ราชันเร้นลับ 857 : สะเทือนอารมณ์
คารอนฆ่าตัวตาย? เขียนจดหมายลาตายระบุว่าเราบีบบังคับให้ขายหุ้น? ครอบครัวของเขายืนยันว่าจดหมายเป็นของจริง? หลังจากฟังคำของตำรวจ ไคลน์วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับพลางผุดคำถาม
เมื่อทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ความคิดแรกในหัวก็คือ
บารอนซินดราสเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว!
หลังจากนายธนาคารใหญ่รายนี้เจรจากับเราไม่สำเร็จ มันไม่ลังเลเลยที่จะตั้งตัวเป็นศัตรู!
นอกจากนั้น เห็นได้ชัดว่าเขาทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ทราบว่าดอน·ดันเตสมีความสัมพันธ์กับโบสถ์รัตติกาล รวมถึงส.ส. มัคท์และกองทัพเบื้องหลัง หากเล่นงานโดยตรงอาจนำมาซึ่งปัญหา จึงเบนเป้าไปจัดการกับคารอนซึ่งเป็นคู่ค้าแทน วิธีนี้จะปลอดภัยกว่ามาก แต่ค่อนข้างป่าเถื่อนและโหดเหี้ยม…
ไม่ได้คำนึงถึงชีวิตคนบริสุทธิ์เลยสักนิด… ไคลน์พลันหวนนึกถึงเหยื่อในโศกนาฏกรรมมหาหมอกควัน ความรู้สึกเดือดดาลมากมายปะทุขึ้นในใจ แต่สติยังคงสุขุมเยือกเย็น
ไคลน์อาศัยพลังตัวตลกในการควบคุมสีหน้า แสร้งทำเป็นตกตะลึงสุดขีด ไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเลยสักนิด
“ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหมครับ?”
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูคล้ายหัวหน้าผงกศีรษะเคร่งขรึม
“หากไม่มีเบาะแสมากเพียงพอ พวกเราคงไม่กล้ารบกวนสุภาพบุรุษอย่างคุณ… มิสเตอร์ดันเตส รบกวนติดตามเราไปยังสถานีตำรวจเพื่อทำการสืบสวนคดีด้วย”
ไคลน์ที่ค่อนข้างสงบและมิได้แสดงอาการฉุนเฉียว สมองกำลังประมวลผลด้วยความเร็วสูง ขณะเตรียมตอบสนองบางสิ่ง มันฉุกคิดถึงความไม่สมเหตุสมผล
สำหรับอาณาจักรโลเอ็นในปัจจุบัน การฆ่าคนถือเป็นความผิดทางอาญาร้ายแรง ด้วยตัวตนและสถานะของบารอนซินดราส มีวิธีมากมายในการจะเขี่ยเศรษฐีหน้าใหม่ออกจากเบ็คลันด์ ไม่มีความจำเป็นต้องลงมือถึงขั้นนี้
ต้องไม่ลืมว่า บุคคลในแวดวงชนชั้นสูงอย่างมัน ต้องมีความเข้าใจโลกของผู้วิเศษได้ดีระดับหนึ่ง ย่อมทราบว่ามีผู้วิเศษมากมายที่สามารถตรวจสอบเบาะแสคดีฆาตกรรมได้ละเอียดชัดเจน หากไม่มั่นใจว่าแผนของตนสมบูรณ์แบบ คงไม่เลือกวิธีที่มีความเสี่ยงสูงอย่างการฆ่าคนเพื่อป้ายความผิด
ถึงบารอนซินดราสมีอำนาจในการควบคุมกรมตำรวจทั้งหมด มันเอาพลังแบบนั้นไปใช้กับวิธีอื่นไม่ดีกว่าหรือ?
