“แหม่ ไม่คิดเลยนะว่าคุณซิลเวียนักผจญภัยแรงค์ S จากปาร์ตี้เฮียกกะเรียวรันคนนั้นจะมาที่เมืองคาสซานดร้าแบบนี้”
“ค่ะ พอดีว่าได้พบกับพนักงานกิลด์…..ท่านเรียวที่เมืองหลวงน่ะค่ะ ในตอนนั้นพอดีว่าฉันก็ได้รับรู้เรื่องราวปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในเมืองคาสซานดร้าแห่งนี้จากท่านเรียวมาน่ะค่ะ”
ทั้งสองคนนั้นนั่งอยู่บนโซฟากลางห้องในห้องรับแขก
นั่นคือกิลด์มาสเตอร์ที่กำลังถูมือไปมา กับนักดาบดาร์กเอลฟ์สาวที่นั่งยิ้มอยู่ตรงข้ามเขา
คุณซิลเวียนั่นเอง
“ขอโทษที่มาช้านะครับ ผมเรียวครับ”
ผมเข้ามาในห้องแบบเขินๆ จากนั้นทั้งสองคนที่เห็นผมก็เงยหน้าขึ้นมามองผม
ผมถือถาดที่รองถ้วยชาดำไว้ แล้วผมก็เอาชาที่อยู่ในมือไปเสิร์ฟ
ผมได้แต่ภาวนาที่จะออกจากห้องนี้ไปเร็วๆ แต่กิลด์มาสเตอร์ก็ได้เรียกให้ผมไปนั่งข้างๆ
“เรียว! แหม่ ตอนนี้เรากำลังพูดเรื่องของนายกันอยู่พอดีเลยล่ะ ไม่คิดเลยนะว่านายจะรู้จักกับคุณซิลเวียแห่งเฮียกกะเรียวรันคนนั้นด้วยนะเนี่ย!”
“มะ ไม่หรอกครับ….ฮ่ะฮ่ะ สวัสดีครับคุณซิลเวีย”
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ ท่านเรียว”
กิลด์มาสเตอร์ก็ทำหน้าอารมณ์ดี ส่วนคุณซิลเวียก็ยังคงนั่งยิ้มอยู่บนโซฟา
ถ้ากิลด์มาสเตอร์ก็ว่าไปอย่าง แต่เพิ่งเคยเห็นท่าทีแบบนั้นคุณซิลเวียเป็นครั้งแรกเลยนะ!?
แต่แม้จะเห็นรอยยิ้มของสาวงามแบบนี้แต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกดีใจเลยซักนิด
กลับกันเลย ผมรู้สึกถึงแต่ความกลัว
ทำไมคุณซิลเวียถึงมาที่เมืองคาสซานดร้าล่ะ?
หรือว่าเธอจะกลับมาตอบแทนสิ่งที่ผมเคยทำกับเธอไว้กัน…..
ไม่น่าใช่…..
ถ้าเป้าหมายของเธอเป็นแบบนั้นเธอคงไม่เข้ากิลด์มาตรงๆแบบนี้หรอก
ถ้าเธอต้องการจะแก้แค้นผมจริงๆ มันคงจะง่ายกว่าถ้าเธอแอบย่องเข้ามาข้างหลังผมจากที่มืดๆ
ไม่น่าจะเปิดเผยตัวตนให้เห็นแบบนี้หรอก
หรือเท่าที่ผมคิดได้….หรือจะมาตามสัญญาที่ผมพูดส่งๆไปในตอนนั้นงั้นเหรอ…..
คะ คงไม่ใช่หรอกมั้ง?
“นายเนี่ยน้า….นายไปขายตรงให้คุณซิลเวียมาตั้งแต่ตอนไหนกันน่ะ? ไหนยังจะเรื่องที่โรเซนครูเซอร์ย้ายมาที่นี่อีก นี่นายทำงานหนักเกินไปหน่อยรึเปล่า”
“ขะ ขายตรง?”
“เฮ้ยๆ ไม่ต้องมาถ่อมตัวเลยนะ นายเล่าถึงปัญหาของดันเจี้ยนหมาป่าให้เธอฟังใช่มั้ยล่ะ? หลังจากที่คุณซิลเวียได้ยินเรื่องนั้น เธอเลยได้ตัดสินใจย้ายมาอาศัยอยู่ที่เมืองนี้ด้วยตัวเองเลยนะ!”
“ครับ!?”
ปัญหาเกี่ยวกับดันเจี้ยนหมาป่า!?
คุณซิลเวียย้ายมาที่เมืองคาสซานดร้า!?
ฮะ เฮ้ยๆ….มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ล่ะเนี่ย….?
ก็จริงอยู่ที่ดันเจี้ยนหมาป่ามันเป็นปัญหาสำหรับเรา
แต่ผมไม่เห็นจะจำได้เลยว่าผมเคยบอกเธอเรื่องนี้นะ?
ไม่สิ เธอเป็นนักผจญภัยแรงค์ S นี่นา จะได้ยินเรื่องนี่ผ่านหูก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะอย่างน้อยสำนักงานใหญ่ก็เหมือนจะแจ้งนักผจญภัยระดับสูงเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
แต่ว่า คุณซิลเวียย้ายมาที่เมืองคาสซานดร้าคนเดียวเนี่ยนะ!?
