Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 1047 : ระดมสมอง

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์ดันเตสไปไหนหรือคะ?” ออเดรย์ยิ้มอย่างสุภาพ ซักถามบุรุษรับใช้ลูกครึ่งโลเอ็นและไบลัมตะวันออก

เอ็นยูนตอบอย่างสุภาพ:

“นายท่านไปเข้าห้องน้ำ ตอนนี้คงใกล้จะกลับมาแล้ว คุณหนูจะรอไหม?”

“ได้ค่ะ” ออเดรย์เลือกนั่งลงบนโซฟาเดี่ยว ความคิดมากมายผุดขึ้นในใจ

ว่ากันตามตรง หากปัญหามีเพียงตัวเฮอร์วิน·แรมบิส เธอมีความคิดหนึ่งในใจอยู่แล้ว นั่นคือการสะกดจิตตัวเองล่วงหน้า เมื่อใดที่เฮอร์วิน·แรมบิสย้อนกลับมารับฟังคำตอบ เหตุการณ์ดังกล่าวจะดลใจให้เธอกระตุ้นยันต์ของเกอร์มัน·สแปร์โรว์โดยปราศจาก ‘เจตนาร้าย’ และหลังจากนั้นก็ร่วมมือกับนักผจญภัยเสียสติเพื่อล่าครึ่งเทพ

ฮึ! เพื่อกันเหนียว เรายังสามารถขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากมาดามเฮอร์มิทได้เช่นกัน ตอนนี้เธอกลายเป็นครึ่งเทพเรียบร้อยแล้ว สามารถรอซุ่มโจมตีในความมืด ผนึกกำลังกับมิสเตอร์เวิร์ลท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติ หากต้องรับมือกับทั้งคู่พร้อมกัน เฮอร์วิน·แรมบิสไม่น่าจะรอด… ออเดรย์เม้มริมฝีปาก อดใจไม่ให้ขบกรามตัวเอง

ส่วนคำถามที่ว่า มาดามเฮอร์มิทจะเดินทางมายังเบ็คลันด์ได้อย่างไร ออเดรย์ไม่มองว่าเป็นปัญหา เพราะตนสามารถเช่า ‘บันทึกการเดินทางของเลมาโน่’ และให้ ‘เดอะเวิร์ล’ บันทึกพลังเทเลพอร์ต จากนั้นก็สวดวิงวอนให้มิสเตอร์ฟูลส่งไปถึงมืออีกฝ่าย

แต่ถ้าทำแบบนั้น แม้เฮอร์วิน·แรมบิสจะหลบหนีไม่สำเร็จ แต่ถ้าถามว่าใครเป็นคนฆ่า สมาคมแปรจิตก็คงสงสัยบุคคลสุดท้ายที่ครึ่งเทพรายนี้ติดต่อ นั่นคือตัวออเดรย์เอง

และนั่นแปลว่า อนาคตของเราจะเต็มไปด้วยปัญหา… ดวงตาออเดรย์ขยับเล็กน้อย พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเอง

ทันใดนั้น ดอน·ดันเตสกับจอนสีขาวและมาดสง่างามเดินกลับจากห้องน้ำ มันส่งยิ้มพลางกล่าวทักทายสตรีผู้สูงศักดิ์ที่นั่งรออยู่

หลังจากสั่งให้บุรุษรับใช้เอ็นยูนเดินไปเฝ้าประตู เศรษฐีหน้าใหม่มองไปรอบๆ ก่อนจะถอนสายตากลับมาทางออเดรย์:

“ดูเหมือนคุณจะเจอปัญหา?”

ออเดรย์ไม่พยายามถอดความนับจากประโยคของมิสเตอร์เวิลด์ เพียงตอบอย่างใจเย็น:

“ค่ะ…”

เธอเรียบเรียงสิ่งที่ได้พบเจอและอธิบายอีกครั้ง จนในที่สุดก็กล่าว:

“ดิฉันต้องทำอย่างไรจึงจะแก้ไขปัญหานี้ได้?”

แก้ไขปัญหาหมายถึง จะไม่มีความวุ่นวายตามมาในอนาคต

ไคลน์ยิ้มและตอบ:

“ทำไมคุณไม่ปรึกษากับสตรีทั้งสองล่ะ?”

จริงด้วย! เหมือนกับที่มิสเตอร์มูนทำ ขออนุญาตจัดชุมนุมย่อย… ซิลกับฟอร์สที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงต้องตอบตกลงแน่ นอกจากพวกเธอ เราต้องชวนมิสเตอร์เวิร์ล มิสเตอร์แฮงแมน มาดามเฮอร์มิท มิสเตอร์มูน… อึก… ตัดมิสเตอร์มูนออกไปก่อน… ออเดรย์รู้สึกตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก

ทันใดนั้น เธอรู้สึกได้ว่าตนไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง

“เข้าใจแล้วค่ะ” ออเดรย์พยักหน้าด้วยรอยยิ้มสดใส

หญิงสาวนึกถึงคำถามอื่นทันที รีบหาโอกาสถาม:

“เฮอร์วิน·แรมบิสสั่งให้ดิฉันเลิกต่อต้านความปรารถนาดีจากเหล่าเจ้าชาย แถมยังบอกให้เยินยอพวกเขาต่อหน้าพ่อกับแม่ จุดประสงค์คืออะไร?”

ไคลน์ไตร่ตรองสักพัก:

“อาจหมายถึงการแสดงความเป็นมิตรอย่างเปิดเผย… ทำให้บิดาของคุณซึ่งเชื่อมโยงกับโบสถ์รัตติกาลใจอ่อนและคล้อยตาม… ไม่ว่ากษัตริย์จะมีความลับแบบใด แผนการจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ในท้ายที่สุด พระองค์ต้องได้รับการสนับสนุนจากศาสนจักรใหญ่อย่างน้อยหนึ่งแห่ง เพื่อที่จะลดทอนเสียงคัดค้าน”

“อย่างนี้นี่เอง…” ออเดรย์ไม่โต้แย้งข้อสันนิษฐานของมิสเตอร์เวิลด์ เพราะถ้าลอกเปลือกนอกที่หุ้มด้วยพลังพิเศษออก สิ่งเหล่านี้คือเกมการเมืองที่เธอคุ้นเคย

เธอไม่แช่อยู่นานนัก รีบกลับไปที่ห้องทำงานตัวเอง หลังจากจัดการกับชีวิตประจำวันเสร็จ หญิงสาวอาศัยช่วงเวลาพักเที่ยงเพื่อสวดวิงวอนถึงมิสเตอร์ฟูล ขอจัดชุมนุมย่อย

เหนือสายหมอกสีเทาไร้ขอบเขต แสงสีแดงเข้มสว่างขึ้นรอบๆ โต๊ะทองแดงยาวลวดลายโบราณ

ออเดรย์มองไปรอบๆ ก่อนจะลุกขึ้นคำนับสมาชิกที่เหลือ:

“ทุกคนคะ… ดิฉันมีบางเรื่องที่อยากฟังความเห็นของทุกคน”

“เรื่องด่วนสินะ” ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์พยักหน้าเล็กน้อย ตอบกลับห้วนๆ

‘จัสติส’ ออเดรย์นั่งลงและพูด

“ใช่ค่ะ”

จากนั้น เธอก็มองไปทาง ‘จัดจ์เมนต์’ ซิลและ ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์ส

“ดิฉันได้พบกับเฮอร์วิน·แรมบิสในช่วงเช้าวันนี้ เขาสะกดจิตฉันและสั่งให้ทำสองสิ่ง ทิ้งท้ายด้วยการกำชับให้ลืมว่าเขาเคยมาที่นี่… โชคดีที่ฉันค่อนข้างระวังตัว ความผิดปรกติจึงถูกพบอย่างรวดเร็ว และหลังจากสวดวิงวอนถึงมิสเตอร์ฟูล ความทรงจำทั้งหมดก็กลับคืนมา… เรื่องแรกที่เฮอร์วิน·แรมบิสสั่งให้ทำก็คือ นัดพบกับมิสจัดจ์เมนต์และเมจิกเชี่ยน หาโอกาสสะกดจิตพวกคุณทั้งสอง สอบถามเกี่ยวกับแรงจูงใจในพฤติกรรมล่าสุดของคุณ จากนั้นก็สั่งให้พวกคุณออกจากเบ็คลันด์โดยเร็ว”

อะไรกัน… ในตอนแรก ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สกังวลแค่ความปลอดภัยของมิสจัสติส แต่คาดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะหมุนเป็นวงกลม วกวนกลับมาหาตนและซิลอีกครั้ง!

เมื่อลองคิดว่าศัตรูคือมิสออเดรย์… เราไม่มีทางระวังตัวแน่! ตอนนี้กำลังถูกจับตามองโดยครึ่งเทพ… หลังจากที่ฟอร์สรู้สึกประหลาดใจ ความกลัวเริ่มผุดขึ้นตามมา

เธออดไม่ได้ที่จะชำเลืองไปทางเพื่อนสนิทและพบ ‘จัดจ์เมนต์’ ซิลกำลังนั่งด้วยท่าทางสุขุม แต่กำปั้นของเธอกำลังกำแน่นโดยไม่รู้ตัว

แคทลียาเผยสีหน้างุนงงเล็กน้อย ขมวดคิ้วและกล่าว:

“หรือสมาคมแปรจิต หรืออาจแค่เฮอร์วิน·แรมบิส ทราบว่ามิสจัดจ์เมนต์กับมิสเมจิกเชี่ยนเป็นสมาชิกของชุมนุมทาโรต์?”

นี่ถือเป็นเรื่องร้ายแรงและสำคัญมาก

‘จัสติส’ ออเดรย์ส่ายหน้า

“ไม่ใช่ค่ะ… เพียงเพราะดิฉันรู้จักพวกเธอบนโลกความจริง”

ในวินาทีนี้ เธอไม่พยายามปกปิดตัวตนจากฟอร์สและซิลอีกต่อไป

อันที่จริง นับตั้งแต่ซิลเข้าร่วมชุมนุมทาโรต์และรับไพ่จัดจ์เมนต์ ออเดรย์รู้ว่าตัวจริงของเธอจะถูกเปิดเผยในไม่ช้าก็เร็ว และจากการสังเกตเบื้องต้น เธอยืนยันได้ว่าเพื่อนทั้งสองพอจะเดาออก ส่งผลให้ตัดสินใจไม่ปิดบังความจริง

“พวกคุณรู้จักกัน?” แคทลียาดันแว่นตาเลนส์หนาที่สันจมูก ถามเชิงโวหารด้วยสีหน้ากึ่งประหลาดใจ

‘จัสติส’ ออเดรย์พยักหน้า

“ใช่ค่ะ… ดิฉันเป็นคนแนะนำพวกเธอให้เข้าเป็นสมาชิก มิสเตอร์แฮงแมนสามารถเป็นพยาน”

เห…? ไม่ใช่ว่าเพราะเรากำลังจะตาย จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากท่องพระนามเต็มอันศักดิ์สิทธิ์ของมิสเตอร์ฟูลจนถูกดึงขึ้นมาหรอกหรือ? มันกลายเป็นการ ‘ถูกแนะนำ’ ไปได้ยังไง? ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สจ้องหน้า ‘จัสติส’ ออเดรย์สักพัก ก่อนจะชำเลืองกลับไปทาง ‘จัดจ์เมนต์’ ซิลอีกครั้งด้วยความงงงวย

ซิลเองก็เผยอากัปกิริยาที่คล้ายคลึงกันซึ่งทำไม่บ่อยนัก เพราะคำว่า ‘ถูกแนะนำ’ นั้นเกินความเข้าใจและการคาดเดาของเธอไปมาก

‘จัสติส’ ออเดรย์กระอักกระอ่วนเล็กน้อย กะพริบตาสองสามหน อธิบายให้เพื่อนสองคนฟัง:

“เพราะพวกคุณสองคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดิฉันที่อยากให้ชุมนุมทาโรต์พัฒนาและเติบโต จึงแนะนำให้พวกคุณให้มิสเตอร์ฟูลรู้สึก แต่นั่นก็แค่การมอบโอกาส หากคุณสองคนไม่ผ่านการทดสอบของมิสเตอร์ฟูล พระองค์ก็จะไม่ดึงขึ้นมา”

ทดสอบ? เราผ่านการทดสอบอะไร? ตอนไหน? ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สยังคงสับสน ส่วน ‘จัดจ์เมนต์’ ซิลกำลังครุ่นคิดหลายสิ่ง โดยเฉพาะที่มาของเศษกระดาษซึ่งมีพระนามเต็มของมิสเตอร์ฟูลเขียนไว้ รวมถึงประสบการณ์เมื่อครั้งจ้างคนมาขับไล่วิญญาณ

เข้าใจแล้วว่าทำไมเราถึงตงิดใจว่าพวกเธออาจจะรู้จักกัน… และเข้าใจแล้วว่าทำไมมิสจัดจ์เมนต์เพิ่งได้เข้าชุมนุมทีหลังคนอื่น นั่นเพราะเธอได้รับบททดสอบที่แตกต่างออกไป… แต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว… นี้คือเกณฑ์การคัดเลือกของชุมนุมทาโรต์หรือ? แล้วเรามีอะไร? แคทลียาตกตะลึงพลางคาดเดา

ได้เห็นฉากตรงหน้า อัลเจอร์ที่มองเห็นภาพรวมมาสักพักแล้ว หัวเราะในลำคอและกล่าว

“ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลัง มิสจัสติส… คำถามของคุณคือ… วิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับเฮอร์วิน·แรมบิส?”

“ใช่ค่ะ” ‘จัสติส’ ออเดรย์วกกลับเข้าประเด็น ซักถามอย่างจริงจัง “ไม่เพียงจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับเฮอร์วิน·แรมบิส แต่ต้องทำให้สมาคมแปรจิตไม่สงสัยดิฉัน… ตอนนี้ควรทำยังไงดี”

‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ยังไม่มีประสบการณ์รับมือกับครึ่งเทพ ได้แต่อาศัยความรู้ความเข้าใจที่บ่มเพาะมาเนิ่นนาน

“ล็อกตำแหน่งเฮอร์วิน·แรมบิส จากนั้นก็ลงมือหลังจากที่เขาไปพบคนอื่น?”

“ล็อกด้วยวิธีใด…” ‘จัสติส’ ออเดรย์ถามเอง ก่อนจะตอบเอง “หลังจากรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับมิสจัดจ์เมนต์และมิสเมจิกเชี่ยนให้เฮอร์วิน·แรมบิสทราบ รอจนกระทั่งเขาจากไป ดิฉันต้องรีบเอ่ยพระนามเต็มอันศักดิ์สิทธิ์ของมิสเตอร์ฟูล ขอให้พระองค์ช่วยเฝ้ามองครึ่งเทพตนนี้?”

ในทางทฤษฎีก็ทำได้… ‘มุมมองเทพ’ บนมิติหมอกของเราเห็นได้ไกลเกือบสิบกิโลเมตร ตราบใดที่เฮอร์วิน·แรมบิสไม่เทเลพอร์ต เราก็สามารถระบุที่อยู่และวิถีของมันได้ในระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นก็ส่งตัวเองกลับสู่โลกความจริง เทเลพอร์ตไปจัดการตรงๆ … อา… คงต้องทำนายยืนยันความปลอดภัยให้แน่ใจเสียก่อน… แต่ปัญหาคือ การทำแบบนั้นจำเป็นต้องให้เดอะฟูลแทรกแซงโดยตรง… ไคลน์ซึ่งอยู่ในร่างเกอร์มัน·สแปร์โรว์ กล่าวเสียงแหบแห้ง:

“ขอเตือนไว้หนึ่งเรื่อง มิสจัดจ์เมนต์และมิสเมจิกเชี่ยนเคยเอ่ยถึงอาดัมในโลกความจริง… สมาคมแปรจิตนั้นมีต้นกำเนิดจากการขุดค้นซากโบราณสถานของเฮอร์มิส และเฮอร์มิสคือสมาชิกของ ‘สภานักสิทธิ์สนธยา’ … หนึ่งในผู้ก่อตั้งสภานักสิทธิ์สนธยาคืออาดัม มิสเตอร์เดอะฟูลไม่ต้องการเป็นศัตรูกับสภานักสิทธิ์สนธยาเพราะเรื่องนี้… แผนการของพวกเรา หากเป็นไปได้ก็ห้ามเผยตัว”

ปริมาณและความสำคัญของข้อมูลในประโยคเมื่อครู่ ทำให้แม้แต่ ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาและคนที่เหลือ พลันรู้สึกว่าสมองกำลังปั่นป่วน กระทั่ง ‘จัดจ์เมนต์’ ซิลและ ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สก็ยังตื่นตระหนกตกใจ

องค์กรลับดังกล่าวมีชื่อว่า ‘สภานักสิทธิ์สนธยา’ นี่เอง… มิสเตอร์ฟูลไม่อยากเป็นศัตรูกับสภานักสิทธิ์สนธยาเพราะเรื่องนี้… นั่นเพราะพวกเขาเพิ่งร่วมมือกับ ‘เทวทูตจินตภาพ’ อาดัมเพื่อวางแผนจัดการอินซ์·แซงวิลล์? ไม่คิดว่าสมาคมแปรจิตจะมีความเกี่ยวข้องกับสภานักสิทธิ์สนธยา… เดี๋ยวนะ… เฮอร์มิส? เขายังมีชีวิตอยู่? แถมยังเป็นสมาชิกของสภานักสิทธิ์สนธยา? องค์กรดังกล่าวเต็มไปด้วยคนใหญ่คนโตอย่างแท้จริง… ยังมีใครที่เรานึกไม่ถึงอีกไหม? ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ชำเลืองไปทางเกอร์มัน·สแปร์โรว์เล็กน้อย ก่อนจะมองไปทางแคทลียาอย่างอดไม่ได้

มันพบว่าฝ่ายหลังเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน และนี่ไม่ใช่การเสแสร้ง

“สภานักสิทธิ์สนธยา… คือองค์กรลับโบราณที่จักรพรรดิโรซายล์เข้าร่วมใช่ไหม?” คล้ายกับ ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาพึมพำกับตัวเอง แต่ก็ดูเหมือนเป็นคำถามที่ต้องการคำยืนยัน

‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ให้คำตอบ:

“ถูกต้อง… หลังจากที่กลับสู่โลกแห่งความจริง เป็นการดีที่สุดถ้าจะไม่คิดถึงเรื่องพวกนี้อีกเลย ไม่อย่างนั้นอาจถูกจับตามองได้ฝ่าย… ถ้าพวกคุณไม่เชื่อใจตัวเอง สามารถขอให้มิสจัสติสช่วยฝังการชี้นำทางจิตได้”

…………………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset