บทที่ 17 ดาร์ก เดม่อนกำลังจะออกเดินทางบนถนนอันสูงส่ง
“ดูเหมือนว่า [อัตตา I] ไม่ได้ให้พลังมากเกินไป”
ดาร์กสังเกตพฤติกรรมของรุกกี้เดวิมอนอย่างละเอียด
เจตจำนงของมันยังคงอยู่ แต่เป็นเพราะอิทธิพลของ [อัตตา I] ที่เปลี่ยนบุคลิกของมัน
ดูเหมือนว่าเจ้าตัวน้อยนี่ต้องการทำลายโซ่นก เพราะมันรู้สึกเหมือนตัวเองโดน ‘ดูถูก’ แต่ไม่มีกำลังเพียงพอจะปลดเอง
“พูดถึงพลัง…”
ดาร์กนึกถึงสกิลไม้ตายของรุกกี้เดวิมอน [เดมิ ดาร์ท] ทันที
ในฐานะที่เป็นวิญญาณรับใช้ เดิมมันไม่มีความสามารถในการปลดปล่อยท่าไม้ตาย
แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เป็นไปได้ว่ามันอาจจะทำได้!
ดาร์กเขียนข้อความสองสามคำบนโน้ตแล้วเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “รุกกี้เดวิมอนใช้ [เดมิ ดาร์ท] กับกำแพงหน่อย”
รุกกี้เดวิมอนหุบปีก เงยหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่งและปากเล็ก ๆ นั้นพูดอย่างหยิ่งผยองว่า “ปล่อยข้า!”
“ฮะ ๆ”
จู่ ๆ ดาร์กก็รู้สึกขบขันกับคำขอของมัน
อย่างไรก็ตาม วิญญาณรับใช้ก็ยังเป็นวิญญาณรับใช้ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะขัดต่อเจตจำนงของเจ้านายอย่างแท้จริง
เพื่อที่จะสังเกตการปลดปล่อยสกิลของรุกกี้เดวิมอนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ดาร์กจึงปลดล็อกที่ข้อเท้าของมัน
พอรุกกี้เดวิมอนเป็นอิสระ มันกระพือปีกสองครั้ง จากนั้นก็สะบัดปีกและตะโกนว่า “เดมิ ดาร์ท!”
ภายใต้ปีกของมัน เข็มฉีดยาสามกระบอกที่มีหัวฉลามพลันปรากฏขึ้น และพวกมันก็กระแทกเข้ากับผนัง
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
เข็มฉีดยาสามอันเจาะผนังพร้อมกัน กลายเป็นรูปสามเหลี่ยมที่สมบูรณ์แบบ!
แต่หลังจากนั้นไม่นาน กระบอกฉีดยาทั้งสามนี้ก็ลุกเป็นไฟและหายไป เหลือไว้เพียงรูสามรูบนผนัง
ดาร์กเขียนในสมุดจดทันทีว่า
‘การปลดปล่อยสกิลประสบความสำเร็จ พิสูจน์ให้เห็นว่าผู้ถูกทดลองนั้นไม่ใช่วิญญาณรับใช้อีกต่อไป’
…
เวลาบ่าย 15:43 นาที
สีทองเข้มในดวงตาของรุกกี้เดวิมอนค่อย ๆ จางลง กลับไปเป็นสีเหลืองอ่อนตามปกติ
ทันทีหลังจากนั้น มันก็กางปีกออก แล้วล้มตัวลงนอนบนโต๊ะพร้อมกับส่งเสียง ‘ปั้ก’ กรงเล็บของมันแข็งและนอนอยู่กับที่เหมือนนกกระจอกตายแล้ว
‘ระยะเวลาของสถานะอัตตาอยู่ที่ประมาณสิบสามนาที มากกว่าเอฟเฟกต์ของการ์ดอารมณ์ทั่วไปสามถึงห้าเท่า’
ดาร์กเขียนข้อความนี้ลงในสมุดจดของเขา จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองรุกกี้เดวิมอนและพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “อย่าแกล้งตาย”
รุกกี้เดวิมอนยังคงนิ่งเฉย
ดาร์กเอื้อมมือไปเกาคางของมัน