ถ้ามาคนเดียวแบบนี้ ก็แปลว่าเธอออกจากเฮียกกะเรียวรันแล้วอย่างงั้นเหรอ!?
ละ แล้วเรื่องสามีของเธอล่ะ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ล่ะเนี่ย….!?
หลังของผมเปียกไปด้วยเหงื่อเย็น ผมที่อยากได้คำอธิบายจึงมองไปหาคุณซิลเวีย
คุณซิลเวียหรี่ตาสีแดงอมม่วงของเธอลงและจ้องกลับมาที่ผมโดยที่ยังยิ้มอยู่
“….ที่สำนักงานใหญ่ของกิลด์นักผจญภัยที่เมืองหลวง พอดีว่าได้ยินเกี่ยวกับปัญหาที่เมืองคาสซานดร้ากำลังเผชิญอยู่น่ะค่ะ ดันเจี้ยนหมาป่าชั้นใหม่ที่ถูกค้นพบโดยโรเซนครูเซอร์….หากไม่มีนักผจญภัยเข้าไป ดันเจี้ยนอาจเกิดการปะทุเอาก็เป็นได้สินะคะ”
“ครับ ใช่แล้วล่ะครับ”
กิลด์มาสเตอร์พยักหน้าอย่างจริงจังให้กับคำพูดของคุณซิลเวีย
แต่ว่า สายตาของคุณซิลเวียก็ยังคงจ้องมาที่ผมเขม็ง
“ถึงแม้ว่าตอนที่กิลด์นำเรื่องนี้มาประกาศจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็เถอะค่ะ….แต่พอดีว่าฉันน่ะเป็นรู้จักเก่าของเหล่าสาวๆในโรเซนครูเซอร์น่ะค่ะ
เลยรู้ว่าพวกเธอไม่เคยรายงานข้อมูลที่ไม่มีความน่าเชื่อถือค่ะ โดยเฉพาะกับเรื่องที่เกี่ยวพันถึงชีวิตคนแบบนี้น่ะค่ะ”
อะ…คุณซิลเวียมองทุกคนในโรเซนครูเซอร์เป็นแบบนั้นนี่เอง
ต้องมองใหม่เลยนะเนี่ย
“ก็แปลว่าคุณซิลเวียก็ได้ฟังเรื่องราวนั้นมาแล้วสินะ?”
“ค่ะ ฉันเองก็เป็นนักผจญถัยแรงค์ S เหมือนกัน ฉันไม่สามารถมองข้ามอันตรายที่ใกล้เข้ามาที่เมืองคาสซานดร้าแห่งนี้ได้ค่ะ ฉันอยากที่จะช่วยเหลือทุกคนให้ได้ซักน้อยก็ยังดีค่ะ”
“พะ เพื่อพวกเราแล้ว ถึงกับยอมออกจากเมืองหลวงมาที่เมืองคาสซานดร้าเลย….!?”
“แน่นอนค่ะ เพียงแต่ว่าพวกพ้องในปาร์ตี้นั้นไม่อาจทำความเข้าใจได้….เลยทำให้ฉันตัดสินใจออกจากเฮียกกะเรียวรัน แล้วย้ายมาที่เมืองคาสซานดร้าด้วยตัวเองค่ะ แต่มีเพียงแค่ฉันที่มาคนเดียวแบบนี้ ทุกคนที่นี่ก็อาจจะยังไม่สามารถรู้สึกวางใจได้หรอกค่ะ….”
“ไม่ใช่อย่างงั้นหรอกนะครับ! โอ้ ช่างคนดีอะไรอย่างนี้นะ….! ผมเป็นกิลด์มาสเตอร์มาหลายสิบปีแล้ว แต่ไม่เคยรู้สึกประทับใจมากเท่าวันนี้มาก่อนเลยล่ะครับ!”
ดูเหมือนว่ากิลด์มาสเตอร์จะประทับใจตัวคุณซิลเวียเอามากๆ
สายตาของเขาดูเป็นประกายเหมือนเด็กผู้ชายเลย
ถ้าผมไม่รู้จักเธอมาก่อน ผมก็คงประทับใจในคำพูดของเธอเหมือนกับกิลด์มาสเตอร์แน่ๆ
แต่ว่ามันไม่น่าเป็นเหมือนที่เธอพูดมาหรอก
ถ้าถามว่าทำไม นั่นก็เพราะผมเห็นสายตาหื่นกระหายของคุณซิลเวียที่จ้องมาทางผมยังไงล่ะ
ยะ อยากหนีไปให้พ้นๆอะ
“แต่ถึงจะว่างั้น การที่จะให้ฉันลุยดันเจี้ยนหมาป่าคนเดียวนั้นก็ยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่นะคะ ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากให้กิลด์มาสเตอร์และท่านเรียวแนะนำปาร์ตี้นักผจญภัยระดับ B หรือ B ขึ้นไปในเมืองนี้ให้กับฉันน่ะค่ะ ถ้าทำได้ก็จะขอบคุณมากๆเลยค่ะ เดี๋ยวอีกซักพักก็ต้องค่อยๆทำความรู้จักกับเหล่านักผจญภัยในเมืองนี้ด้วย ฉันเลยคิดอยากจะหาสมาชิกปาร์ตี้ไว้หน่อยน่ะค่ะ”
“แน่นอน เรื่องแค่นั้นง่ายมากครับ!”
