อวิ๋นเจี่ยวรู้สึกได้ว่าราชาปีศาจที่ตายไปนั้นต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับอสูรกลืนนภาที่หลินติงเลี้ยงไว้ในเมืองหลวงอย่างแน่นอน
“เจ้าหนู ตอนนี้ทำอย่างไร” ชายแก่ถาม เดิมทีคิดว่าราชาปีศาจจะมีเบาะแสของหลินติง แต่ไม่คิดว่าเบาะแสนั้นกลับขาดหายไป พวกเธอจะไปหาคนได้ที่ไหน
“ไปดูที่ป่าโบราณวั่นกู่ก่อน” อวิ๋นเจี่ยวพูด หลินติงนำวิญญาณทั้งหมดในเมืองหลวงซิวหลิงป้อนให้กับอสูรกลืนนภา แสดงว่าอสูรนั้นเติบโตขึ้นมาแล้ว สัตว์ประหลาดโบราณแบบนั้นคิดจะซ่อนตัวคงไม่ง่าย อีกทั้งเขายังรับรู้ว่าพวกเธอเดินทางไปยังเมืองหลวงผ่านกิ่งไม้เกิดร่วม และแน่นอนว่าอีกฝ่ายคงพอจะเดาได้ว่าท่านยมราชซิวหลิงถูกปล่อยออกมา เช่นนั้นทางหนีเพียงหนึ่งเดียวของเขาก็คงจะมีแค่โลกปีศาจ
“เมื่อครู่ราชาปีศาจบอกว่าป่าโบราณวั่นกู่อยู่ทางตอนใต้สุดของโลกปีศาจ ข้าจะใช้ข่ายพลังขนส่ง!” พูดจบ เธอก็หยิบธงข่ายพลังออกมา เตรีนมตัววางข่ายพลัง
ทันใดนั้น เสียงคำรามหนึ่งดังขึ้นทั่วเมืองหลวงของโลกปีศาจ เสียงนั้นดังอย่างมาก ราวกับส่งมาจากท้องฟ้า และดังก้องอยู่ข้างหู ทำให้คนรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนในหัว
ท้องฟ้าที่สว่างไสวในตอนแรกดับมืดลง ทันใดนั้นลมพัดกระหน่ำขึ้น แม้แต่พื้นดินยังสั่นสะเทือน
เกิดอะไรขึ้น?!
“นั่น…นั่นคืออะไร!” ชายแก่อุทานออกมาเสียงดัง เบิกตาโตมองไปยังท้องฟ้าด้านขวา
อวิ๋นเจี่ยวหันหน้าไปมองตาม ทันใดนั้นนิ่งผงะไป เธอเห็นร่างยักษ์ที่สูงราวภูเขา ตัวใหญ่กลืนกินไปกว่าครึ่งท้องฟ้า ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ ราวกับพระจันทร์สีเลือดแขวนไว้กลางท้องฟ้า ร่างกายของมันดำสนิทจนมองไม่เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริง แต่ทุกครั้งที่มันหายใจจะก่อให้เกิดพายุขนาดใหญ่กวาดมาทางเมืองหลวงที่อยู่ด้านล่าง ราวกับเพียงแค่มันอ้าปากก็จะสามารถกลืนกินพระอาทิจย์และพระจันทร์
“อสูรกลืนนภา!” อวิ๋นเจี่ยวรู้ได้ทันทีว่าคืออะไร
ไป๋อวี้และหยวนเจียงสี่หน้าเปลี่ยนไป แม้แต่เยี่ยยวนเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
อสูรกลืนนภาทำไมถึงปรากฏในเมืองหลวงของปีศาจได้ อีกทั้งยัง…ใหญ่ขนาดนี้!
