บทที่ 1285 ความรู้สึกตอนโดนอัดช่างคุ้นเคยเหลือเกิน
“ปะ…เป็นไปไม่ได้…”
วินาทีนี้ ทุกคนในพันธมิตรอู๋เว่ยมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง
สมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยที่อยู่ในเหตุการณ์ มีหลายคนที่อยู่ในกลุ่มมานาน ฉะนั้นพวกเขาจึงรู้จักทักษะและกระบวนท่าของหัวหน้าแก๊งพวกเขาอยู่บ้าง
แต่ตอนนั้นหัวหน้าบอกว่าจะกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ จากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย
พันธมิตรอู๋เว่ยเคยระดมกำลังคนจำนวนมากตามหาหัวหน้าแก๊ง แต่น่าเสียดาย หลายปีผ่านไปแล้วก็ยังไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย…
ชีซิงจ้องหน้าหญิงสาวด้วยความสงสัย
“เธอ…คุณคือ…ท่านหัวหน้า?!” สมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยคนหนึ่งมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าตกตะลึง
ชายชราจากพันธมิตรอู๋เว่ยที่ถูกเยี่ยหวันหวั่นซัดปลิวเมื่อกี้ตอนนี้เลือดกลบมุมปาก เขาหน้าเปลี่ยนสีไปทันที
ทั้งเรี่ยวแรงและองศาของวิชาดรรชนีเมื่อกี้ของผู้หญิงคนนี้ เหมือนหัวหน้าแก๊งที่หายตัวไปของพวกเขามาก
“เธอ…เธอ…”
ตอนนั้นเขามักจะได้เป็นคู่ซ้อมของหัวหน้า เมื่อครู่วินาทีที่ผู้หญิงคนนี้โจมตีเขา ชายชราเหมือนย้อนเวลากลับเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เขาเป็นคู่ซ้อมของหัวหน้า…
ความรู้สึกตอนโดนอัดอย่างนี้ ช่างคุ้นเคยเหลือเกิน!
“หะ…หัวหน้า…” ชายชราจ้องเยี่ยหวันหวั่น ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย เขาเดินไปหาเยี่ยหวันหวั่นแล้วเรียกอย่างไม่อยากเชื่อ
“หัวหน้า…หัวหน้าใช่ไหมครับ…” ชายชรามองเยี่ยหวันหวั่นอย่างเหม่อลอย แววตาดูสับสน
พฤติกรรมเมื่อกี้ของเยี่ยหวันหวั่นเกิดจากจิตใต้สำนึกเวลาเผชิญหน้ากับอันตรายล้วนๆ แต่พอคิดจะทำต่อ สมองกลับขาวโพลนไปหมด
ขณะกำลังร้อนรน จู่ๆ คนของพันธมิตรอู๋เว่ยก็มองเธอ แล้วเรียกเธอว่าหัวหน้า เยี่ยหวันหวั่นได้แต่อึ้งงัน
เธอรู้อยู่แล้วว่าหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย ก็คือแบดเจอร์ในตำนานที่โหดเหี้ยมอำมหิต และหายตัวไปนานหลายปีแล้วคนนั้น
แต่คนพวกนี้แล้วยังมีชายชราที่โฉดชั่วคนนั้นกลับมองหน้าเธอแล้วเรียกเธอว่าหัวหน้า หมายความว่ายังไงกัน?
เยี่ยหวันหวั่นพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จู่ๆ เธอก็นึกถึงตอนที่เจอสมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยที่โดนไล่ออกที่จีน ตอนนั้นพวกเขาก็จำผิดคิดว่าเธอเป็นหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยเหมือนกัน…
หรือว่าเธอกับหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยมีตรงไหนที่เหมือนกันจริงๆ?
ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่จำผิดซ้ำๆ อย่างนี้
เพียงเสี้ยววินาที สมองของเยี่ยหวันหวั่นมีความคิดมากมายผุดขึ้นมา คำถามที่ตั้งใจจะถามออกไปถูกกลืนลงคอไปทันที
ถ้าหากเธอไม่ยอมรับว่าเธอเป็นหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย เธอกับตระกูลโจวจะต้องตายกันหมดแน่
ในเมื่อพวกเขาคิดว่าเธอเป็นหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย…
ถ้างั้นก็ใช้แผนหนามยอกเอาหนามบ่งก็แล้วกัน…
เมื่อถึงเวลานั้น ไม่เพียงจะช่วยตระกูลโจวไว้ได้ แม้แต่เธอเองก็จะรอดด้วย
คิดได้อย่างงี้เยี่ยหวันหวั่นก็เปลี่ยนสีหน้าทันที
ถึงเธอจะไม่รู้ว่าหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยหน้าตาเป็นยังไง แต่จากข่าวลือที่ได้ยินมา ก็พอจะคาดเดาได้บ้างว่าแบดเจอร์คนนั้นนิสัยเป็นยังไง
ถึงยังไงก็มีแต่ตายกับตาย ไม่สู้ลองดูซักตั้งแล้วกัน!
ได้เวลาแสดงทักษะที่แท้จริงของเธอแล้ว…
พอได้ยินชายชราเรียกตัวเองว่าหัวหน้า เยี่ยหวันหวั่นก็แสร้งวางท่าไม่แยแส แล้วเหลือบมองชายชราอย่างรำคาญ “เรียกหาอะไร!”
เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตารำคาญของหญิงสาว ชายชรากลับเหมือนได้รับการยืนยัน เขาเดินฝีเท้าสะเปะสะปะไปหาเยี่ยหวันหวั่น “ผะ…ผมไม่เอาไหน…แค่กระบวนท่าเดียวของหัวหน้าก็ยังต้านทานไม่ไหว…หัวหน้าให้อภัยผมด้วย…ผมไม่ได้ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของหัวหน้าที่บอกให้ตั้งใจฝึกฝนนะครับ แต่เป็นเพราะ…เพราะผมแก่มากแล้วจริงๆ…”
————————————————————————————-
บทที่ 1286 เธอคือพี่สาวจริงเหรอ?
ชายชรายืนก้มหัวอธิบายตัวสั่น เขาแอบเงยหน้ามองหญิงสาวอย่างหวาดระแวง แล้วเอ่ยต่ออย่างสำนึกผิดว่า “หัวหน้า เมื่อกี้ผมมีตาหามีแววไม่ ไม่นึกเลยว่าจะจำหัวหน้าไม่ได้…”
เอ่ยจบ ชายชราสายตาไหวระริก แล้วกล่าวอีกว่า “เพียงแต่ เมื่อกี้ทำไมหัวหน้าถึง…ไม่แสดงตัวล่ะครับ?”
ไม่ได้แถกันได้ง่ายๆ ตามคาด นี่เขากำลังหยั่งเชิงเธออยู่สินะ!
เยี่ยหวันหวั่นลองวิเคราะห์นิสัยของแบดเจอร์ดู ในเมื่อเธอร่อนเร่อยู่ข้างนอกนานขนาดนั้น หากไม่ใช่ว่าเกิดอุบัติเหตุอะไร ก็ต้องเป็นเพราะยังเล่นสนุกไม่พอเลยไม่อยากกลับมาแน่ๆ
ฉะนั้น เยี่ยหวันหวั่นจึงจิ๊ปาก “บอกอะไรของนาย? จะกินอะไรไปเรื่อยก็ได้ แต่จะพูดจามั่วซั่วไม่ได้เด็ดขาด ใครบอกว่าฉันเป็นหัวหน้าแก๊งของพวกนาย?”
ถ้าหากเยี่ยหวันหวั่นบอกว่าตัวเองเป็นหัวหน้าแก๊งของพวกเขา พวกเขาอาจจะไม่เชื่อ แต่พอเยี่ยหวันหวั่นทำตรงกันข้าม จู่ๆ ก็ไม่ยอมรับ พวกเขาจึงทำอะไรไม่ถูก
ชายชราอึ้งไปตามคาด จากนั้นก็ทำหน้ายับเหมือนจะร้องไห้ “หัวหน้าครับ อย่าล้อเล่นอีกเลย! บนโลกนี้นอกจากหัวหน้าแล้วยังมีใครใช้ท่าเมื่อกี้ได้อีก! ความรู้สึกตอนที่หัวหน้าอัดผม ผมไม่มีทางจำผิดแน่นอน! ในเมื่อหัวหน้ากลับมาแล้วก็อย่าไปไหนอีกเลยนะครับ!