แม้จะยังไม่รู้ว่าเราร่วมมือกับกองทัพ แต่ก็ต้องรู้ว่าเรามีความสัมพันธ์อันดีกับโบสถ์รัตติกาลและส.ส. มัคท์ บารอนซินดราสไม่น่าจะลงมืออย่างบุ่มบ่ามโดยไม่เตรียมตัวรับมือ… เหนือสิ่งอื่นใด ถ้ามันเป็นคนเลือดเย็นที่สามารถฆ่ามนุษย์ได้เพราะหุ้นสามเปอร์เซ็นต์ แล้วทำไมถึงไม่จัดการกับคารอนตั้งแต่ก่อนที่เราจะซื้อหุ้น? แบบนั้นยังจะง่ายกว่าด้วยซ้ำ… ไคลน์มองหน้าตำรวจฝั่งตรงข้ามด้วยท่าทีครุ่นคิด ยังไม่ตอบกลับไปในทันที
ภายในห้องที่ติดกับห้องรับแขก ซิลและฟอร์สกำลังพิงกำแพงพลางใช้ ‘ประตูบานเล็ก’ ที่ฝ่ายหลังเป็นคนเปิดเพื่อแอบฟังบทสนทนาทั้งหมด
“เราควรทำยังไง? ถ้าตำรวจจะจับเขา เราต้องปกป้องไหม?” ฟอร์สซึ่งไม่ชำนาญงานล่าเงินรางวัล กระซิบถามเพื่อนแผ่วเบา
ฟอร์สมิได้คาดคิดว่าความขัดแย้งทางธุรกิจจะพัฒนากลายเป็นคดีฆาตกรรมใส่ร้าย นอกจากนั้น ยังมีความเป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจปลอมตัวมาในคราบตำรวจ ส่งผลให้หญิงสาวครุ่นคิดหาวิธีรับมืออยู่พักใหญ่
ซิลเองก็ยังไม่มั่นใจเช่นกัน
“ตามปรกติแล้ว บอดี้การ์ดจะปกป้องนายจ้างจากพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายเท่านั้น… แต่ว่า… นายจ้างรายนี้จ่ายหนัก”
ฟอร์สประหลาดใจปนขำขันกับคำตอบ
“ถ้าเขาถูกจับเข้าคุก เธอคิดจะช่วยเขาแหกคุก? ไม่ต้องพูดถึงอันตรายระหว่างทาง ต่อให้เธอทำสำเร็จและช่วยเขาออกมาได้ เธอเองก็จะถูกตั้งค่าหัว ไม่สามารถทำงานเดิมได้อีก ถึงตอนนั้น คิดจะหนีไปพร้อมกับสุภาพบุรุษคนนี้หรือ?”
ขณะพูดคุย ฟอร์สสังเกตเห็นว่าดอน·ดันเตสกำลังจะมอบคำตอบ
สุภาพบุรุษหล่อเหลาและสง่างามเจ้าของจอนสีขาว มองไปยังพ่อบ้านด้านข้างและกล่าวเสียงนุ่มนวล
“ฝากจัดการสองเรื่อง เรื่องแรก แวะไปที่บ้านของบารอนซินดราส แจ้งกับเขาว่ามีใครบางคนต้องการป้ายสีเขา”
พ่อบ้านวอลเตอร์เผยสีหน้าประหลาดใจที่หาได้ยาก มันยังไม่เข้าใจเหตุผลที่นายจ้างออกคำสั่งเช่นนี้
ตามความคิดของมัน ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคดีนี้น่าจะเป็นตัวบารอนซินดราสเอง ไม่เพียงการแวะไปแจ้งข่าวจะไม่เกิดประโยชน์ แต่ยิ่งจะทำให้เกิดความอัปยศมากกว่าเดิม
ไคลน์ยิ้ม
“เขาเพิ่งมาเยือนผมในฐานะแขก แต่หลังจากพวกเราพูดคุยเกี่ยวกับหุ้นสามเปอร์เซ็นต์ คารอนก็ฆ่าตัวตายอย่างผิดวิสัยทันที ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนจะสงสัยในตัวเขา ผมคิดว่าจำเป็นต้องเตือนเขาไว้ นั่นคือสิ่งที่สุภาพบุรุษพึงกระทำ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจผงะเล็กน้อย เริ่มพบว่าคดีนี้อาจซับซ้อนกว่าที่คิด แต่ทางด้านพ่อบ้านคล้ายกับฉุกคิดบางสิ่ง
“ได้ครับนายท่าน ผมจะแวะไปที่บ้านของบารอนซินดราสเพื่อแจ้งเรื่องนี้ รวมถึงแจ้งให้เพื่อนของคุณและเพื่อนของเขาทั้งหมดทราบข่าว”