โฮ่ง…
อสูรยักษ์คำรามขึ้นอีกครั้ง ทันใดนั้นพายุซัดกระหน่ำ กระแสลมรุนแรงพัดผ่านเมืองปีศาจ ทันใดนั้นพัดพาเอาต้นไม้ไปทั้งราก บ้านเรือนต่างล้มลงระเนระนาด เมืองหลวงเสียหายไปกว่าครึ่ง
“ศิษย์หลาน พวกเจ้ารออยู่ที่นี่ วางข่ายพลังคุ้มกัน!” หยวนเจียงกำชับ ก่อนจะเรียกดาบประจำตัวออกมา และลอยเข้าไปทางอสูรกลืนนภา มันเป็นสัตว์ประหลาดโบราณ แม้แต่เขายังไม่มีความมั่นใจว่าจะรับมือได้ ศิษย์หลานทั้งสองคนยังเป็นมนุษย์ คงจะรับมืออีกฝ่ายไม่ได้อย่างแน่นอน
อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า กำลังจะวางข่ายพลัง แต่ทันใดนั้น เธอประคองตัวไม่อยู่ ร่างของเธอถูกลมซัดขึ้นมา ในขณะที่กำลังจะถูกลมพัดพาไปด้วย ข้อมือของเธอกลับแน่นขึ้น ร่างที่กำลังจะลอยออกไปถูกดึงกลับมา
เธอผงะไปเล็กน้อย ก่อนจะมองไปยังคนที่ยืนทำหน้าเรียบเฉยอยู่ที่เดิมกำลังจับข้อมือข้างหนึ่งของเธอเอาไว้
“อาจารย์ปู่…”
อวิ๋นเจี่ยวกำลังจะขอบคุณ ด้านข้างกลับปรากฏเสียงโอดครวญขึ้น “เจ้าหนู! ช่วยด้วย…” เธอเอื้อมมือไปจับตามสัญชาตญาณ สัมผัสว่าจับอะไรบางอย่างไว้ได้ นาทีถัดมาได้ยินเพียงเสียงที่ดังมากขึ้น “เจ็บๆๆๆๆ…หนังหัวข้าจะหลุดแล้ว เจ้าหนู!”
เธอผงะ ก่อนจะพบว่าเธอจับผมของชายแก่เอาไว้ ทันใดนั้นไม่รู้จะจับไว้หรือจะปล่อยดี
โชคดีที่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของชายแก่มีมาก เขาหยิบยันต์ออกมาใบหนึ่ง ก่อนที่ตัวของเขาจะเด้งกลับมา ดึงมือที่เธอเอื้อมออกไปพาตัวเองกลับมา จากนั้นกอดเอาของอวิ๋นเจี่ยวไว้แน่น ชายแก่กลัวมาก!
เยี่ยยวนสีหน้าดำทะมึน ทันใดนั้นส่งพลังออกมาสะกดทั้งสองคนที่ลอยอยู่กลางอากาศเอาไว้
ทั้งสองคนรู้สึกเพียงช่วงล่างของตัวหนักขึ้น ก่อนจะลอยลงมาจากกลางอากาศ เพียงแต่อวิ๋นเจี่ยวสองขาแตะพื้น ส่วนชายแก่ลอยสูงเกินไป อีกทั้งหล่นลงมาอย่างรวดเร็ว มือกอดไว้ไม่แน่นจึง…หน้าลงดิน
อืม สบายใจ!
อวิ๋นเจี่ยว: “…”
ชายแก่: “…”
“ขอบคุณอาจารย์ปู่” เธอพูดขอบคุณ ก่อนจะวางข่ายพลังคุ้มกันขึ้นมาปิดกั้นพายุระดับสิบสองด้านนอกนั้น ทันใดนั้นความหวาดกลัวที่มีต่ออสูรกลืนนภายิ่งมีมากขึ้น อสูรโบราณน่ากลัวอะไรเช่นนี้ แม้แต่เสียงคำรามยังทำให้เกิดลมใหญ่ขนาดนี้ได้
หยวนเจียงที่ลอยขึ้นได้เผชิญหน้ากับอสูรกลืนนภาแล้ว ทันทีที่คาถาในมือของเขาสิ้นสุดลง ทันใดนั้นมังกรไฟตัวหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะพุ่งตรงไปยังอสูรยักษ์ตัวนั้น
อสูรกลืนนภาถูกโจมตีเข้าอย่างจัง มันหยุดคำรามในทันใด ร่างของมันถูกโจมตีจนถอยออกไปหนึ่งก้าวเล็ก เพียงหนึ่งก้าวเท่านั้น แต่กลับทำให้รอบด้านสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แต่การโจมตีของหยวนเจียงนี้ไม่มีผลกระทบต่อเขามาก ไม่มีแม้แต่บาดแผล อีกทั้งยังกระตุ้นให้อีกฝ่ายโกรธมากขึ้น อสูรกลืนนภายกเท้าขึ้นก่อนจะตบไปทางหยวนเจียง
อุ้งเท้าขนาดใหญ่ก่อให้เกิดลมขนาดใหญ่ขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะล่วงหล่นลงมาด้วยแรงที่พร้อมทำลายล้าง หยวนเจียงรีบบินหนีออกไปด้านข้าง เท้าของมันหล่นลงพื้นโดยตรง เมืองปีศาจด้านล่างกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่
อสูรกลืนนภาปรากฏตัวไม่ถึงสองนาที เมืองปีศาจขนาดใหญ่ก็ถูกพังจนแทบไม่เหลือ ปีศาจตัวน้อยหนีตายกันวุ่นวาย
คิ้วของหยวนเจียงขมวดมุ่น แม้แต่ยันต์เปลวเพลิงยังรับมือกับอสูรกลืนนภาไม่ได้ ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดวิธีการรับมือ ราชาปีศาจที่ถูกเยี่ยยวนตบลอยไปก็ลอยกลับมาพอดี
“ปีศาจที่ไหน บังอาจบุกรุกเข้าเมืองหลวง!” ราชาปีศาจที่มีฝุ่นเต็มตัวนั้น มองไปยังอสูรยักษ์ตรงหน้าด้วยความเหลือเชื่อ เขาไม่เคยเจอปีศาจตัวไหนที่มีขนาดใหญ่เท่านี้มาก่อน ทันใดนั้นแยกไม่ออกว่าอีกฝ่ายเป็นเผ่าไหน
“นี่อสูรกลืนนภา” หยวนเจียงอธิบาย
“อะไรนะ! อสูร?” ราชาปีศาจเบิกตาโตด้วยความตะลึง
“ต้องหยุดมันให้ได้!” หยวนเจียงไม่ได้อธิบายมาก “มิเช่นนั้นมันจะทำลายโลกปีศาจทั้งหมด”
พูดจบก็ยกดายในมือขึ้น ก่อนจะใช้อีกมือปิดผนึก พร้อมท่องคาถาขึ้นมา ทันใดนั้นบนท้องฟ้าปรากฏคาถาสีทองขึ้น ก่อนจะรวมอยู่บนหัวของอสูรกลืนนภา นาทีถัดมาคาถานั้นกลายเป็นโซ่สีทองขนาดใหญ่พันเข้าไปยังอสูรยักษ์
“คาถาเทพ! ท่านคือ…” ราชาปีศาจมองไปยังหยวนเจียงด้วยความตกตะลึง ก่อนจะรับรู้ว่าเขาคือคนของโลกบน เมื่อเห็นอีกฝ่ายรับมือกับอสูรกลืนนภาอย่างตั้งใจ เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เพียงแต่กลายเป็นร่างหมาป่าสีเทา พุ่งไปยังอีกฝ่าย
ร่างเดิมของราชาปีศาจถือว่าใหญ่มากแล้วเมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์อื่น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าอสูรกลืนนภานั้นกลับเล็กลงไปอย่างมาก ราวกับช้างและลูกแมว ถึงแม้จะใช้พลังจนสุด ก็ทำได้เพียงทิ้งบาดแผลเพียงเล็กน้อยบนตัวของอสูรกลืนนภาเท่านั้น ไม่มีผลกระทบแม้แต่น้อย
โซ่ของหยวนเจียงยิ่งรัดยิ่งแน่น มันพันอสูรกลืนนภาเอาไว้ อสูรกลืนนภาเริ่มดิ้นรน พื้นดินสั่นสะเทือนรุนแรงมากขึ้น อย่าว่าแต่เมืองหลวง แม้แต่ภูเขารอบด้านก็ล้มลงมาราวกับถูกไถทิ้งไป
อวิ๋นเจี่ยวกังวลเล็กน้อย เธอดึงเสื้อคนด้านข้าง “อาจารย์ปู่ ท่านว่าอาจารย์อาหยวน…จะชนะหรือไม่”
เยี่ยยวนหันหน้ากลับมามองเธอ ก่อนพูดตอบอย่างมั่นใจ
“ไม่!” โง่เกินไป!
“…”