ขอโทษ ฉันไม่คิดว่า ฉันจำเป็นจะต้องรู้จักคุณ”
ฉินชวนรู้สึกขยะแขยงกับการเข้ามาสนทนาโดยจงใจของโม่ชืออวิ้น
เขาไม่คิดว่าตัวเขาจำเป็นจะต้องรู้จักเด็กสาวมัธยมปลายสักคน
ฉินฉวนหันตัวกลับและจากไปอย่างเฉียบขาดไม่ไยดี
โม่ชืออวิ้นยืนอยู่ที่นั่นด้วยความงุนงง มองดูฉินชวนจากไปและอารมณ์เธอก็จมดิ่งลงทีละน้อย
ลืมมันไปเถอะ ไม่มีโชคชะตาต่อกัน
โม่ชืออวิ้นคิด
ขณะที่กำลังจะหันหน้าจากไป ทันใดนั้นเธอก็เห็นร่างของเจี่ยนอีหลิง
โม่ชืออวิ้นหยุดชะงักทันที
นั่นคือเจี่ยนอีหลิงจริงๆ คนที่ยืนอยู่กับฉินชวนก็คือเจี่ยนอีหลิงจริงๆ
————————————————-
ผมลองเปลี่ยนวิธีการลงใหม่ดังนี้ นับจากตอน 241