ด้วยวิธีนี้ ถ้าบารอนซินดราสไม่ใช่คนลงมือ มันจะรีบสะสางปัญญาที่ตามมาแทนดอน·ดันเตสทันที แต่ถ้ามันเป็นคนร้าย การตักเตือนอย่างห่วงใยพร้อมกับกระจายข่าวของดอน·ดันเตสจะสร้างแรงกดดันจากสาธารณชนได้มากพอ ช่วยให้ส.ส. มัคท์และฝ่ายอื่นๆ ยื่นมือเข้ามา ‘ช่วยเหลือ’ ดอน·ดันเตสได้ง่าย
ฉลาดมาก… มีพ่อบ้านดีมันดีแบบนี้นี่เอง… ไคลน์ชมเชยในใจพลางกล่าวต่อ
“ประการที่สอง เรียกทนายส่วนตัวของผมมาสะสางปัญหาจิปาถะ”
หลังจากออกคำสั่งพ่อบ้านและบุรุษรับใช้ ไคลน์มองหน้าตำรวจฝั่งตรงข้าม
“ตกลงครับ ผมจะตามพวกคุณกลับไปที่สถานีตำรวจ ทางนั้นจะได้ไม่ต้องลำบากใจ… แต่ผมจะไม่ตอบคำถามใดๆ จนกว่าทนายจะมาถึง”
ตำรวจที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้า ถอนหายใจผ่อนคลายพลางพยักหน้ารับ
“ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ มิสเตอร์ดันเตส”
ขณะเดียวกัน ภายในห้องเล็กๆ ที่อยู่ติดกับห้องรับแขก ฟอร์สกระซิบกระซาบ
“พวกเราจะตามไปไหม?”
“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันจะซ่อนตัวอยู่ใต้รถม้าและตามพวกเขาไปยังสถานีตำรวจ เรายังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าตำรวจเหล่านี้เป็นตัวจริง!” ซิลตอบเสียงค่อย
เธอเว้นวรรค ตามด้วยถาม
“มีอะไรจะพูดอีกไหม?”
ฟอร์สครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะตอบพลางทำหน้าสะเทือนอารมณ์
“พวกขุนนางและเศรษฐีน่ากลัวเกินไปแล้ว!”
ซิลผงะเล็กน้อย แต่ก็มิได้กล่าวคำใด เพียงเดินไปทางหน้าต่าง วางมือลงบนกรอบและกระโดดลงไปอย่างเงียบงัน
ไม่กี่นาทีถัดมา ไคลน์และเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายโดยสารไปกับรถม้าของดอน·ดันเตส
เมื่อนั่งลง ชายหนุ่มก้มมองพรมผืนหนาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
…
เมื่อถึงสถานีตำรวจ ไคลน์ถูกนำตัวมายังห้องสอบสวน แต่ไม่ว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ถามสิ่งใด ชายหนุ่มก็ไม่ตอบสนอง
รอจนกระทั่งทนายส่วนตัวมาถึง ไคลน์เริ่มให้ปากคำ กล่าวว่าตนเคยพบกับคารอนเพียงหนเดียว และกระบวนการเจรจาซื้อหุ้นทั้งหมดถูกมอบหมายให้ทีมงานมืออาชีพจัดการ ตนมิได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวแม้แต่น้อย
ชายหนุ่มเอาแต่พูดสิ่งเหล่านี้ซ้ำไปมา ส่วนที่เหลือล้วนตอบว่าไม่ทราบ เมื่อเจ้าหน้าที่สอบสวนพบว่าไม่มีความคืบหน้า มันไม่มีทางเลือกนอกจากเชิญออก
ผ่านไปสักพัก เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการให้ปากคำเดินมาหาและกล่าว
“มิสเตอร์ดัน·ดันเตส ตอนนี้คุณกลับไปได้ สุภาพบุรุษคนดังได้เดินทางมาจ่ายเงินประกันตัวให้คุณเรียบร้อยแล้ว”
ไคลน์มิได้ลุกขึ้นทันที ซักถามขณะนั่งบนเก้าอี้
“ใครกัน?”