“ขอบคุณมากนะคะกิลด์มาสเตอร์…..แล้วก็ท่านเรียวด้วย”
ในเวลาแค่ชั่วพริบตาเดียว การย้ายมาที่เมืองคาสซานดร้าของคุณซิลเวียก็ได้รับการอนุมัติ
ผมแทบอยากจะคุกเข่ากุมหัวร้องไห้ตอนนี้เลย แต่ผมไม่สามารถทำแบบนั้นได้
จะ ใจเย็นๆสิตัวเรา…..
ไม่เป็นไรหรอกน่ายังพอมีเวลาอยู่นี่!
คุณซิลเวียเพิ่งมาถึงที่เมืองนี้วันนี้เองยังไม่ได้ตัดสินใจหาที่อยู่ว่าจะอยู่ที่ไหน
เพราะงั้นคงต้องใช้เวลาอีกซักพักในการย้ายมาเมืองนี้อย่างเป็นทางการแหละ….!
“จะว่าไปแล้วเรื่องที่พักของคุณซิลเวียในเมืองนี้จะทำยังไงเหรอครับ?”
“หลังจากที่ได้ปรึกษากับครอบครัวของฉันแล้ว พวกเขาก็ได้เตรียมที่พักอาคารหนึ่งในเมืองนี้ไว้ให้เรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ ของใช้เฟอร์นิเจอร์ก็ขนมาไว้เมื่อวันก่อนแล้ว ตอนนี้เลยไม่มีปัญหาอะไรค่ะ”
“โอ้ อย่างงั้นเหรอครับ”
สะ เสร็จเรียบร้อยไปแล้วงั้นเหรอครับ!?
แถมยังบอกว่าอาคารหลังหนึ่งด้วย ไม่ใช่แค่ห้องเดียวหรอกเรอะ!?
จะ จะว่าไปแล้วคุณซิลเวียเป็นลูกสาวของตระกูลพ่อค้าบริษัทใหญ่นี่นา
แถมดูเหมือนว่าสามีของคุณซิลเวียแต่งงานกับเธอก็เป็นเพราะว่า
เขาแค่ต้องการการสนับสนุนจากบริษัทของครอบครัวเธอ…..
ถ้าเป็นงั้นก็แปลว่าบ้านของคุณซิลเวียนั้นต้องรวยกว่าขุนนางระดับล่างๆเลยน่ะสิ
งี้นี่เอง ถ้าเป็นอย่างงั้นก็พอเข้าใจได้ว่าทำไมเธอถึงซื้อทั้งอาคารได้ในเมืองชนบทแบบนี้
“แต่ว่า ฉันยังไม่ค่อยชินกับที่นี่เลยน่ะค่ะ….ถ้าช่วยพาแนะนำเมืองนี้ให้หน่อยก็จะดีใจมากเลยล่ะค่ะ”
“แค่นั้นเอง แน่นอนว่าได้อยู่แล้วครับ นี่ เรียว ฉันจะให้เวลาพักงานกับนายเพราะงั้นนายน่ะ หลังจากนี้พาคุณซิลเวียไปดูรอบเมืองที”
“เอ๊ะ….?”
ผมหันไปหากิลด์มาสเตอร์ พร้อมเสียงประกอบเหมือนสกรูขึ้นสนิม (แกร็กๆๆๆๆ)
และกิลด์มาสเตอร์ก็ยิ้มโชว์ฟันขาวให้ผมไป 1 ที
“พาคุณซิลเวียไปเที่ยวชมเมืองซะนะ ถ้าเธอมีนายอยู่ข้างๆล่ะก็คงจะอุ่นใจแน่ๆ”
“มะ ไม่ล่ะครับ คือผมน่ะ—-“
“แหม จะดีเหรอคะท่านเรียว? ช่วยได้มากเลยล่ะค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
“แค่นี้ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้างั้น เรียว หลังจากนี้ฉันจะทำงานในส่วนของนายเอง เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงแล้วไปเถอะ”
ก่อนที่ผมจะได้ทันพูดปฏิเสธ คุณซิลเวียก็พูดตัดหน้าผมขึ้นมา
กิลด์มาสเตอร์ก็ดันตอกตะปูซ้ำซะมิดเลย ผมก็เลยปฏิเสธไม่ได้
ผมมองไปที่คุณซิลเวียด้วยความหวาดกลัว
คุณซิลเวียยังคงยิ้มแล้วมองมาที่ผมเงียบๆ
แล้วเธอก็ขยับปากโดยที่ไม่ส่งเสียง
—สัญ—-ญา—-
ผมสัมผัสได้เลยว่าปากที่ขยับอยู่กำลังพูดแบบนั้น