บทที่ 1749 มอบหมายพวกเขาให้ผม
เป็นเวลาติดต่อกันหลายวัน ทีมผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสามและทีมชีซิงกับเป่ยโต่ว แทบจะเฝ้าอยู่ใกล้เคียงบ้านตระกูลเยี่ยทุกนาทีทุกวินาที ขอแค่เหลียงเหม่ยเซวียนกับหวงหมิงคุนออกจากบ้านเยี่ย พวกเขาก็จะติดตามไปถ่ายภาพและวิดีโอ
กระทั่งว่าชีซิงบุกเข้าบ้านตระกูลเยี่ย ถ่ายการเคลื่อนไหวบางอย่างของเหลียงเหม่ยเซวียนกับหวงหมิงคุนตอนอยู่ที่บ้านไว้
แต่ตอนอยู่บ้านเยี่ย เหลียงเหม่ยเซวียนกับหวงหมิงคุนปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนมาก ก็เหมือนกับเจ้านายกับลูกน้อง แทบไม่ได้แตกต่าง หาจุดอ่อนใดๆ ไม่ได้เลย
เวลาผ่านไป ใกล้ถึงวันเปิดศาลตัดสินของเยี่ยมู่ฝานกับเยี่ยเส่าถิง แต่จนตอนนี้กลับยังคงหาหลักฐานที่เป็นรูปธรรมมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเยี่ยมู่ฝานกับเยี่ยเส่าถิงไม่ได้…
เรื่องพวกนี้ก่อนที่ยังไม่ถึงประเทศจีน เยี่ยหวันหวั่นเคยบอกพวกผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสามนานแล้ว ในใจทุกคนก็รู้ดีจึงไม่ได้ถามอะไรอีก
วันหนึ่งผู้อาวุโสสามก็มาหาเยี่ยหวันหวั่น
“ผู้นำ เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ สะกดรอยตามถ่ายภาพทำได้แค่อาศัยโชค และของอย่างโชคนี้ก็เป็นภาพลวงตา ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเรา” ผู้อาวุโสสามมองเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ยปาก
ได้ยินผู้อาวุโสสามเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา เยี่ยหวันหวั่นก็พยักหน้าน้อยๆ จากนั้นจึงจ้องผู้อาวุโสสาม “งั้นตามความคิดของผู้อาวุโสสาม ควรทำยังไงถึงจะดี”
“ถ้าผู้นำเชื่อผมละก็ เรื่องนี้มอบหมายให้ผม…ผมจะให้ข้อมูลและคำตอบที่ผู้นำต้องการได้แน่นอน” ผู้อาวุโสสามคลี่ยิ้มเอ่ย
“ได้ งั้นมอบหมายให้นายแล้ว” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
มีคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น ผู้อาวุโสสามก็ไม่กังวลอะไรอีก
ตอนเย็นผู้อาวุโสสามรวบรวมหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยแล้วก็รวมถึงพวกชีซิงกับเป่ยโต่วไปลาดตระเวนที่ประตูทางเข้า
ผ่านไปประมาณสองสามวัน หวงหมิงคุนกับเหลียงหวั่นจวินก็ไปโรงแรมอีกครั้ง
…
“ผู้อาวุโสสาม ตอนนี้จะทำยังไงดีครับ” สมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยคนหนึ่งหันมองผู้อาวุโสสาม
ได้ยินดังนั้นผู้อาวุโสสามก็หัวเราะเสียงเย็น ไม่ได้เอ่ยปากแต่พาทุกคนก้าวเดินเข้าไปในโรงแรม
ผู้อาวุโสสามเดินไปถึงเคาน์เตอร์โรงแรมอย่างรวดเร็ว มองพนักงานต้อนรับแล้วผู้อาวุโสสามก็เอ่ยปากถาม “ชายหญิงเมื่อกี้ไปห้องไหนแล้ว”
“คุณคือ?”
พนักงานต้อนรับมองผู้อาวุโสสามด้วยสีหน้าระแวง
“เธอไม่ต้องรู้” ผู้อาวุโสสามเอ่ยอย่างรำคาญ
“ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ พวกเราไม่สามารถบอกข้อมูลของแขกรวมถึงห้องของแขกให้คุณได้ค่ะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยพูด
“ผู้อาวุโสสาม…เมื่อกี้ฉันเห็นสองคนนั่นขึ้นชั้นสามสิบเอ็ด ฉันจำได้ว่าชั้นสามสิบเอ็ดมีแค่ห้องเพรสซิเดนเทียลสวีตห้องเดียว ไม่มีห้องอื่นแล้ว” เป่ยโต่วเอ่ยขึ้นมาในเวลานี้
เมื่อรู้ตำแหน่งห้องของหวงหมิงคุนกับเหลียงเหม่ยเซวียน ผู้อาวุโสสามก็หัวเราะเย็นก่อนโบกมือทันที “ไป”
เห็นดังนั้นพนักงานต้อนรับของโรงแรมก็หน้าเปลี่ยนสี รีบออกมาจากเคาน์เตอร์แล้วขวางพวกผู้อาวุโสสามทันที “พวกคุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ มีเรื่องอะไรพวกคุณออกไปแก้ไขกันที่นอกโรงแรม ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจแล้ว!”
ได้ยินดังนั้นผู้อาวุโสสามก็เหล่มองพนักงานต้อนรับ “คุณหนูน้อย ฉันก็ไม่คิดลำบากเธอ ไปแจ้งตำรวจเถอะ”
เมื่อสิ้นเสียงของผู้อาวุโสสาม ผู้อาวุโสสามก็พาทุกคนขึ้นลิฟต์ตรงไปยังชั้นสามสิบเอ็ด
…
ที่ด้านนอกห้องเพรสซิเดนเทียลสวีต ผู้อาวุโสสามยืนอยู่หน้าประตูแล้วเคาะประตู “หวงหมิงคุน มาเปิดประตูซะ”
หลังเคาะติดต่อกันหลายสิบครั้ง ในห้องจึงค่อยมีเสียงตื่นระวังของหวงหมิงคุนดังออกมา “ใครน่ะ!? ”
———————————————————————
บทที่ 1750 พวกเราคือนักข่าว
“เจ้าหนี้ของคุณ” ผู้อาวุโสหัวเราะชั่วร้าย
“เจ้าหนี้? ”
ได้ยินดังนั้น เสียงของหวงหมิงคุนแฝงความตกใจ เจ้าหนี้อะไรจากไหน…
ยังไม่ทันที่หวงหมิงคุนจะคิดจนเข้าใจ ผู้อาวุโสสามก็มองสมาชิกหัวกะทิพันธมิตรอู๋เว่ยคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างก่อนเอ่ยปาก “ถีบเปิดประตูให้ฉัน”
สิ้นเสียงของผู้อาวุโสสาม สมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยคนนั้นก็ยกเท้าถีบออกไป
เวลานี้เห็นแค่ว่าหวงหมิงคุนกับเหลียงเหม่ยเซวียน ทั้งสองคนกำลังสวมเสื้อผ้าด้วยสีหน้าเปี่ยมความสับสนลนลาน
“ถ่ายไว้ ถ่ายไว้ให้หมด ที่ควรถ่ายก็ถ่าย ควรบันทึกวิดีโอก็บันทึก”
ผู้อาวุโสสามเอ่ยปากทันที
เมื่อได้ยิน สมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยทุกคนรวมไปถึงชีซิงกับเป่ยโต่วก็หยิบมือถือออกมากระหน่ำถ่ายหวงหมิงคุนกับเหลียงเหม่ยเซวียนอย่างรวดเร็ว
“พวกคุณ…พวกคุณแม่งมาจากไหนกัน มีจุดประสงค์อะไร!” หวงหมิงคุณตะคอกใส่ผู้อาวุโสสามเสียงเข้ม
แต่ทว่าผู้อาวุโสสามกลับไม่ตอบคำถามนี้ของหวงหมิงคุน เพียงแค่จิ๊ปากหัวเราะ “ไม่ไหว แย่จริงๆ พ่อบ้านหวงของตระกูลเยี่ย…ท่านนี้คือคุณนายเหลียงเหลียงเหม่ยเซวียนของตระกูลเยี่ยไม่ใช่เหรอ…”
“เวร ข่าวใหญ่นะเนี่ย!” เป่ยโต่วรีบขึ้นหน้า ชี้นิ้วใส่ทั้งสองคนแล้วเอ่ย
เวลานี้ สีหน้าของเหลียงเหม่ยเซวียนพลันขาวซีด
คนพวกนี้เป็นใครกันแน่ แล้วตามรอบพวกเขาได้ยังไงอีก…แท้จริงมีจุดประสงค์อะไรกัน แบล็กเมล์หรือว่า…
“พวกแกรนหาที่ตาย!”
หวงหมิงคุนขึงตาใส่ผู้อาวุโสสาม
“รนหาที่ตาย?” ผู้อาวุโสสามหัวเราะ “หวงหมิงคุน คุณพ่อบ้านของตระกูลเยี่ย ถึงกับทำพฤติกรรมชั่วอย่างนี้กับเหลียงเหม่ยเซวียน ไม่รู้ใครรนหาที่ตายกันแน่…พวกนี้ต่างก็เป็นนักข่าวบันเทิงทั้งนั้น คุณรอตายแล้วกัน”
“นักข่าวบันเทิง? ”
ได้ยินคำพูดนี้ของผู้อาวุโสสาม สีหน้าหวงหมิงคุนกับเหลียงเหม่ยเซวียนก็เปลี่ยนไปพร้อมกัน
ถ้าคนพวกนี้เป็นนักข่าวบันเทิงจริง แล้วเรื่องของพวกเขาสองคนถูกเปิดเผยออกไป ผลที่ตามมานั้นไม่กล้าคิด!
นี่ไม่เพียงพวกเขา แต่หวงเทียนเอนเตอร์เทนเมนต์กับเยี่ยอีอี…ต่างก็จะโดนโจมตีอย่างใหญ่หลวง…
“พวกแกเป็นใครกันแน่!” หวงหมิงคุนจ้องผู้อาวุโสสาม
ชายชราตรงหน้านี้ หวงหมิงคุนสาบานกับสวรรค์ได้เลยว่าตัวเองไม่รู้จักเด็ดขาด แล้วก็ไม่เคยเห็นมาก่อน…
“ฉันคือใคร?”
พอได้ยิน ผู้อาวุโสสามก็หัวเราะเสียงเย็น “หวงหมิงคุน ก่อนหน้านี้คุณมาเล่นพนันที่บ่อนของพวกเรา แพ้เงินตั้งมากขนาดนั้นแต่ไม่จ่าย ไม่เพียงแค่นั้น ยังยืมเงินก้อนใหญ่จากบริษัทพวกเราจากนั้นก็เล่นซ่อนหากับพวกเรา? ติดหนี้ต้องคืนเงิน เป็นสัจธรรมชีวิต…ทำไม หรือว่าแม้แต่หลักการนี้คุณก็ไม่เข้าใจ? ”
ช่วงนี้ผู้อาวุโสสามสะกดรอยตามหวงหมิงคุนตลอด รู้ว่าหวงหมิงคุนติดการพนันแทบจะทุกหนึ่งวันต้องไปเล่นพนันหนึ่งครั้ง แถมยังติดหนี้บ่อนไม่น้อย
“แก…”
หวงหมิงคุนจ้องผู้อาวุโสสาม เขาติดเงินพนันบ่อนหลายแห่งก็จริง แต่บ่อนไหนๆ ก็ไม่ได้ไม่มีสายตาถึงขนาดกล้ามาหาเรื่องเขาแบบนี้!
“ฉันทำไม คุณติดเงินไม่คืน พวกเราก็หมดหนทางได้แต่ต้องหานักข่าวพวกนี้มาเปิดโปงพวกคุณ จิ๊ๆ นึกไม่ถึงว่าคุณจะเล่นใหญ่ใช่ย่อย ได้อยู่ด้วยกันกับคุณนายเหลียงแล้ว ” ผู้อาวุโสสามหัวเราะเย็นเอ่ย
“ทุกคนถ่ายเยอะหน่อย ข่าวนี้ใหญ่แล้ว พวกเราเป็นเถ้าแก่…หวงเทียนเอนเตอร์เทนเมนต์กับตระกูลเยี่ย พวกคุณต้องดังระเบิดแน่!” เป่ยโต่วส่งเสียงหัวเราะ
“พวกแกเป็นนักข่าวจากไหน แต่ละคนอยากตายรึไงหา!” เหลียงเหม่ยเซวียนชี้เป่ยโต่วพร้อมพูดอย่างโหดเหี้ยม