เจ้าหน้าที่ตำรวจตอบอย่างสำรวม
“บารอนซินดราส”
ไคลน์เผยรอยยิ้มทันที ก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกจากห้องสอบสวน ได้พบกับพ่อบ้านและบุรุษรับใช้
เมื่อออกมาถึงทางเข้าสถานีตำรวจ มันเห็นบารอนซินดราสอีกครั้ง
ผมเผ้าของนายธนาคารใหญ่รายนี้ยังคงหวีเรียบ สีดำแซมขาว รอบตัวมีบุรุษรับใช้และบอดี้การ์ดหนวดเฟิ้ม
“ขอบคุณที่แจ้งข่าว ดันเตส มีเพียงไม่กี่คนที่ยังหลักแหลมและเยือกเย็นได้เหมือนคุณในยามเผชิญเหตุไม่คาดฝัน” ซินดราสยิ้มพลางก้าวมาข้างหน้าสองก้าว ยื่นมือออกมาขอจับ
ไคลน์ยิ้มตอบ
“ผมแค่มั่นใจว่าตัวเองมองคนไม่ผิด”
แน่นอน บารอนซินดราสยังไม่ปักใจเชื่อถ้อยคำป้อยอ จึงหาข้ออ้างขึ้นไปบนรถม้าของดอน·ดันเตสพร้อมบอดี้การ์ด
สำหรับบุรุษรับใช้ มันถูกสั่งให้ขึ้นรถม้าหรูหราและขับตามมา
เมื่อสองข้างทางด้านนอกหน้าต่างเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ล บารอนซินดราสเปิดปาก
“ดันเตส ทำไมคุณถึงได้ข้อสรุปแบบนี้?”
ไคลน์ชำเลืองพ่อบ้านและบุรุษรับใช้ด้านข้าง หัวเราะในลำคอและตอบ
“สองเหตุผล… ข้อแรก ผมเชื่อว่าคุณมีอีกหลายวิธีที่ดีกว่านี้ให้เลือกลงมือ ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงทำเรื่องที่โหดร้าย”
บารอนซินดราสจิบไวน์ขาวภายในรถม้า หัวเราะและกล่าว
“นั่นก็จริง”
“…” มุมปากไคลน์กระตุกเล็กน้อย
“ผมเองก็อยากรู้ว่าคุณจะใช้วิธีไหน”
มันแค่ถามเป็นพิธี ไม่ได้คาดหวังคำตอบที่ชัดเจน ทว่า บารอนซินดราสยิ้มและเปิดปาก
“ในเมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว การบอกคุณคงไม่ใช่เรื่องเสียหาย… วิธีของผมไม่ซับซ้อน ได้ยินมาว่าคุณต้องการเข้าสู่แวดวงชนชั้นสูงใช่ไหม? ผมจะจ้างสตรีที่มีช่วงอายุต่างกันสักสองสามคนมาใส่ร้ายคุณ กล่าวหาว่าคุณเล่นสนุกกับร่างกายและจิตใจพวกหล่อนจนตั้งครรภ์ แต่ไม่ยอมรับเป็นพ่อ หรือถ้าจำเป็น ผมก็จะจ้างเด็กมากอดขาคุณและเรียกพ่อต่อหน้าคนอื่น… นอกจากนั้นก็ยังจะจ้างสามัญชนสักคนมาใส่ร้ายว่าคุณแย่งภรรยาของเขา ทำลายชีวิตสมรสของเขาจนพังพินาศ… ที่นี่คือโลเอ็น