ตอนที่ 69 : วันสุดท้ายในห้างสรรพ สินค้า
มาร์คเริ่มมองไปรอบๆรถและตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างรถคันนี้นั้นถูกตกแต่งอย่างหรูหรารถมีความยาวสองร้อยเก้าสิบนิ้วและกว้างแปดสิบนิ้วพื้นที่คนขับและพื้นที่ผู้โดยสารเชื่อมต่อกันทําให้สา มารถเข้าถึงพื้นที่ได้จากทั้งสองด้าน
ที่นั่งผู้โดยสารเรียงรายตามด้านข้างของรถเก้าอี้เป็นโซฟาในห้องนั่งเล่นซึ่งมีเยอะกว่าเบาะรถทั่วไปด้านหลังมีระบบความบันเทิงและบาร์ขนาดกะทัดรัดพร้อมแก้วไวน์แขวนอยู่อย่างเรียบร้อยจากชั้นวางนอกจากนี้ยังมีตู้เย็นขนาดเล็กที่สูงพอๆกับบาร์ขนาดกะทัดรัด
ระบบความบันเทิงประกอบด้วยจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่และลําโพงขนาดใหญ่ด้านข้างซึ่งติดตั้งไว้ที่ด้านหลังส่วนบนของรถด้านหลังบาร์และตู้เย็นซึ่งเป็นพื้นที่ภายใต้ระบบความบันเทิงมีพื้นที่สําหรับเก็บของมองไปที่ด้านหลังของที่นั่งคนขับมีตู้ขนาดเล็กและติดตั้งอยู่ด้านบนของตู้เป็นอุปกรณ์หน้าจอสัมผัส
มาร์คเริ่มตรวจสอบที่นั่งคนขับเขาพยายามสตาร์ทรถและมันก็ค่อยๆทํางาน อย่างนุ่มนวลเขาก็ได้ดับรถลงทันทีเมื่อมันจู่ๆรถก็ได้สตาร์ทติดทําให้เป็นจุดสนใจแก่ผู้รอดชีวิตที่พักอยู่ตรงด้านฝั่ง ตะวันออก
เมื่อมองไปที่มาตรวัดเขาเห็นน้ำมันเต็มไปเพียงครึ่งเดียวถ้าจําไม่ผิดความจุน้ำมันของรถรุ่นนี้อยู่ที่ประมาณร้อยลิตรของดีเซลเขาจําไม่ได้ว่าน้ำมันจํา นวนนั้นจะไปได้ไกลแค่ไหนดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าสําหรับพวกเขาที่จะตุนน้ำมันไว้หากทําได้
เมื่อตรวจสอบระบบแผนที่นําทางมันก็ไม่ประโยชน์ไปแล้วมันจําเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตซึ่งมันไม่ทํางานอีกต่อไปมันสามารถใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายเชื่อมต่อได้แต่ตอนนี้ยังไม่มีสักอันที่สามารถใช้ได้และเขาก็ไม่สามารถตรวจสอบได้
จากนั้นเขาก็มองไปที่พื้นที่ผู้โดยสารเหมยได้ตรวจดูของในตู้เย็น จากฝั่งของเขาเขานั้นเห็นขวดไวน์ราคาแพงอยู่ข้างในเขาไม่ใช่นักดื่มเท่าไหร่และไม่ได้สนใจในการดื่มแบบนั้นด้วยเขาไม่รู้จัก แบรนด์เครื่องดื่มมากเท่าไหร่ด้วยซ้ํา
เมื่อเขามองไปที่แอ็บบีเกล เธอก็ได้กําลังซื้อของที่อยู่ในตู้ที่อยู่ข้างหลังเขาเมื่อเขาเห็นของที่อยู่ในตู้มาร์คก็ได้พุ่งตัวเข้ามาหาเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ทันทีเขาปิดตู้นั้นและอุ้มแอ็บบีเกลออกไปทัน
“มีอะไรผิดปกติหรอคะพี่?”
เหมยสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆของมาร์คได้และถามออกไป
“เหมยพาเกลออกไปแล้วรอข้างนอกนะ”
มาร์คไม่ตอบคําถามของเธอและเพียงแค่ขอให้เด็กสาวสองคนนี้รออยู่ข้างนอกยานพหนะแอ็บบีเกลมองด้วยความสับสนเมื่ออยู่เธอก็ถูกอุ้มออกไปแต่เธอก็ไม่ได้ดื้อรั้นในขณะที่เหมยนั้นรับเด็กสาวคนนี้เข้ามาอยู่กับเธอ
เด็กสาวที่สับสนทั้งสองคนจ้อไปที่รถในขณะที่มาร์คปิดประตูใส่พวกเขา
ภายในยานพหนะ มาร์คเปิดตู้เล็กๆนั่นขึ้นมาอีกครั้งของในตู้นั้นมีของเล่นอย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ของเล่นสําหรับเด็กเขาดึงตู้ด้านล่างเปิดออกมีกล่องเล็กๆที่มีซองฟอยล์หลายอันวางเรียงกันอย่างเรียบร้อยเป็นวงกลมคล้ายแหวนสามารถมองเห็นได้บนพื้นผิวของ ซองฟอยล์ที่ระบุได้ว่าของสิ่งนั้นคืออะไรข้างกล่องมีแคปซูลยาและแท็บเล็ตที่ไม่มีฉลากอีกกล่องหนึ่งอยู่บนซองทรงกลม
ตอนนี้มาร์คสามารถเดาจุดประสงค์ที่แน่นอนของชายอ้วนคนนั้นได้แล้ว สําหรับเขาที่จะเป็นเจ้าของรถที่ออกแบบมาเช่นนี้เขาเป็นชายอ้วนที่ต่างต้องโดนผู้หญิงรังเกียจเขามั่นใจว่าคือพลังของเงิน แม้ว่าจะไม่ใช่ทั้งหมดแต่ผู้หญิงหลายคนก็ถูกดึงดูดโดยผู้ชายที่ร่ํารวยไม่ว่าพวกเขาจะหน้าตาเป็นอย่างไรหรืออายุของพวกเขาตราบ ใดที่พวกเขามีเงินมากมาย
เขายังคงค้นรถทั้งคันตู้ใต้เบาะพื้นที่ เก็บของและช่องด้านบนเบาะผู้โดยสารแม้แต่ช่องเล็กๆบนพื้นที่คนขับก็ไม่ได้ รับการยกเว้น มาร์คยังเปิดระบบความบันเทิงโดยใช้หน้าจอสัมผัสบนตู้ด้านหลังเบาะคนขับและเรียกดูเนื้อหาในฐานข้อมูลซึ่งเขายังพบ”เอกสารการวิจัย”ระดับพรีเมียมอีกมากมาย
มาร์คดําเนินการลบ “เอกสารการวิจัย”ทั้งหมด และใส่ “ของเล่น” ทั้งหมดลงในกระเป๋าที่เขาพบในพื้นที่บรรทุกสินค้าและออกไปจากรถในขณะที่เขาตัดสินใจที่จะเก็บยาคุมกําเนิดไว้ที่ตู้ล่าง แน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อการใช้งานของเขาแต่เพื่อเพื่อนของเขาบางคนแต่งงาน แล้วและจะพาคู่ครองมาด้วยอย่างแน่นอนใครจะรู้ว่าพวกเขาจะตัดสินใจทําอะไรเมื่อไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ
เมื่อเขาออกมาจากรถโอเดลินาก็ได้กลับมาพร้อมกับคนอีกหลายคนเบอนาร์ดและเจมส์คือคนที่เธอพามาด้วยและพวกเขาก็ได้ถือเครื่องมืออุกปกรณ์หลายอย่างมา
พวกเขามองไปที่มาร์คด้วยความสับสนและมองที่กระเป๋าที่เขาถือ
“เจ้านายคะ นั่นอะไร?”
โอเดลินาถามซึ่งทําให้พนักงานมองไปที่เธอพวกเขายังคงไม่เคยได้ยินใครเรียกชื่อนั้นออกมาว่า“หัวหน้า”มันฟังดูแปลกสําหรับพวกเขา และยิ่งไปกว่า นั้นเธอก็คือคนแปลกหน้าที่ปรากฏตัวขึ้นมาจากไหนไม่รู้ที่เรียกมาร์คว่า“เจ้านาย”
สําหรับคําถามของเธอมาร์คก็ให้คําตอบไปเพียงประโยคเดียว
“ขยะ”
มาร์คก็ได้มองไปรอบๆพยายามนึกว่าเขาเคยเห็นถังขยะอยู่ที่ไหน และเห็นมันอยู่ใกล้กับทางเข้าของฝั่งตะวันออกของพื้นที่ในชั้นลานจอดรถใต้ดิน
ปราศจากคําพูดใดๆ มาร์คได้เดินผ่านกลุ่มของเขาไปยังถังขยะและเขวี่ยงกระเป๋าทั้งหมดนั่นลงไปในถังขยะหลังจากกลับมาเขาก็บอกคนที่เหลือว่าจะเริ่มดัดแปรงเสริมแต่งรถคันนี้
จริงๆแล้วมาร์ครู้สึกสับสนว่าทําไมคนเหล่านี้ถึงกระตือรือร้นที่จะช่วยเขาแต่เขาได้เรียนรู้ว่านั้นคือวิธีการขอบคุณของพวกเขา แม้ว่ามาร์คจะดูเหมือนคนที่ไร้ความปราณีและไม่เข้าสังคมสําหรับ พวกเขาแต่จริงๆแล้วเขาก็เป็นคนที่ทําประโยชน์มากที่สุดและทําให้พวกเขามาถึงจุดนี้เขายังไปหายาสําหรับเด็กป่วยด้วยนอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์เมื่อคืนที่นําแผนการล่อผู้ติดเชื้อออกไปและเขาก็ เกือบตายไปแล้วเพื่อถ่วงเวลาให้ทหารเข้ามา
วันที่2 เวลา – 16.59 นาฬิกา,ห้างสรรพสินค้าบาคัวร์,ลานจอดรถใต้ดิน, ฝั่งตะวันออก
มันใช้เวลาเกือบทั้งวันที่ต้องวางแผนการปรับแต่งและเสริมป้องกันหลายๆส่วนของยานพาหนะพวกเขาได้ลงมือทําไปเยอะและทาสีเป็นสีดํา
ทุกๆคนได้ไปยืนหน้าของรถคันที่พวกเขาเสริมทําขึ้นมาอย่างยากเย็น
กันชนหน้าได้รับการติดตั้งโดยมีรูปตัววีที่กว้างกว่าความกว้างจริงของรถเล็กน้อยมันจําเป็นมากเพราะรถคันนี้ใหญ่ เกินไป หน่วยแร็มสามารถช่วยรถผลักรถคันอื่นไปด้านข้างได้ในครั้งเดียวเพื่อเปิดเส้นทางโดยไม่จําเป็นต้องหยุดรถ
หน้าต่างถูกปิดด้วยราวโลหะรูปกริดทางด้านขวาของรถราวที่ปิดหน้าต่างนั้นสามารถพับเก็บได้โดยใช้สปริงและสามารถดันไปข้างหลังได้เมื่อเปิดประตู
ที่ล้อรถส่วนด้านนอกหุ้มด้วยโลหะวงกลมเกือบจะมีขนาดเท่าล้อที่เชื่อมต่อกับด้านข้างของรถและสามารถถอดออก และติดได้ทุกเมื่อต้องการฝาปิดสันลงเล็กน้อยโดยมีค่าเผื่อไว้พอสมควรเพื่อให้แน่ใจว่าฝาปิดจะไม่กระแทกความเร็วบนท้องถนน
เนื่องจากมาร์คกังวลเกี่ยวกับการจ่ายไฟฟ้าของรถเพื่อให้คุณสมบัติของมันทํางานได้อย่างสมบูรณ์พวกเขาจึงเดินหน้าต่อไปและติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์หลายตัวที่ด้านบนของรถและยังถูก ปิดด้วยราวรูปกริด
พวกเขาไม่มีปัญหาใดๆในการหาสิ่งของอุปกรณ์ที่ต้องการในเมื่อโกดังเก็บของนั้นเต็มไปด้วยของที่พวกเขาต้องการ
ในขณะที่พวกเขากําลังทํางานกันนั้นผู้รอดชีวิตและเหล่าทหารหลายคนที่อยู่รอบๆก็ได้ให้ความสนใจและมองดูขั้นตอนทั้งหมดและต่างก็รู้สึกอึ้งทั่งเมื่อพวกเขาได้เห็นผลลัพธ์น่าเสียดายที่รถคันนี้ นั้นไม่ใช่รถของพวกเขา
ส่วนการตกแต่งภายในไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักเขาเพิ่งเพิ่มตู้ครัวที่มีจานและแก้วที่ด้านหลังข้างตู้เย็นและเครื่องใช้ไม่กี่อย่างเช่นหม้อหุงข้าวขนาดเล็กเตาไฟฟ้าและกระติกน้ำร้อนแบบตั้งตรง เขาต้องการไมโครเวฟแต่เขาไม่สามารถหาไมโครเวฟขนาดกะทัดรัดใน โกดังได้
และแล้วก็ถึงเวลาในการทดลองขับ
มาร์คได้นั่งไปที่เบาะคนขับในขณะที่โอเดลินาได้นั่งข้างเขาภายใต้ความอิจฉาที่ถูกจ้องมาโดยเหมยและแอ็บบีเกลมันถูกตัดสินใจแบบนี้ตั้งแต่เธอนั้นเป็นคนเดียวที่สามารถขับรถได้ยกเว้นมาร์ค ด้วยเหตุนั้นทั้งสองตะเกียกตะกายหาที่นั่งที่ใกล้ที่สุดด้านหลังมาร์คโดยไม่เต็มใจ
เมื่อเห็นพฤติกรรมของพวกเธอมาร์คก็ได้แต่ขมวดคิ้ว
“ถ้าพวกเธอสองคนมีพฤติกรรมไม่ดีฉันจะเตะพวกเธอสองคนออกไปจากรถ
ด้วยเหตุนั้น ทั้งสองคนก็ได้หยุดลงทันทีและนั่งอยู่อย่างเงียบๆ
ภายใต้สายตาของคนที่อยู่ด้านนอกยานพหนะมันเคลื่อนที่ขับไปทั่วลานจอดรถใต้ไปยังฝั่งตะวันออกสู่พื้นที่ส่วนกลางและกลับมายังจุดเดิมลาง
มาร์คมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยในการขับรถซึ่งเขาถูกโอเดลินาตําหนิถึงอย่างนั้นเขาก็ได้ขับรถวนเสร็จไปแล้วหนึ่งรอบ
“เจ้านายคะ คุณควรไปฝึกขับรถมาให้ดีกว่านี้”
“มันเป็นแค่ข้อผิดพลาดเล็กน้อยเอง”
“การเข้าใจผิดว่าอันไหนคือเบรกอันไหนไว้ใช้เร่งความเร็วไม่ใช่ข้อผิดพลาดเล็กน้อย”
“ยังไงฉันก็ทดลองขับได้โดยที่ไม่เกิดอุบัติเหตุน และรถคันนี้ก็พวงมาลัยเบากว่าคันที่ฉันเคยขับมาก่อนหน้านี้เพราะอย่างนั้นมันง่ายกว่ามากที่จะขับ”
“รถอะไรที่คุณขับมาก่อน”
“รถjeepน่ะ”
“และนั่นมันเมื่อไหร่หรอคะ?”
“สี่ปีที่แล้ว”
โอเดลินาจ้องไปที่มาร์คและถอนหายใจออกมา
“เมื่อเราออกไปแล้ว ฉันจะเป็นคนขับโอเคมั้ยคะหัวหน้า?”
มาร์คพยักหน้า เพราะนั่นไม่ใช่ปัญหาสําหรับเขา
หลังจากออกมาจากรถ มาร์คก็ได้ขอบคุณพนักงานสําหรับความช่วยเหลือของพวกเขาและพวกเขาทั้งหมดนั้นก็ตัดสินใจที่จะฉลอง
ทหารกําลังบรรจุเสบียงที่พวกเขากําลังจะบรรทุกและสิ่งของอื่น ๆ ที่เหลืออยู่ในขณะนี้ให้ทุกคนได้รับฟรีพวกเขาหยิบเครื่องดื่มเย็นๆและอาหารอร่อยๆแล้วไปปาร์ตี้
ผู้รอดชีวิตคนอื่นๆก็อณุญาตให้เข้าร่วมได้แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ส่งเสียงดังอะไรมากมายมันก็ยังคงสนุกมันเป็นโอกาสที่สนุกสําหรับผู้รอดชีวิตที่ไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากความกลัวเมื่อเกิดหายนะตามมา
เรห์ยาและซาริยาก็เข้ามาร่วมด้วยเช่นกันดูเหมือนว่าซาริยานั้นมีอาการดีขึ้นแล้วและพูดได้เลยว่าเธอนั้นแข็งแรงกว่าเด็กอายุสี่ขวบโดยเฉลี่ย
นับเป็นครั้งแรกที่มาร์คเห็นลูกๆของโอเดลินาในขณะที่ทั้งสามใช้เวลาในงานเลี้ยงอย่างมีความสุขมาร์คสามารถตรวจจับได้ถึงความระมัดระวังที่เด็กทั้งสอง มีต่อแม่ของพวกเขาดูเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ทําให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาร้าวฉานขึ้นมาโอเดลินาก็ดูเหมือนจะสังเกตเห็นได้เช่นกันในขณะที่เธอมีสีหน้าเศร้าๆ ในบางครั้งที่เธอมองดูลูกๆของเธอ
แองเจและพอลลาก็อยู่ที่นั่นด้วย แม้ว่าพวกเขาจะจ้องมองไปที่ตําแหน่งของมาร์คเป็นระยะๆแต่พวกเขาก็ไม่มีความกล้าที่จะเข้าใกล้เขา
ในทางกลับกันมาร์คใช้เวลาอยู่ในมุมที่ห่างไกลจากฝูงชน แม้ว่าบรรยากาศจะรื่นเริงแต่เขาก็ไม่สบายใจที่จะมีส่วนร่วม ในการรวมตัวกันของผู้คนจํานวนมากแน่นอนว่าเหมยและแอ็บบีเกลอยู่ข้างๆเขา
พวกเขานั้นหมดนั้นฉลองกันในเวลานี้ด้วยเหตุสองอย่างอย่างแรกนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าได้เจอมาร์คและกลุ่มของเขาเป็นครั้งสุดท้ายและอีกเหตุผลคือเพราะว่ามันคือวันสุดท้ายที่พวกเขาจะ ใช้เวลาอยู่ในห้างแห่งนี้แล้วมันได้ถูกคอนเฟริมแล้วว่าทีมช่วยเหลือกําลังจะมาและจะถึงภายในไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว
ทหารบางคนก็ได้เข้ามาร่วมด้วยเพื่อความสนุกคนหลายคนต้องการดื่มแอลกอฮอล์แต่พวกเขาก็ต้องอดทนอดกลั่นเอาไว้ พวกเขายังไม่อยู่ในเวลาสถานการณ์ที่จะดื่มมันได้เพื่อความมึนเมา พวกเขาอาจจะสามารถทําได้หลังจากที่ถึงศูนย์อพยพแล้ว