–บอกตามตรง ถ้าตอบรับคำสารภาพของคงซิลเวียไปก็คงจะดีไม่น้อย
คุณซิลเวียทั้งสวยและบุคลิกดี
ถ้านี่เป็นโลกเดิมของผมล่ะก็ สารภาพรักแบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
แค่เข้าใกล้เธอแม้แต่นิดก็คงจะไม่ได้เลยซะด้วยซ้ำ
แต่ว่าสิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวผมหลังจากได้ยินคำสารภาพของคุณซิลเวีย—
มันคือภาพคุณคาร์ล่าที่ร้องไห้เมื่อวานนี้
ผมสนิทและมีความสัมพันธ์ทางกายกันกับทุกคนในโรเซนครูเซอร์มาก่อน
ก่อนที่ผมจะได้มาเจอกับคุณซิลเวียซะอีก
และผมก็ถือว่ามีความสัมพันธ์กับโรเซนครูเซอร์ดีมากๆด้วย
ถ้าผมแต่งงานกับคุณซิลเวีย–
ทุกคนในโรเซนครูเซอร์ก็อาจจะออกไปจากเมืองโรเซนครูเซอร์รึเปล่า?
ความคิดแบบนั้นมันผุดขึ้นมาในหัวของผม
ตอนที่คุณคาร์ล่าได้ยินว่าผมจะแต่งงานกับคุณซิลเวีย เธอก็ร้องไห้ออกมาหนักมาก
ถ้าจะต้องแต่งงานกันจริงๆล่ะก็–
ผมก็อาจจะต้องสูญเสียความสัมพันธ์อันดีต่อโรเซนครูเซอร์ทุกคนไป
ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ทุกคนก็อาจจะออกไปจากเมืองคาสซานดร้าเลยก็ได้
แถมเมย์ฟากับซึสึจะทำอะไรผมก็ไม่สามารถรู้ได้เลย
ซึสึน่ะไม่เท่าไหร่ แต่เมย์ฟาน่ะเป็นคนที่เดาไม่ออกเลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่
แต่ที่แน่ๆก็คือเธอน่ะยังไม่ได้ยอมแพ้เรื่องที่จะพาผมกลับไปที่กิลด์แห่งความมืด
ถ้าผมกับคุณซิลเวียแต่งงานกันจริงๆ เมย์ฟาจะทำอะไรก็บ้างก็ไม่รู้….
สรุปแล้ว ตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือ–
ควรจะรักษาสายสัมพันธ์แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ไว้ต่อไปล่ะนะ!
รักษาไว้! อื้ม!
คุณซิลเวียเองก็บอกว่าเธอจะรอคำตอบนี่นา!
สำหรับตอนนี้ก็พักเรื่องนี้ไว้ก่อน แล้วปล่อยไว้ให้เป็นเรื่องของตัวผมในอนาคตก็แล้วกัน
ก็นะ ในระหว่างนี้คุณซิลเวียก็อาจจะได้มีความสัมพันธ์อันดีกับคนอื่นนอกจากผมก็ได้
(เรียว!!!! จะยกซิลเวียให้คนอื่นได้ไงฟะไอ้นี่หนิ)
“–ขอโทษที่จู่ๆก็พูดออกไปแบบนั้นนะ ที่จริงแล้ วฉันก็อยากจะเก็บมันไว้ในใจอยู่น่ะนะ”
คุณซิลเวียลุกขึ้นไปอย่างไม่เต็มใจและยื่นมือมาจับมือผมให้ลุกขึ้น
“อาจจะเป็นเพราะแต่งตัวแตกต่างจากปกติล่ะมั้ง ก็เลยควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ค่อยได้”
จะว่าไปแล้ว เมื่อกี้คุณซิลเวียก็พูดชมเครื่องแบบที่ผมใส่อยู่ด้วยนี่นะ
หรือบางทีแล้วเธออาจจะมีรสนิยมที่ชอบพวกชุดทางการก็ได้
“เดี๋ยวฉันจะล่วงหน้าไปสถานที่ซ้อมก่อนนะ ยังพอจะมีเวลาอยู่ เพราะงั้นไม่ต้องรีบก็ได้นะ”
ก่อนที่ผมจะทันได้พูดอะไร คุณซิลเวียก็หันหลังและออกจากเต็นท์ไปอย่างรวดเร็ว
ผมอยากจะยื้อตัวเธอไว้ก่อน แต่เดาว่าตอนนี้เธอคงจะมองหน้าผมตรงๆไม่ได้ล่ะนะ
ผมทำตามที่เธอบอก ผมนั่งรอพักหนึ่งโดยไม่รีบร้อนก่อนจะไปสถานที่ซ้อม
“…หืม?”