ทันใดนั้นรุกกี้เดวิมอนก็ ‘หัวเราะคิกคัก’ และหดตัวเป็นลูกบอล
จากนั้นมันก็ตัวกระตุกอย่างกะทันหัน และเงยหัวขึ้นอย่างแข็งทื่อ ดวงตาเล็ก ๆ ของมองไปยังดาร์กด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยการอ้อนวอน
“ดูไม่ใช่สีหน้านายตอนชี้มาที่จมูกฉันแล้วเรียก ‘เจ้าทาส’ เลยนะ”
ดาร์กพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
รุกกี้เดวิมอนกลิ้งกลอกตาไปมาและเข้าใจทันทีว่าเจ้านายของมันไม่ได้โกรธ จึงรีบพูดอย่างประจบสอพลอว่า “นาย~ ท่าน~~”
ดาร์กอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัว
จากนั้นเขาก็รีบเขียนลงในสมุดจดของเขาว่า “การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบสิ่งชีวิตไม่ได้ถูกย้อนกลับ”
…
แม้ว่าดาร์กจะไม่รู้ว่าเหตุใดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจึงยังคงอยู่ แต่รุกกี้เดวิมอนได้เปลี่ยนจากวิญญาณรับใช้ไปเป็นรูปแบบสิ่งมีชีวิตที่ใกล้เคียงกับ <มอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ในโลกดิจิทัล> มากขึ้นหลังจากถูกร่าย [อัตตา] ใส่
ตอนนี้ ดาร์กเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่สามารถย้อนกลับได้
มันเหมือนกับว่าจอมเวทได้ปลุกพรสวรรค์ของพวกเขาและเมื่อมีพลังเวทมนตร์ พวกเขาก็จะไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป
นอกจากนี้ หลังจากที่รุกกี้เดวิมอน ‘ปลุก’ พรสวรรค์ของมัน มันก็ยิ่งส่งเสียงดังมากขึ้นไปอีก!
แม้ว่ารุกกี้เดวิมอนจะพูดไม่ได้มาก่อน แต่บางครั้งความซุกซนและนิสัยชอบหลอกล่อคนจำนวนมากอย่างไร้ยางอายก็ทำให้มันมีชื่อเสียงอย่างมาก
พอตอนนี้มันพูดได้แล้ว ดาร์กไม่คิดว่าจะมีใครต้านทานมันได้
เด็กชายไม่ต้องการให้มันทำลายการบริการส่งของเพียงแห่งเดียวของสถาบันเซนต์แมเรียน
‘หรือบางทีฉันควรจะปิดปากมัน?’ ดาร์กคิด
ภายใต้สายตาแปลกประหลาดของเจ้านายรุกกี้เดวิมอนรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและหุบปีกของมันอย่างชาญฉลาด ราวกับเด็กนักเรียนที่ถูกตำหนิ
ดาร์กส่ายหัวและตัดสินใจที่จะศึกษามันต่อ “นายไม่ได้รับอนุญาตให้พูดต่อหน้าคนอื่น เข้าใจไหม?”
…
หลังจากใช้เครื่องหยดสมองวิเศษไป ตอนนี้เขาก็ลดค่า [อัตตา] จาก 112 เป็น 111 หน่วย
แน่นอน มันยังห่างไกลจากคำว่าเพียงพอ
แต่การใช้เครื่องหยดสมองวิเศษนั้นอันตรายมาก ดังนั้นเขาจึงต้องระมัดระวัง
ดาร์กไม่ได้เริ่มใช้มันเป็นครั้งที่สองทันที
‘คู่มือผู้ใช้เครื่องหยดสมองวิเศษ’ ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ‘ถ้าไม่อยากอยู่ดี ๆ แล้วกลายเป็นคนโง่ จำไว้ว่าห้ามดึงสสารแห่งความคิดออกเกินเดือนละครั้ง!’
มันคือการเรียกรวมกันของความทรงจำ อารมณ์ ความรู้ ความคิด และสสารอื่น ๆ ว่าเป็น ‘สสารแห่งความคิด’ และแนะนำให้จอมเวทใช้เครื่องหยดในลักษณะที่จำกัด
แต่ดาร์กที่อ่านหนังสือทั้งเล่มรู้ดีว่าจอมเวทที่ใช้วิธีนี้มักจะใช้เครื่องหยดสองหรือสามครั้งภายในหนึ่งเดือน
เพราะการทดลองมักมาพร้อมกับความล้มเหลว และหากใครต้องการก้าวหน้า ก็ต้องแบกรับภาระ
ด้วยจำนวนการสกัดสสารแห่งความคิดที่เพิ่มขึ้นภายในหนึ่งเดือน ปัจจัยเสี่ยงก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังจากใช้ทั้งสามครั้ง ปัจจัยเสี่ยงจะสูงเกือบถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์ซึ่งอันตรายมาก
แน่นอนว่าจอมเวทในหนังสือมีความกล้าที่จะดึงเพิ่มอีกสองหรือสามครั้งภายในหนึ่งเดือน เพราะความแม่นยำที่ยอดเยี่ยม
ถึงกระนั้น หากพวกเขายังคงทำเช่นนี้เป็นเวลาหลายเดือน มันก็ง่ายที่จะทำให้พวกเขาเกิดอาการ ‘ความจำเสื่อม’ เช่นกัน
ดาร์กมีความตระหนักในตนเองสูง เขารู้ว่าแม้ว่าเขาจะสกัดสสารแห่งความคิดเดือนละครั้ง แต่ก็ยังเป็นอันตรายอย่างยิ่ง นั่นคือเหตุผลที่เขาเลือก ‘วิธีแมลงปอสัมผัสน้ำ’
‘วิธีแมลงปอสัมผัสน้ำ’ ทำได้เพียงสกัดสสารแห่งความคิดที่รั่วไหลออกจากสมองของเขา และปัจจัยเสี่ยงก็ต่ำมาก
แต่ถึงอย่างไร มันก็ไม่สามารถใช้งานได้โดยประมาท
ตาม ‘คู่มือผู้ใช้เครื่องหยดสมองวิเศษ’ ควรใช้วิธีนี้ทุก ๆ ยี่สิบสี่ชั่วโมง และหลังจากใช้อย่างต่อเนื่องมากกว่าสิบครั้ง ก็ควรใช้แบบเดือนเว้นเดือน เว้นระยะให้สมองฟื้นคืนสภาพ
สมองเป็นระบบที่ซับซ้อนที่สุดของร่างกายมนุษย์ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะประมาทเกินไป
นอกจากนี้ยังไม่ต้องรีบร้อนอีกด้วย
ตามความเข้าใจของดาร์กเกี่ยวกับ ‘วิธีแมลงปอสัมผัสน้ำ’ วิธีนี้ควรใช้เพื่อแยกส่วนของค่ามหาบาปที่เกินร้อยหน่วยเท่านั้น
ดังนั้น มีเพียง [อัตตา] เท่านั้นที่สามารถสกัดได้ในขณะนี้
หลังจากนี้ เขาจะไปที่ห้องสมุดเพื่อค้นหาและศึกษาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการ์ดเมจิกหมวดอารมณ์ และพยายามปรับปรุง [อัตตา I] ให้ดียิ่งขึ้น หรือมุ่งเน้นที่การพัฒนา [อัตตา II]
…
เวลา 16:30 น. ดาร์กได้ปรากฏตัวในห้องสมุดแล้ว
แพนดอร่า รุ่นพี่สาวจากห้องสมุดดูเหมือนจะลาพักร้อน ดังนั้นเธอจึงไม่อยู่ที่นี่
มันเยี่ยมมาก!
ดาร์กลงทะเบียนเสร็จภายใต้สายตาที่ใจดีของคุณเบลล่า และเข้าไปในห้องสมุดด้วยอารมณ์ที่ผ่อนคลาย
การผลิต [อัตตา I] เดิมทีอยู่ในแผนของเขาแล้ว แต่ก็เป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ อย่างที่เขาวางแผนจะทำ
เขารู้ดีว่าถ้าเพียงแค่ระงับความปรารถนาอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าและไม่สามารถเปลี่ยนมหาบาปให้เป็นพลังได้ เขาก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังมาก
มีแต่คนโง่เท่านั้นที่เลือกที่จะหนี ในขณะที่คนฉลาดจะหาทางตอบโต้
วันนี้เขาได้ยืนยันแล้วว่าวิธีการทำให้มหาบาปที่ล้นออกมาเป็นการ์ดเมจิกเป็นวิธีที่จะตอบโต้ได้
สำหรับขอบเขตที่สามารถพัฒนาได้ของการ์ดเมจิกหมวดมหาบาป และจุดแข็งที่พวกมันสามารถแสดงออกมาได้นั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
…
แสงริบหรี่ส่องไปที่โต๊ะห้องสมุด
แผ่นหลังของดาร์ก เดม่อนดูสูงส่งมากขึ้นเรื่อย ๆ