เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 243-244

大姐大 บทที่ 243 เปรียบเทียบโม่ชืออวิ้นและเจี่ยนอีหลิง 1

โม่ชืออวิ้นสั่นคลอนแล้ว

“การแสวงหาความจริงจากข้อเท็จจริง” ของชูชาได้ปัดเป่าจิตวิทยาที่น่ารังเกียจดั้งเดิมของเธอทิ้งไป

สิ่งที่ชูชาพูดนั้นไม่ผิด แม้ว่าจะโพสต์รูปถ่าย แต่พวกเธอก็แค่ส่งรูปถ่าย และรูปถ่ายที่ส่งไปนั้นก็เป็นของจริง

เมื่อการคิดแบบนั้นทำให้เกิดความสบายทางจิตใจ โม่ชืออวิ้นจึงทำในสิ่งที่เธอไม่เคยทำมาก่อน

เธอส่งรูปถ่ายไปให้ชูชา

หลังจากที่ชูชาได้รูปถ่ายแล้ว เธอก็เข้าไปที่ฟอรัมของโรงเรียนในทันทีเพื่อสร้างโพสต์

###

เจี่ยนอีหลิงที่ได้กลับมาที่โรงเรียน ไม่รู้ว่าการพบปะกับฉินชวนจะเกิดเป็นเรื่องเข้าใจผิด

สำหรับเธอแล้วยังมีเรื่องอะไรต้องทำอีกมากมาย

แม้ว่าการผ่าตัดของเจี่ยนหยุ่นน่าวจะเสร็จสิ้น แต่โครงการของแม่ของฉินชวนและโครงการของท่านผู้เฒ่ายังคงรออยู่ตรงหน้าเธอ

ในเวลาเดียวกัน ครีมของเธอก็จะเริ่มการทดลองทางคลินิกด้วยเช่นเดียวกัน

เจี่ยนอีหลิงใช้เวลาในชั้นเรียนไปกับงานต่างๆ และไม่มีเวลาว่างที่จะจัดการกับมุมมองของคนอื่นที่มีต่อเธอ

“อีหลิง ดูที่ฟอรัมสิ มีคนโพสต์เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเธออีกแล้ว”

หูเจียวเจียวรู้สึกไม่พอใจแทนเจี่ยนอีหลิงอยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าเพื่อนร่วมโต๊ะเธอยุ่งอยู่กับการทำงานของตัวเองทุกวัน แต่ทุกคนก็มักจะวิพากษ์วิจารณ์เธอ นี่ไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง

ดูเหมือนว่าตั้งแต่เจี่ยนหยุ่นน่าวได้รับบาดเจ็บ เจี่ยนอีหลิงก็ถูกมองว่าเป็นสัตว์ประหลาด

แม้ว่าข้อเท็จจริงจะได้รับการชี้แจงในภายหลังแล้ว แต่ก็ยังมีคนที่อยากจะกัดเจี่ยนอีหลิง เพื่อพิสูจน์ว่าความเห็นก่อนหน้านี้ของพวกเขานั้นถูกต้อง

เจี่ยนอีหลิงเห็นว่ามีโพสต์ยอดนิยมอีกสองโพสต์บนฟอรัม

เรื่องหนึ่งเกี่ยวกับโม่ชืออวิ้น

[เทพธิดาเชิ่งหัวได้รับรางวัลการแข่งขันฟิสิกส์อีกครั้ง เปิดเผยผลงานที่โดดเด่นของเทพธิดาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา]

เนื้อหาในโพสต์นี้เป็นผลงานที่โดดเด่นมากมายที่โม่ชืออวิ้นทำไว้ในสามปีของโรงเรียนมัธยม

ไม่เพียงแต่ผลการสอบตามปกติเท่านั้นที่นับว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุด แต่ก็ยังได้รับรางวัลจากการแข่งขันต่างๆอีกด้วย

ยกเว้นการแข่งขันเคมีที่ได้รับรางวัลสูงครั้งล่าสุดเท่านั้น การแข่งขันอื่นๆเกือบทุกด้านล้วนมีชื่อของโม่ชืออวิ้น

ไม่เพียงแค่นั้น โม่ชืออวิ้นยังได้รับรางวัลกระโดดสูง และกระโดดไกลในการแข่งขันกีฬาของโรงเรียน และรางวัลเย็บปักถักร้อยเยาวชน

ผู้โพสต์ให้บทสรุปสุดท้ายของโม่ชืออวิ้นก็คือ การพัฒนารอบด้าน ทั้งด้านคุณธรรม สติปัญญา พลศึกษา และศิลปะ