ในขณะที่ผมกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้เฉยๆจู่ๆก็ได้ยินเสียงใครบางคนจากข้างนอก
เสียงนั้นดังมาจากทางตรงกันข้ามทางเข้าเต็นท์
ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้และขยับเข้าไปใกล้ต้นเสียงที่มาจากกำแพง ที่ตรงนั้นมีรูสี่เหลี่ยมอยู่
ถ้าเดินไปพลิกผ้าแล้วส่องดู ก็จะสามารถมองเห็นข้างนอกจากภายในได้
ผมค่อยๆพลิกผ้าดูแล้วมองออกไปข้างนอกด้วยความกังวล
“–ก็บอกไปแล้วไม่ใช่รึไงลิเลีย ว่าพรุ่งนี้ไม่ว่างน่ะ ถึงจะเป็นวันซ้อมแต่วันนี้ก็อุตส่าห์มาหาแล้วไม่ใช่รึไง”
“ตะ แต่ว่า วันแต่งจริงมันคือพรุ่งนี้นะ….”
คนที่อยู่ตรงนั้นคือน้องสาวต่างแม่ของคุณซิลเวีย ลิเลียจังนั่นเอง
น่าเสียดายแฮะ เธอยังไม่ได้เปลี่ยนไปใส่ชุดที่ดูเซ็กซี่เลย
เธอกำลังจะไปที่เต็นท์คู่หมั้นของเธออยู่รึเปล่านะ?
ว่าแต่ ลิเลียจังกำลังคุยกับใครอยู่กันนะ
หน้าตาของเธอคนนั้นคล้ายกับลิเลียจังมาก หน้าตาเหมือนคนอายุประมาณซัก 30 ต้นๆ
แต่เพราะเธอเป็นดาร์กเอลฟ์ ก็เลยไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเธออายุเท่าไหร่
“นี่ ขอร้องล่ะ…พรุ่งนี้ท่านทวดก็จะมานะ? ถ้าลิเลียสืบทอดมรดกได้ล่ะก็ หม่าม้าก็จะน่าจะดีใจไม่ใช่เหรอ?”
ผมสงสัยว่าเธอคนนั้นเป็นใคร
แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคุณแม่ของลิเลียจังนะ
แม่ของลิเลียจังถอนหายใจออกมาด้วยเสียงที่ดูเหนื่อยใจ
“เฮ้อ พอได้แล้วลิเลีย แม่ไม่ได้ว่างมากหรอกนะรู้มั้ย? เพราะการรับมรดกของลูก ทำให้แม่ถึงกับต้องกลับมาที่หมู่บ้านบ้านนอกแบบนี้เลยนะ? ทำอะไรเห็นแก่ตัวกับหม่าม้าแบบนี้ มันสนุกมากงั้นเหรอ?”
“ตะ แต่ว่า….”
“แม่ไม่สนหรอกว่ามรดกจะเป็นยังไง ยังไงซะ ท่านทวดก็ชอบซิลเวียอยู่แล้วนี่ เพราะงั้นมรดกส่วนใหญ่ยังไงก็ต้องตกเป็นของซิลเวียอยู่แล้ว”
เท่าที่ได้ยิน ดูเหมือนว่าแม่ของลิเลียจังจะไม่ได้อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านนี้
เธอออกจากหมู่บ้านไปอยู่เมืองอื่นเหมือนกับคุณซิลเวียเลย
แต่จะว่าไงดี ดูเป็นบทสนทนาที่ดูเย็นชายังไงก็ไม่รู้
นึกไม่ถึงเลยว่านี่จะเป็นคำพูดที่ใช้พูดกับลูกสาวที่จะแต่งงานในวันพรุ่งนี้น่ะ
“ไม่ต้องคิดมากหรอก เพราะหม่าม้าไม่ได้คาดหวังอะไรจากลูกอยู่แล้วล่ะนะ จะแต่งงานหรือมรดกอะไรนั่นก็ช่างมันเถอะ”
“……”
“เอาล่ะ คุยกันแค่นี้ก็พอ ถ้ามีใครมาเจอลูกอยู่ตรงนี้ก็คงจะไม่ดี งั้นเดี๋ยวแม่จะล่วงหน้าไปที่เต็นท์ก่อนละกันนะ”
“อืม….”
พอพูดแบบนั้นเสร็จ แม่ของลิเลียจังก็เดินไปที่เต็นท์สีชมพูอย่างที่พูด
หลังจากนั้นลิเลียจังก็ถูกทิ้งไว้ตามลำพัง
“…….ฮึก”
ลิเลียจังที่มีปัญหากับคุณซิลเวียในงานเลี้ยงอาหารค่ำเมื่อวันก่อนหน้านี้
กำลังสลดใจและใช้หลังมือเช็ดน้ำตาอยู่
แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาเลยว่านี่คือคนเดียวกัน
ใบหน้าร้องไห้ของเธอมันซ้อนทับกับคุณคาร์ล่าเมื่อวานนี้
มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกขมขื่นมากขึ้น
ในจังหวะที่กำลังจะส่งเสียงออกไปลิเลียจังก็เงยหน้าขึ้นมา
ผมที่แอบมองเธออยู่ผ่านช่องก็สบสายตากับเธอเข้า
“….!”
เหมือนลิเลียจังจะอายที่ถูกเห็นหน้าร้องไห้ หน้าของเธอเลยเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที
จากนั้นเธอก็จ้องมาที่ผมด้วยสีหน้าผิดหวัง
“อะ อะไร นี่แอบฟังอยู่เหรอ!? เลวที่สุดเลย!”
“!?”
จะบอกว่าดักฟักฟังมันก็ยังไงอยู่นะ
แต่คนที่มาคุยกันใกล้ๆเต็นท์ผมน่ะ มันทางนั้นไม่ใช่รึไง!
ก่อนที่ผมจะทันได้พูดแก้ตัว ลิเลียจังก็วิ่งหนีไปก่อน มัน
ทำให้ผมรู้สึกตัวเล็กจ้อยไปเลย
ในขณะที่ผมกำลังสับสนอยู่นั่นเอง ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากทางเข้าเต็นท์
“เรียว โอเคดีอยู่ใช่มั้ย? ใกล้จะได้เวลาแล้วนะ?”
นั่นเป็นเสียงของคุณคาร์ล่า
ผมก็กังวลเรื่องของลิเลียจังอยู่หรอก แต่ถ้าผมไม่รีบไปที่ซ้อมล่ะก็คงแย่แน่ๆ
ผมจึงรีบถอยออกมาจากรูนั่นและเดินไปที่ทางเข้า
แต่–จะว่าไงดี
เหมือนจะได้เห็นอะไรที่ไม่สมควรจะเห็นเข้าซะแล้วสิเนี่ย….
คุณซิลเวียกับลิเลียจัง แม้ทั้งสองจะเป็นพี่น้องกัน
แต่คนหนึ่งถูกเรียกว่าเบบี้จังและถูกประคบประหงมเหมือนแมวน้อย
แต่แม่ของอีกคนหนึ่งกลับไม่ยอมมาร่วมงานแต่ง
คุณซิลเวียจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้วรึเปล่านะ?