อาณาจักรของคนหัวเก่า ไม่มีใครอยากคบคนฉาวโฉ่แบบคุณเป็นเพื่อน เฉกเช่นโบสถ์รัตติกาลที่ให้ความสำคัญกับการแต่งงานและครอบครัว คุณจะถูกพวกเขาเหินห่าง… เรื่องแบบนี้ยากจะชี้แจงให้เด็ดขาด และคนใหญ่คนโตก็ไม่อยากเข้ามาเป็นกระบอกเสียงกับเรื่องแบบนี้ กว่าคุณจะหาหลักฐานมาพิสูจน์ตัวเองได้ ภาพลักษณ์ก็พังพินาศไปไม่รู้ตั้งเท่าไร แล้วจะมีสักกี่คนที่เชื่อคำแก้ตัว? คุณเป็นแค่เศรษฐีใหม่ในเบ็คลันด์ มิได้น่าเชื่อถืออะไรขนาดนั้น… แน่นอน ถ้าคุณยินดีรับเงื่อนไขและขายหุ้นให้ผม ตัวผมจะออกหน้าแก้ข่าวและชักชวนเข้าสู่แวดวงชนชั้นสูงให้เอง… นั่นคือสิ่งที่คิดไว้ในตอนแรก แต่มันคงไม่เกิดขึ้นแล้ว”
ไคลน์อึ้งกับคำอธิบายไปพักใหญ่ มันพบว่าตัวเองช่างไร้เดียงสาเมื่อเทียบกับนายธนาคารมากประสบการณ์
“ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังติดหนี้คุณ….” ชายหนุ่มตอบโดยไม่หุบยิ้ม “เหตุผลข้อที่สอง หากคุณต้องการหุ้นสามเปอร์เซ็นต์ดังกล่าวจริงๆ เมื่อเทียบกันในด้านความมั่งคั่ง ผมไม่มีทางสู้คุณได้อยู่แล้ว ถ้าคุณจะลงมือกระทำสิ่งใด ก็คงทำก่อนที่คารอนจะขาย ไม่ใช่รอให้เขาขายก่อนค่อยฆ่าทิ้ง”
บารอนซินดราสยกมือขวาขึ้น กดปลายนิ้วลงบนขอบหน้าผาก
“คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมต้องการหุ้นสามเปอร์เซ็นต์ดังกล่าวจริงๆ … เพียงแต่ว่า… นี่คือจุดที่คุณเดาถูก ผมเตรียมยื่นข้อเสนอที่คารอนมิอาจปฏิเสธ แต่กลับกลายเป็นว่า เขาด่วนตัดสินใจขายให้คุณจนผมไม่มีเวลาขยับตัว ทำเอาประหลาดใจพอสมควร”
ไคลน์หรี่ตาลงเล็กน้อยโดยไม่กล่าวคำใด
…
กลับถึงบ้านเลขที่ 160 ถนนเบ็คลันด์ ซิลเดินสำรวจรอบบ้านก่อนจะกลับขึ้นไปยังชั้นสาม เห็นฟอร์ส ‘เปิดประตู’ เข้ามาอย่างง่ายดาย
“เป็นยังไงบ้าง? ไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม?” ฟอร์สที่ทำได้เพียงตามอยู่ห่างๆ ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ซิลส่ายหน้าเล็กน้อย
“ไม่มี”
ก่อนจะทำหน้าสะเทือนอารมณ์ เธอแสดงอารมณ์ทันทีและพูดว่า:
“พวกขุนนางและเศรษฐีช่างน่ากลัว”