ความคิดเห็นด้านล่างนี้ก็ยังเป็นคำชม

แม้ว่าจะเคยมีเหตุการณ์ที่เหอเจี่ยนจุนสร้างปัญหาในโรงเรียนมาก่อน แต่เมื่อเทียบกับผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมของโม่ชืออวิ้นแล้ว ทุกคนก็รู้สึกว่าแม้จะมีพ่อเช่นนี้ โมชืออวิ้นก็ยังคงสามารถประสบความสำเร็จได้ นี่นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เรียนไม่ดีพอในโรงเรียน โม่ชืออวิ้นเป็นแบบอย่างของพวกเขาโดยไม่ต้องสงสัย

โพสต์ยอดนิยมอีกเรื่องก็คือเรื่องเกี่ยวกับเจี่ยนอีหลิง

[แม้ว่าเธอจะไม่ได้ผลักเจี่ยนหยุ่นน่าว แต่เจี่ยนอีหลิงก็ยังคงสร้างความอับอายให้กับโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัว]

หลังจากคลิกเข้าไป ก็จะเป็นภาพของเจี่ยนอีหลิง ในภาพนั้นเจี่ยนอีหลิงและฉินชวนกำลังนั่งอยู่ด้วยกันในร้านกาแฟ พูดคุยและดื่มกิน ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมาก

เนื่องจากฉินชวนมาที่โรงเรียนมัธยมเชิ่งหัวเพื่อให้คำบรรยายและทำให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายในตอนนั้น ทุกคนจึงยังจำเขาได้และรู้ว่าเขาไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างเขากับเจี่ยนอีหลิง

ถ้าดูแค่รูปถ่ายก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

เป็นข้อความด้านล่างที่น่าตื่นเต้นกว่า

ข้อความเป็นเหมือนบทความที่เขียนบรรยายว่า เจี่ยนอีหลิงอาศัยความมั่งคั่งและอำนาจของครอบครัวสร้างความสัมพันธ์กับฉินชวนอย่างไร และทั้งสองได้พบปะกันอย่างไร ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนพัฒนาไปอย่างไร

ในคำอธิบายนี้เจี่ยนอีหลิงเป็นลูกสาวเศรษฐีที่ต้องการเลี้ยงเด็ก

ฉินชวนเป็นคนที่ยอมสละหน้าตาเพื่อความก้าวหน้าทางอาชีพการงานของเขา

และเนื่องจากเจี่ยนอีหลิงยังเด็ก คำอธิบายนี้จึงทำให้เหมือนกับว่าเจี่ยนอีหลิงนั้นน่ารังเกียจและไร้ยางอาย

บทที่ 244 เปรียบเทียบโม่ชืออวิ้นและเจี่ยนอีหลิง 2

หูเจียวเจียวรู้สึกรำคาญเป็นอย่างมากกับคำอธิบายนี้ “คนนี้เป็นคนแบบไหนกัน ทำไมเขาจึงพูดราวกับว่าเขาได้ประสบมาด้วยตัวเอง”

เจี่ยนอีหลิงยังคงอ่านโพสต์นี้ เธอไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับฉินชวนมากเกินไป

เนื้อหาของโพสต์เป็นสิ่งที่เธอไม่อยากเห็นเป็นอย่างมาก

หวังเซี่ยงจ้งเดินมา ในเมื่อเขาก็เห็นเนื้อหาของโพสต์ที่น่าสนใจของวันนี้

“บางครั้งมันก็เจ็บปวดจริงๆที่ต้องมีการเปรียบเทียบ บางคนเก่งทุกเรื่องและมีความสามารถหลากหลาย พวกเขาไม่เพียงแต่ดูดี แต่ยังมีผลการเรียนที่ดี มีพัฒนาในหลายๆด้านอีกด้วย แต่บางคนก็ทำอะไรไม่ได้เลย สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้ก็คืออวดความร่ำรวยของตัวเองได้ทุกวัน แม้ว่าพวกเขายังเด็ก พวกเขาก็เรียนรู้วิธีไล่ล่าดาราดังและตกหลุมรักตั้งแต่เล็ก”

โพสต์ของเจี่ยนอีหลิงและโม่ชืออวิ้นถูกวางเคียงข้างกัน ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างชัดเจน

โม่ชืออวิ้นเป็นตัวอย่างสำหรับทุกคนที่จะเรียนรู้

และเจี่ยนอีหลิงก็เป็นสื่อการสอนเชิงลบอย่างไม่ต้องสงสัย

หูเจียวเจียวโต้กลับด้วยน้ำเสียงรำคาญ “หวังเซี่ยงจ้ง อีหลิงเพิ่งได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันเคมี อย่าทำเป็นความจำเสื่อม”