เพราะหัวหน้าไม่อยู่นานเกินไป หลายปีมานี้รูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไปมาก ผมเลยจำหัวหน้าไม่ได้ อภัยให้ผมด้วยครับ!”
เยี่ยหวันหวั่นทำหน้าจนใจเหมือนโดนคนที่โดนจับไต๋ได้ “น่ารำคาญ!”
ชายชรารีบยิ้มประจบประแจง “ในรัฐอิสระ คนที่กล้าเอาปืนออกมาก็คงมีแต่หัวหน้าคนเดียว…เมื่อกี้ทำไมผมถึงไม่ทันนึกนะ…”
ชายชราบอก ในใจก็นึกเสียใจ ถ้าหากเขาสะดุดใจกับรายละเอียดพวกนี้แล้วจำหัวหน้าได้ตั้งแต่แรก เขาก็คงไม่ต้องโดนอัดแล้ว…
“เธอ…” เด็กหนุ่มชีซิงจ้องหญิงสาวตรงหน้าไม่วางตา
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งจะโล่งใจไม่นานก็หันมาเห็นชีซิง พลันขนลุกไปทั้งตัว เจ้าเด็กนี่ไม่ใช่คนที่จะหลอกได้ง่ายๆ เขารับมือยากกว่าชายชรามาก
เยี่ยหวันหวั่นพยายามสงบสติอารมณ์ มุมปากหยักขึ้นเล็กน้อย หันไปมองเด็กหนุ่มอย่างใจเย็น
“เธอ…คือพี่สาวจริงเหรอ?!” ชีซิงก้าวเท้าเข้ามา ประกายบางอย่างพาดผ่านนัยน์ตาไปอย่างรวดเร็ว
“พี่สาว?”
เยี่ยหวันหวั่นประหลาดใจ หรือว่า…ชีซิงแห่งพันธมิตรอู๋เว่ยเป็นน้องชายของหัวหน้าแก๊ง?
น้องชายแท้ๆ หรือแค่น้องชายทั่วไป?
ไม่ว่าจะแบบไหน ถ้าหากพูดกับน้องชาย งั้นคำพูดกับวิธีการพูดก็น่าจะไม่เหมือนกันสินะ…
ดูจากสไตล์การทำงานของพันธมิตรอู๋เว่ย แบดเจอร์ที่มีศักดิ์เป็นหัวหน้าแก๊งต้องเป็นคนที่ใจโหดโฉดชั่วมากแน่ๆ คนอย่างนี้เวลาพูดกับน้องชาย…จะพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทางยังไงนะ…
เดาไม่ออกเลยแฮะ…
“ชีซิง ว่าไง จำพี่สาวไม่ได้แล้วงั้นเหรอ?” หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นก็เปลี่ยนสไตล์การพูด เพิ่มความอ่อนโยนกับความคิดถึงเข้าไป แต่กลับยังคงไว้ซึ่งอำนาจน่าเกรงขาม
น่าจะประมาณนี้ล่ะมั้ง…
เยี่ยหวันหวั่นอกสั่นขวัญแขวน วินาทีนี้ ถ้าเธอพูดผิดแค่คำเดียวก็อาจถึงตายได้
ชีซิงจ้องหน้าเธอ จากนั้นก็หลุบตาเงียบๆ สีหน้าเหมือนกำลังสับสนลังเล
ตอนนี้สมาชิกคนอื่นในพันธมิตรอู๋เว่ยเริ่มถกเถียงพูดคุยกัน
“เธอต้องเป็นแบดเจอร์ของพวกเราแน่…ไม่อย่างนั้นจะใช้ท่าเฉพาะตัวของแบดเจอร์เป็นได้ยังไง…ตอนนั้นคุณชายเจ็ดขอให้หัวหน้าสอนท่านั้นให้เขา แต่ด้วยพรสวรรค์ของคุณชายเจ็ด ฝึกอยู่ครึ่งปีก็ยังทำไม่ได้…” สมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น