“ฉันได้ยินมาว่า ผู้ชนะการแข่งขันจะได้พบกับคนที่สำคัญมากหากชนะการแข่งขันครั้งนั้น ฉันคิดว่าเป็นเพราะคนบางคนใช้เงินเพื่อซื้อ “ตั๋วเข้าชม” เพื่อให้คนในครอบครัวของพวกเขาได้พบกับคนมีอำนาจและอิทธิพล ถูกไหม”

หวังเซี่ยงจ้งไม่ได้เรียกชื่อใครหรืออธิบาย เขาแค่คุยแบบเปรยๆ ทำให้ตนเองไม่มีความผิด

เจี่ยนอีหลิงหันหน้ามองไปที่หวังเซี่ยงจ้งพร้อมกับเตือนด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

“ดูแลตัวเองให้ดี” น้ำเสียงนั้นนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ แต่ดวงตาเธอนั้นแข็งกร้าวพอสมควร

“โอ เธอกำลังขู่ฉันเหรอ เธอกำลังรังแกคนอื่นงั้นเหรอ” เสียงของหวังเซี่ยงจ้งเต็มไปด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์

เจี่ยนอีหลิงไม่พูดกับเขาต่อ

ระฆังชั้นเรียนดังขึ้น และหวังเซี่ยงจ้งก็ต้องกลับไปยังที่นั่งของตนเอง

ในฟอรัมมีคนหลายคนที่มีความคิดเห็นที่คล้ายกับหวังเซี่ยงจ้ง

โม่ชืออวิ้นสมควรได้รับการยกย่องเป็นเทพธิดา เธออยู่โรงเรียนมาสามปีแล้ว ความโด่งดังและชื่อเสียงที่เธอสะสมมานั้นดีมาก

เจี่ยนอีหลิงไม่แปลกใจหรือกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ โม่ชืออวิ้นเป็นตัวละครในผลงานต้นฉบับอยู่แล้ว

เจี่ยนอีหลิงไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโม่ชืออวิ้นและฉินชวน

แต่เนื่องจากสองโพสต์ของวันนี้ ทั้งสามจึงถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์ร่วมกัน

เจี่ยนอีหลิงติดต่อกับคนบางคนจากรายชื่อติดต่อในโทรศัพท์ของเธอ และบอกเขาว่าเธอต้องการลบโพสต์ที่เกี่ยวกับเธอในฟอรัมของโรงเรียน

ในอีกด้านหนึ่งเจี่ยนหยุ่นเฉิงก็เห็นโพสต์เกี่ยวกับเจี่ยนอีหลิง

หลังจากที่จ๋ายหวินเชิ่งทำให้ตกตะลึงในครั้งนั้น เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็เริ่มให้ความสนใจกับฟอรั่มของโรงเรียนมัธยมปลายเชิงหัว

แน่นอนว่าเขารู้ว่าชายในรูปถ่ายนั้นก็คือฉินชวน

เขาขมวดคิ้ว ฉินชวนควรจะสอนบทเรียนให้เซี่ยวหลิงจบไปแล้ว ทำไมทั้งสองต้องมาเจอกันในร้านกาแฟอีก

แต่ประเด็นคือเนื้อหาของโพสต์นี้มีเจตนาร้าย ต้องการที่จะใส่ร้ายเจี่ยนอีหลิง

เจี่ยนหยุ่นเฉิงโทรระหว่างประเทศถึงฮั่วอวี้

ทันทีที่มีการเชื่อมต่อสาย ฮั่วอวี้ก็พูดขึ้นมาก่อน “นายน้อยเฉิง ฉันรู้ว่าทำไมนายถึงโทรหาฉัน โพสต์ของเซี่ยวหลิงใช่ไหม ฉันเห็นมันเมื่อกี้นี้เอง ฉันได้เฝ้าระวังตั้งแต่นายบอกฉันครั้งที่แล้ว ตราบเท่าที่ระบบของฉันได้รับข้อความใหม่กับคีย์เวิร์ด “อีหลิง” นี้ ฉันจะได้รับการแจ้งเตือนในทันที

ระบบของฮั่วอวี้จะดึงข้อมูลเกี่ยวกับเจี่ยนอีหลิงทางอินเทอร์เน็ตโดยอัตโนมัติ เขาทำให้ระบบทำการการคัดกรอง และจากนั้นก็จะพิจารณาว่าเกี่ยวข้องกับข้อมูลของเจี่ยนอีหลิงหรือครอบครัวของเจี่ยนหยุ่นเฉิงหรือไม่ ก่อนที่จะส่งถึงเขา

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม ครั้งสุดท้ายที่เจี่ยนอีหลิงถูกตั้งค่าหัวบนเว็บมืด เขาจึงรู้เป็นคนแรก

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
Status: Ongoing
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset